วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[OS18+/KAILU] Love moves on


Love moves on







            ขึ้นชื่อว่างานสังคม แน่นอนว่าคงหลีกเลี่ยงเรื่องการข่มกันทางฐานะไม่ได้
กลุ่มสุภาพบุรุษซึ่งสวมใส่ชุดสูทราคาแพงมักจะแยกหัวข้อย่อยเป็นหมวดๆในการสนทนา ซึ่งนอกจากเรื่องหน้าที่การงาน จะขาดไม่ได้เลยก็คือพวกงานอดิเรกที่ความจริงเหมือนเอาเงินไปละลายแม่น้ำ ส่วนกลุ่มคุณหญิงคุณนายก็จะชอบโชว์เพชรพลอยน้ำงามซึ่งวางพาดอยู่บนแผงคอ
อ่อ ต้องอย่าลืมที่บริเวณนิ้วกรีดกรายทั้งหลาย ความวาววับช่างชวนให้รู้สึกแสบตา แล้วถ้ายิ่งสะท้อนกับแสงไฟจากแชนเดอเรียจะยิ่งบังเกิดประกายระยิบระยับเป็นคำนิยายของคำว่าราศีจับ ที่จะหาอะไรมาดับความเจิดจ้าคงยาก นอกซะจากจะต้องเป็นแม่งานซะเองและสวยเด้งกว่าทุกคน
จนอายุอานามปาเข้าไปเลขสามแล้วแต่คนริเริ่มจัดงานก็ยังสวยสด ที่พูดคือหมายถึงคนที่เป็นของเจ้าร่างบางระหงทรวดทรงเว้าคอดชัดเจน เห็นหญิงสาวหน้าเด็กแต่บอกเลยว่าลูกสองและต้องบอกอีกว่ามีสามีเป็นถึงอธิการบดีมหาลัยวิทยาที่มักจะถูกวิจารณ์ว่ายังดูอายุน้อยเกินไป
แต่คิมจงอินก็พิสูจน์ให้เห็นว่าวัยสามสิบต้นๆไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารการศึกษา มันอยู่ที่ว่ามีความสามารถมากแค่ไหนและขอบอกตามตรงชายหนุ่มผิวสีแทนไม่เคยกลุ้มใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์ ซ้ำยังขอบคุณที่ผู้คนภายในงานยังคงให้ความสนใจกับชีวิตของตนเสมอ 
แถมนอกจากจะหน้าตาหล่อเหลาเข้ากับชุดสูทสีเทาเขายังเป็นใจเย็นเห็นใครเจอใครก็หยุดพักแวะทักทาย จงอินปล่อยให้คุณนายคิมไปสังสรรค์กับเพื่อนในแวดวงการกุศล ส่วนตนก็หันมาคุยเรื่องกีฬากอล์ฟกับเพื่อนฝูง ร่างสูงร้อยแปดสิบกว่าอยู่ในท่วงท่าเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงขณะยิ้มเล็กยิ้มน้อยพอเป็นพิธีมีหัวเราะตามยามถูกชี้หน้าว่านายก็เป็นใช่มั้ย
ผู้ชายมีภรรยาจะพูดเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่บ่นเรื่องภรรยา
ซึ่งบางครั้งจงอินก็ส่ายหน้าเหมือนไม่เห็นด้วยจนถูกเพื่อนค่อนขอดว่าอวยเมียรักเมียเกินไปกระทั่งชายหนุ่มยักไหล่ก็แล้วจะทำยังไงได้ในเมื่อคนมันรักไปแล้วจนเพื่อนในกลุ่มเริ่มแซวว่าบางทีอาจจะเป็นประเภทกลัวเมียจัด ขณะจงอินก็ไม่ได้บอกปัดแถมยิ้มรับทำเหมือนว่ายอมรับกรายๆ
ก่อนจังหวะนั้นเองจะส่งสายตาหาภรรยาที่ดันหันกลับมามองพอดี จงอินมีรอยยิ้มพิมพ์ใจเมื่อสุดท้ายคุณนายคิมกวักมือเรียกให้เข้าไปหา แล้วในยามที่วงแขนโอบกอดเอวคอดของคนเป็นแม่ของลูกไว้ก็ได้ยินเสียงกระซิบกลีบปากเคลือบลิปกอร์สตอดแถวใบหูบอกว่ามีคนอยากให้รู้จัก
นี่คุณเสี่ยวลูฮานค่ะ เป็นผู้บริจาครายใหญ่ของงานเราในวันนี้  แม่งานหรือภรรยาอาสาเป็นผู้แนะนำทำมือผายให้สามีเห็นได้ง่ายว่าคนไหนคือเจ้าของชื่อเสียงเรียงนาม ก่อนจะส่งสายตาให้สามีว่าจับมือสิคะเมื่อเจ้าของกระเป๋าหนักให้เกียรติยื่นมือมาหาเพื่อจะเช็คแฮนด์ก่อน  
ผมคิมจงอินครับ
คุณคิมจงอินที่เป็นอธิการบดีมหาลัยอินซองใช่มั้ยครับ  น้ำเสียงที่เอ่ยถามน่ะหวานแต่ยังเทียบกับไม่ได้ใบหน้า ทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆแต่ขนตางอนกลับเป็นแผงบวกกับแก้วตาที่จะว่าสวยก็สวยจะว่าเศร้าก็เศร้าแต่เอาเป็นว่างดงามยามแย้มยิ้มด้วยริมฝีปากอิ่มเอิบตอนคนถูกถามพยักหน้า
หน้าตาดีเหมือนที่คนเขาลือกันเลยนะครับ  ลูฮานกระชับมือที่เช็คแฮนด์กันก่อนชักกลับ แล้วซึ่งนอกจากจะแอบทำให้จงอินแปลกใจที่พูดเหมือนไม่รู้จักตน ผู้ชายร่างบางพอๆกับภรรยาของตนก็ดันเอื้อมวงแขนขึ้นโอบเอวหญิงสาวอายุน่าจะคราวเดียวกันซึ่งยืนเยื้องอยู่เคียงข้าง
พอดีคุณลูฮานทำธุรกิจอยู่ที่จีนน่ะค่ะ  ภรรยาเห็นหน้าสามีเหมือนสงสัยเลยแถลงไข  แต่มีภรรยาเป็นคนเกาหลี ต้องขอบคุณคุณเยริมเลยนะคะที่ช่วยขอให้คุณลูฮานมาร่วมงานด้วยจนได้
ขอบคุณอะไรกันคะ ดิฉันมากกว่าที่ต้องขอบคุณที่คุณหญิงจัดงานดีๆแบบนี้ขึ้นมา  หลังจากเอ่ยชมกันไปมาก็พากันหัวเราะเสียงเบาดูจะเข้าขากันดีตามประสาผู้หญิงมีสามีดีพอให้อวดอ้าง ก่อนสองสาวซึ่งสวมชุดหางปลาจะควงแขนกันออกไปสนทนาร่วมกับคุณหญิงท่านอื่น
ปล่อยให้สองสามียืนนิ่งอยู่กับที่ แล้วก็โชคดีที่มีบริกรเดินผ่านมา จงอินเลยคว้าแก้วไวน์ทรงสูง ตั้งใจทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีขณะมีน้ำใจหยิบยื่นน้ำสีองุ่นอมม่วงให้คนต่างชาติอย่างลูฮานที่เอื้อมมือออกมารับจับแก่นแก้วใสจนมือไม้โดนกันแผ่วเบาแล้วไม่ลืมยิ้มมุมปากให้อีกคนเล็กน้อย 
คุณลูฮานทำธุรกิจอะไรอยู่เหรอครับ  พอจิบไวน์ให้หายคอแห้งบ้างเหมือนกัน อธิการบดีมหาลัยเลยได้โอกาสสอบถามทำเป็นเลิกคิ้วนิดๆ ให้ดูมีจริตของความสงสัยใคร่อยากจะรู้
ห้างสรรพสินค้าน่ะครับ แต่ไม่ใหญ่มากนักหรอก  ลูฮานบอกอย่างถ่อมตัวกลัวจะเป็นการอวดเกินไป ก่อนจะต้องเปลี่ยนเป็นฝ่ายทำสีหน้าสงสัยเมื่อชายตรงหน้ายังเอาแต่จ้องหน้า  ครับ?”
คุณใช่คนที่ส่งเตียงนอนมาเป็นของขวัญวันแต่งงานของผมรึเปล่าครับ”  จงอินถามยืดยาวเนื่องจากจำเคล้าเรื่องที่ภรรยาสาวสวยเคยเล่าเรื่องเจ้าของของขวัญที่ดูจะแปลกกว่าชาวบ้านให้ฟัง 
ฮ่าๆ ใช่ครับ ภรรยาผมเป็นคนต้นคิดน่ะ เธอบอกว่าให้ในสิ่งที่ใช้ได้จริงคงจะดีกว่า  ลูฮานว่าเสียงใส ขณะจงอินนึกขำก่อนทำการหยอดมุกลูกผู้ชายคงไม่อายกับเรื่องบนเตียงสักเท่าไหร่ 
ใช้ได้จริงและใช้ได้ดีเลยล่ะครับ ได้มาตั้ง2คนแหนะ
ลูกสาวหรือลูกชายครับ”  ถามไถ่ในจังหวะลอบใช้สายตาสอดส่องมองภรรยาก่อนลูฮานจะหันกลับมายิ้มหวานให้คนตรงหน้าพลางลดนัยน์ตามองลงคงจะอยากดูสไตล์การแต่งตัวล่ะมั้ง
ลูกสาวทั้งสองคนเลยครับ  จงอินตอบอย่างสุภาพ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลท่ามกลางแขกเรื่อมากมายที่ยังร่ายล้อมรอบตัว หรือจะเรียกว่าระวังตัวในฐานะคนมีหน้ามีตาทางสังคม
ดีจัง ผมเองก็อยากมีลูกสาวบ้างแต่ดันได้ลูกชายตัวดีมาซะนี่
อายุเท่าไหร่แล้วครับ  ขยับแก้วไวน์ขึ้นจิบแล้วยิ้มเผื่อไปให้ภรรยาที่มองมาจากอีกฝาก
ย่าง19ครับ แกเรียนอยู่ที่มหาลัยคุณด้วยนะ  พอเป็นเรื่องลูกทีไรประกายตาของคนเป็นพ่ออย่างลูฮานจะสว่างวาบขึ้นทันตา ดูมีความสุขกับการได้พูดถึงลูกรักซึ่งกำลังอยู่ในช่วงวัยแห่งการศึกษา  ปกติภรรยาผมจะอยู่ที่เกาหลีกับลูกครับ มีแค่ผมที่บินไปๆมาๆระหว่างสองประเทศ
คงเหนื่อยแย่เลยนะครับ  จงอินแสดงความคิดเห็นอย่างห่วงใยขณะฝ่ายตรงข้ามเองก็ยกยิ้มรับ ยิ้มน้อยๆตอบกลับยามช้อนนัยน์ตาน่าหลงใหลขึ้นมองอธิการบดี  ก็เพื่อคนที่เรารักนี่ครับ
ลูฮานขยับยิ้มอีกนิดอย่างชอบกลจนคนสบตากลับยังเผลอหลุดยิ้มตาม  “…ผมทำเพื่อเขาได้เสมอ  จงอินคิดว่าตนกำลังเจอคนเป็นพ่อที่ดีและช่างน่ายกย่อง ต้องบอกด้วยว่ารู้สึกคุยได้ไม่มีเบื่อ ดูเหลือเชื่อว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เพิ่งได้เจอะเจอกัน  เหนื่อยหน่อยแต่ก็มีความสุขใช่มั้ยครับ 
มากครับ มีความสุขมากๆจริงๆ  สิ่งที่ลูฮานพูดทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แล้วยิ่งได้คุยกันมากเท่าไหร่ จงอินก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมจนกลั้นอมยิ้มไม่อยู่ดูมีความสุขไปด้วยจนแอบเกินหน้าเกินตา
มากกว่าธรรมดาค่อนข้างเอนไปหาทางพิเศษ   
คราวจริงผมก็เคยบินไปจีนเหมือนกันแต่ไม่ค่อยได้มีเวลาเดินเข้าห้างสักเท่าไหร่  ท่าทีสบายอกสบายใจเหมือนเพื่อนฝูงเล่าเรื่องภายในครอบครัวให้ฟังยังคงปรากฏ  ส่วนมากก็ใช้เวลาอยู่แต่ในโรงแรม”  แถมผ่อนคลายให้ตายก็ไม่เหมือนคนเพิ่งรู้จักกัน
ขณะตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อธิการบดีขยับก้าวเข้าใกล้ลูฮานแค่เอื้อม  ไว้ถ้าไปจีนอีกผมจะไปใช้บริการบ้างแล้วกันนะครับ
ได้เสมอครับ  พยักหน้าพลางตกปากรับคำ  ผมยินดีให้บริการ  เรียกว่าค่อยข้างถือวิสาสะแต่ว่าเพราะหวังดีล้วนๆลูฮานเลยด่วนตัดสินใจใช้ปลายนิ้วปัดรอยฝุ่นบนปกเสื้อเชิ้ต 
มันเลอะน่ะครับ  ช่วยปัดปกเสื้อชายตรงหน้าแค่ผิวเผินก่อนจะกลับไปยืนเช่นเก่าในยามภรรยาเดินกลับเข้ามาหาอ้อมแขน ก่อนคุณนายลู่จะมีการขอตัวคนรักกับท่านอธิการบดีบอกว่ามีคนอยากให้สามีรู้จัก จงอินจึงพยักหน้าว่าย่อมได้และเป็นฝ่ายนิ่งอยู่กับที่มีแค่สายตาที่ทอดตามไป
ชายหนุ่มยิ้ม และใช่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูมีลบลมคมใน มือกร้านคว้าแก้วไวน์อีกแก้วมาดื่มเพื่อดับกระหายและโอบรับเมื่อภรรยาสาวสวยยักย้ายสะโพกเดินตรงเข้ามา ระหว่างนั้นอธิการบดีไม่ลืมถามว่าคนดีเหนื่อยรึเปล่า ส่วนสาววัยสามสิบกว่าก็ส่ายหน้าแล้วเอียงแก้มแนบชิด
คิดโชว์ความหวานในที่รโหฐาน ผลัดกันหัวเราะผลัดกันยิ้มให้ ส่วนมากฝ่ายชายจะเป็นผู้ฟังขณะฝ่ายหญิงยังสนุกสนานกับการได้เล่าเรื่องมากมายท่ามกลางการตกเป็นเป้าสายตา ก็อย่างว่าเป็นถึงคู่รักคนดัง ไม่แปลกที่จะมีคนมองหาอย่างสนอกสนใจ และลูฮานเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
อาจจะให้ความสนใจคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปมากกว่าสายตาคนทั้งงานร่วมกันซะอีกและก็ยังรู้จักหลีกเลี่ยงเมื่อภรรยาถามว่าคุณมองอะไร ชายหนุ่มร่างบางจะแค่ส่ายหน้าแล้วถามหาถึงเรื่องที่สงสัยล้วนเป็นเรื่องภายในครอบครัวขณะมีอีกครอบครัวนักธุรกิจเข้ามาร่วมพูดคุยผสมลงโรง 
กระทั่งคงถึงเวลาอันเป็นเกียรติ ฤกษ์งามยามดีรวมถึงมีการเต้นรำเปิดฟอล์ พิธีกรขอให้คู่ของแม่งานกับคู่ของท่านที่บริจาคเงินหนักร่วมให้เกียรติเปิดงานประกาศผ่านไมค์
เป็นเหตุให้ลูฮานส่ายหน้าน้อยๆค่อยๆแย้มยิ้มราวกับเขินอาย จะเป็นฝ่ายภรรยาที่ดูกล้ามากกว่าและพยายามพาสามีออกมายืนกลางพื้นกระดานไม้ ฝ่ายหญิงระบายยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อดนตรีคลาสสิกดังขึ้นจนสุดท้ายความมีชีวิตชีวานั่นก็ทำให้คนยืนเก้ๆกังๆยอมขยับตามประสงค์
งัดวิชาลีลาศที่จำได้ว่าก้าวสามถอยสามก่อนลูฮานจะทำผิดพลาดด้วยการเหยียบรองเท้าภรรยาและเผลอทำสีหน้าวิตกกังวลจนหญิงสาวต้องเปลี่ยนท่วงท่าเป็นคล้องคอกระซิบบอกพอให้ได้ยินกันสองคนว่าไม่เป็นอะไรแล้วใช้ปลายจมูกหอมแก้มสามีแผ่วเบาหอมเข้าที่แก้มซ้าย
คนสองคนชายตามองกันอย่างมีความหมายท่ามกลางแสงไฟสีส้ม ไม่ต่างจากอีกคู่ที่จมอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน ภรรยาซบหน้าที่แผงอกกว้างระหว่างสามีซบแก้มกับกลุ่มผมสลวย   
ท่านอธิการบดีผู้ชายอวยภรรยาหลับตาดื่มด่ำกับเสียงไวโอรีนแล้วลืมขึ้นใหม่อย่างช้าๆจนปะทะเข้ากับดวงตากลมของสามีของอีกคู่รักซึ่งเคลื่อนย้ายชักช้าผ่านเข้ามาให้เห็นชัดเจนและดูท่าจะกำลังผ่านไป ลูฮานกำลังจะจากไปพร้อมรอยยิ้มละไมที่ส่งให้อย่างเปิดเผย
เป็นรอยยิ้มที่จงอินรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดและการยิ้มกลับก็ไม่ใช่แค่พอเป็นพิธี มันมีแววของความเจ้าชู้ดูเป็นอีกคนที่แตกต่างออกไป สงสัยเพราะจังหวะดนตรีส่งให้ทุกอย่างยิ่งดูเป็นใจ ไม่แปลกที่จะทำสายตาคล้ายเกี้ยวพาราศีที่เหมือนจะแอบส่งไปให้ผิดคนแถมยังลับหลังภรรยา  
ไหนลองกลับมาทบทวนเนื้อหากันสักหน่อยซิมีตรงไหนรึเปล่าที่เราพลาดไป หรือจะไม่ใช่อย่างที่อ่านมา หากว่ากำลังถูกหลอกด้วยบทสนทนาที่ช่างดูปกติ มีประโยคไหนรึเปล่าที่อ่านแล้วเข้าใจได้หลายความหมาย ผมทำเพื่อเขาได้เสมอ…’ เขาที่ว่าหมายถึงลูกชายหรือเขาไหนกันแน่
หรือจะเป็นเขาที่ส่งสายตามองมาเหมือนจะกลืนกินหรือจะเป็นคิมจงอินที่ยิ้มหวานหยดจนตนอดเขินอายแทบไม่ได้ขณะเลือดในกายมันชักระอุ ยิ่งได้มองดูอีกคนแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ลำคอของลูฮานก็ยิ่งแห้งผากยากที่จะไม่รู้สึกตรงบริเวณขาหนีบเหมือนถูกบีบเฟ้นด้วยฝ่ามือที่มองไม่เห็น
แล้วที่เห็นก็จะมีแต่ภาพวันวานย้อนเข้ามาในโสตประสาท แค่สักสองวันได้มั้ยที่กกกอดกันไม่ได้หมายถึงภรรยากับลูฮาน แต่หมายถึงลูฮานกับผัวชาวบ้านที่ยืนห่างออกไปแค่ไม่กี่วา
ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่นะจะบอกว่านี่คือการเฉลยอย่างเบ็ดเสร็จ เสี่ยวลูฮานผู้มีภรรยาแล้วแถมลูกชายอีกหนึ่งเป็นชู้กับคิมจงอินอธิการบดีซึ่งมีลูกสาวถึงสองคน จนย่างเข้าปีที่สองได้แล้วมั้งที่ผู้ชายลูกหนึ่งอย่างร่างบางบินกลับไปมาระหว่างสองประเทศ จะว่าแวะมาทำธุระด้วยก็ใช่ให้เวลากับครอบครัวไม่เคยขาดและในยามมีเวลาพักเบอร์มีจึงโทรนัดอีกคนออกมาเจอกัน
นัดออกมาจอยเวลาร่วมกันและคงไม่ใช่แค่นั่งกินข้าวเอาช้อนส้อมเข้าปาก อย่างอื่นต่างหากที่เข้าแล้วออก อวัยวะคล้ายทรงกระบอกมักจะผลุบเข้าผลุบออกตรงบริเวณขอบริมฝีปากอิ่ม แทนที่จะได้ลิ้มรสเปรี้ยวหวานมันเค็มของอาหาร ความจริงคือน้ำสีขาวขุ่นที่ยืดยานหยดใส่ลิ้น
ที่กินกันเข้าไปน่ะดูท่าจะมีแต่เนื้อสดของสัตว์ใหญ่ ซุกไซร้กันไปแลกลิ้นกันมาจนหัวเตียงชนฝาผนังดังกึกและกึกซ้ำๆทำกิริยาไม่เกรงใจห้องข้างเคียงจนฟูกเตียงโยกตามจังหวะ โรงแรมห้าดาวน่ะลืมไปได้เลย โมเตลข้างทางคือรังรักของแท้เป็นการป้องกันคนอื่นระแคะระคายเนื่องจากต่างฝ่ายต่างก็มีชื่อเสียงให้รักษา อีกอย่างคงเพราะว่าชอบฟังเสียงสปริงของเตียงเก่าเด้งเอี๊ยดอ๊าด
แต่อาจจะไม่เด้งสู้เท่าเนื้อก้นซึ่งโดนกระแทกกระทันเป็นประจำยามทำท่วงท่าโปรดปราน ลูฮานชอบคลานเป็นสัตว์สี่ขาขณะมีจงอินขึ้นขี่อย่างชำนิชำนาญก่อนการสมสู่อย่างเร้าร้อนจะดำเนินต่อไปไม่มีพัก กระทั่งสุดท้ายน้ำเดินในที่สุดกาวสีขาวขุ่นไหลซึมตามรอยต่อที่ยังถูกอุดสนิท
คิดว่าครั้งเดียวคงน้อยเกินไป ต่อให้เหนื่อยล้าจากการเดินทางสักแค่ไหน เจ้าของห้างให้รอบที่สองกับท่านอธิการบดีได้เสมอและเผลอๆก็ต่อด้วยรอบสาม เพราะความรักล้วนๆไง
รักทั้งๆที่รู้ว่าไม่ถูกต้อง แต่แล้วใครล่ะที่เป็นคนบัญญัติความหมายของคำว่าถูกต้อง ลองมาลองเองดูสิแล้วจะรู้ว่ามันหอมหวานแค่ไหน ตนกล้าเอาหัวเป็นประกันได้ว่าในยามอิงแอบแนบชิดหลังจากเสร็จกิจ การได้นอนระยะประชิดหลังจากตกเป็นของกันและกันมันช่างมีความสุข
ไม่มีการลุกขึ้นไปทำความสะอาดระหว่างนอนกอดกันแล้วปล่อยให้คราบน้ำเหนียวเหนอะเป็นหลักฐาน แค่เอาผ้าห่มมาพาดกลางตัวอย่างลวกๆ เผื่อมีกรณีฉุกเฉินจะได้สะบัดออกทันที เผื่อมีอารมณ์ขึ้นมาจะได้ไม่ต้องแก้ผ้าให้เสียเวลาอีก จงอินมักจะหยอดล้อด้วยถ้อยคำหยาบโลน
ถามว่าโดนจุดนั้นแล้วรู้สึกอย่างไร เวลาตนสอดใส่น่ะเสียวสะท้านมากรึเปล่า
ก่อนลูฮานซึ่งใช้ปลายนิ้วเกาแผงอกกว้างเล่นจะตีฝ่ามือลงไปเบาๆ แล้วอ๋อมแอ๋มว่าใครเขาถามกันตรงๆแบบนี้ คนสีหน้าอิดโรยมีท่าทีเขินอายที่ดูยังไงก็เป็นจริตร้ายมากมารยาขณะเคลื่อนตัวนอนหนุนท่อนแขนแข็งให้ยิ่งถนัดและหันหน้าเข้าหา ริมฝีปากอิ่มอ้าก่อนงับเข้าที่ตุ๋มไตสีน้ำตาล
ลูฮานน่ะร้ายตาใสและไม่มีทางที่คิมจงอินจะปฏิเสธสัมผัส ชายหนุ่มปล่อยให้ร่างบางได้เป็นฝ่ายปรนนิบัติงัดวิชาขึ้นมาใช้ ให้สิทธิ์ในการโยกย้ายสะโพกเองได้อย่างเต็มที่ขณะมีการปรึกษาหารือเสียงกระเส่ากันไปพลางๆ ร่างบางถามว่าไปกินอะไรต่อกันดีก็สีหน้าก็บิดเบี้ยวไปด้วย วิถีคนรวยจงอินรีบตอบว่าอยากกินอาหารอิตาลีขณะที่รับรู้ได้ว่าจังหวะยกก้นขึ้นลงของอีกคนชักถี่
เรียกว่าตะบี้ตะบันคนเคลื่อนสะโพกดันทุรังจนแก่นกายที่ค้างอยู่ในกายแทบหักกลาง ร่างบางนั่งแช่ระหว่างเนื้อตัวสั่น พักสักสิบวินาทีก่อนที่จะค่อยๆร่อนสะโพกอีกครั้งทำอย่างเชื่องช้า เป็นการนวดผ่อนคลายไปในตัวมากกว่าขณะชายหนุ่มที่นอนข้างใต้ทำสีหน้ามีอารมณ์ร่วมแถมคำราม
จงอินส่งเสียงโทนต่ำพลางยกทั้งสองฝ่ามือขึ้นขย้ำหน้าอกร่างบาง ก่อนเป็นฝ่ายรั้งต้นคอขาวลงมาและไม่ลืมยื่นปากเข้าหา ให้สองริมฝีปากมาบรรจบกันตรงกลางทางลากลิ้นออกมาเลีย
กระทั่งเสียงเชียร์ทำให้ตื่นจากจินตนาการสงสัยประเด็นท่านอธิการบดีจูบเมียรักกลางงานการกุศลจงกลายเป็นหัวข้อข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์สังคมฉบับพรุ่งนี้
หรือบางทีอาจจะถูกคนในแวดวงเดียวกันล้อเลียนไปอีกนาน รวมถึงเสี่ยวลูฮานที่ส่งสายตาล้อเลียนคิมจงอินที่สามารถปรับสีหน้าได้ทันควัน เขินอายแต่พองามตามประสาคนเป็นสามีระหว่างที่ปล่อยให้ภรรยาใช้ปลายนิ้วช่วยเช็ดคราบลิปสติกที่ติดมุมปากหลังจากจูบโชว์ทุกคนไป
จนอาศัยว่าได้พิธีกรช่วยพูดเข้าสู่ช่วงต่อไปท่านอธิการบดีกับภรรยาเลยรอดตัวได้อย่างหวุดหวิด เปลี่ยนไปยืนประชิดแถวผนังห้องจัดงานเลี้ยงหลีกเลี่ยงแขกเรื่อแต่ก็ยังไม่วายโดนแซวเป็นครั้งคราว ทำเอาสาวเจ้าเขินจนต้องรีบซบหน้ากับอกสามี ส่วนคนที่รับหน้าก็คือคิมจงอิน
ดูท่าลูกคนที่สามคงจะอีกไม่นานสิน่ะครับ  ประโยคแซวหมั่นแวะเวียนมาแต่คงไม่น่าใจเท่าประโยคนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะคนพูดคือใคร ลูฮานยักมุมปากยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างรู้กันและสื่อความหมายผ่านสายตาหยอกล้อ  ผมขอรับขวัญเด็กที่กำลังจะเกิดมาเลยได้มั้ยครับ
คุณลูฮานก็พูดเกินไปค่ะ จริงมั้ยคะจงอิน  คุณนายคิมยิ้มเขินจนแก้มปริก่อนที่จะขอตัวออกไปเมื่อพนักงานฝ่ายดูแลสถานที่จัดเลี้ยงเข้ามากระซิบกระซาบ
ทิ้งให้เหลือกันแค่สามคนในบริเวณแต่ก็ไม่เป็นปัญหาใดๆในการพูดคุย คุณนายลู่ดูจะสนใจเรื่องการศึกษาไม่น้อยคอยถามอธิการบดีคิมอย่างกระตือรือร้นจนกระทั่งได้ยินเสียงสามีร้องอุทานแผ่วเบา สาวเจ้าจึงหันกลับมาและเห็นว่าเสื้อสูทสามีเลอะน้ำสีม่วงพอดิบพอดี  คุณคะ
ไม่เป็นไร ผมว่าจะไปห้องน้ำสักหน่อย  จะโทษใครได้เพราะทำน้ำเลอะเครื่องแต่งกายเอง ดังนั้นหลังจากออกตัวว่าจะไปห้องน้ำ ลูฮานก็แค่กำชับให้ภรรยารออยู่ในงานอย่าไปไหน
จะหายไปไม่นานแล้วรีบกลับมาแน่นอน ตอนจะไปก็ไม่ลืมฝากคิมจงอินช่วยดูแล
งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ  เผอิญว่าคุณนายลู่เห็นหลังเพื่อนสาวเดินอยู่ในงานไวๆและถ้าจะให้ยืนคุยกับชายอื่นสองต่อสอง สู้ลองเดินไปหาเพื่อนที่เป็นเพศเดียวกันคงน่าจะดีกว่า
ตามสบายครับ  เพราะไม่มีเหตุผลให้ต้องรั้งจงอินจึงตอบรับอย่างยิ้มแย้ม
ก่อนจะออกเดินอย่างสง่าผาเผยไม่เคยปกปิดว่าจะไปไหน จะเรียกว่าแอบเดินออกมาจากงานคงไม่ใช่ ก็แค่เดินผ่านประตูไม้บานใหญ่อย่างนิ่งสงบและบังเอิญพบกับเสี่ยวลูฮานที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำสภาพเสื้อสูทเปียกเล็กๆพลางเอ่ยปากถาม  กำลังจะไปไหนเหรอครับ    
ที่รถน่ะครับ เผอิญว่าผมลืมโทรศัพท์ไว้ในนั้น  จงอินหยุดยืนสนทนาที่หน้าลิฟต์ซึ่งเยื้องกับทางเข้าห้องน้ำชายก่อนจะเผลอยิ้มเมื่อชายร่างบางตั้งคำถามอีกครั้ง  ให้ผมไปเป็นเพื่อนมั้ยครับ
อธิการบดีขยับเดินไปทางขวาเมื่อประตูลิฟต์เปิดอ้ากว้าง เท่านั้นก็เหมือนเป็นสัญลักษณ์เชิญชวนให้อีกคนเดินเข้าไปก่อนกรายๆ ไม่ต้องตอบให้เสียน้ำลายลูฮานก็เข้าใจและขยับตัวทันที
แล้วตอนอยู่ในลิฟต์ก็แทบจะไม่มีการถามไถ่ เพียงคำถามเดียวที่ชายร่างบางสนใจก็คือ
ไม่มีคนขับรถมาด้วยเหรอครับ
วันนี้ผมขับมาเอง 
เลยเรียกได้ว่าทางสะดวก สมบูรณ์แบบแทบจะไม่ต้องกังวลกับความสงสัยใคร่รู้ของใคร
ภายในลานจอดรถของทางโรงแรมซึ่งเงียบสงบจะพบไฟสว่างเป็นจุดๆ ชุดสูทที่สวมแล้วเป็นผู้ดียังมีอยู่บนร่างเกือบจะครบ แต่เพื่อกันการเลอะคราบไม่พึ่งประสงค์คงต้องต่างฝ่ายต่างถอดกางเกง จะได้สะดวกในการละเลงรักเบาะหนังด้านหลังคนขับถูกจับจองด้วยสองร่างที่อดรนทนมานาน อยู่ในงานด้านบนน่ะก็แค่การแสดง พอถูกแสงสีก็ต้องทำตัวเป็นคนดีมียิ้มให้กันตามอัธยาศัย
แต่ตั้งแต่เข้ามาภายในรถแทบจะยังไม่ได้ยิ้มให้กันเลยสักนิด คิดแต่ว่าจะบริหารเวลาอย่างไรให้ได้ประโยชน์ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลูฮานมุดหว่างขายาวก่อนจะใช้ปากสาวแก่นกายที่ค่อยๆขยายกลายเป็นโตและคับเต็มที่ในโพลงปาก ยากจะขยับจนต้องเปลี่ยนจากใช้ปากงับเป็นแค่เล็มก่อนเต็มใจกลืนน้ำสีขาวซึ่งซึมตรงส่วนปลายขณะใช้เกลียวลิ้นแลบเลียจากล่างขึ้นบน 
ร่างบางไม่ลืมช้อนสายตามองคนที่จ้องอยู่ก่อนอย่างออดอ้อนและตอนที่รับรู้ว่าอีกคนเกือบจะถึงฝั่งฝัน ลูฮานจึงได้รีบถอนริมฝีปากออกแล้วก้าวขาซ้ายพาดวาดผ่านตักแข็ง แต่ยังไม่ได้ลงแรงนั่งเต็มร้อย ก้นงอนลอยอยู่ในอากาศระหว่างเอามือควานหาของแข็งที่แรกๆเหมือนจะขยายใหญ่ไปจนติดขัดแต่สุดท้ายพอพยายามก็สามารถยัดเข้ากลางหว่างขาได้สำเร็จ
ยังเป็นลูฮานที่ค่อยๆถดก้นนวลเนียนลงนาบกับหน้าตัก อย่างกับเป็นพวกโรคจิตที่รู้สึกดีเวลาที่ความบวมเปล่งของชายหนุ่มแตกภายใน ไหล่แคบกระตุกเล็กน้อยยามที่ช่องทางตื่นเต้นโดนฝอยน้ำกามกระเด็นใส่ ความเหนียวกระเซ็นเป็นผลให้เกิดความหล่อลื่นตอนจงอินยื่นมือคว้าเอวร่างบางไว้ทั้งสองมืออย่างแน่นหนาและพาขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวใช้กำลังแขนยกสะโพกตรงหน้า
            ท่านอธิการบดีนั่งเป็นฐานที่อ้าขาขณะคนเป็นเจ้าของห้างนั่งหันหน้าออกและพอได้ลองขยับจนความแอดอัดเริ่มเข้าที่เข้าทาง รองเท้าหนังของลูฮานเลยได้ว่างบนพรมเช็ดเท้าภายในรถส่วนตัวสักที แล้วทีนี้ก็ค่อยถนัดถนี่หน่อยจะเอาจังหวะเบาค่อยก็สามารถบังคับเองได้สบายๆ
            ในชั่วโมงเร่งด่วนจวนจะได้เวลาต้องกลับขึ้นไปด้านบน ต่างคนจึงต่างช่วยกันทำเวลาให้ทันจนบังเกิดความเมามันสั่นไปทั้งหน้าขา คิมจงอินกัดฟันเกร็งจัดจนสักกรามขึ้นรูปขณะไล่จูบต้นคอขาวไม่หยุด ส่วนเสี่ยวลูฮานก็เอาแต่พูดเหมือนคนกำลังสวดมนต์ที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับเป็นประโยคไม่ได้ สัมผัสได้แค่ว่าหายใจหืดหอบแทบตายระหว่างใช้สองมือยืดเบาะนั่งด้านหน้าเป็นหลัก
สองสะโพกไม่มีการหยุดพักสักวินาทีเดียว เทียวส่งเทียวรับตามประสาคนเคยเข้าขา ลูฮานบดขยี้เบียดเนื้อก้นลงมาอาศัยแรงโน้มถ่วงช่วยระหว่างจงอินก็ช่วยสวนสะโพกขึ้นพอดีมีกระแทกย้ำซ้ำๆทำเหมือนจะเอาให้ผนังภายในช่องทางบุบสลาย เป็นฝ่ายเพิ่มทั้งความแรงและความรวดเร็ว     
น่ากลัวว่าจะต้องปวดเอวในภายหลัง แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ดังนั้นท่านอธิการบดีจึงไม่คิดสนใจ ที่ให้ความสำคัญคือทำอย่างไรก็ได้ให้ความอึดอัดในตอนนี้ถูกรีดออกจนหมด ชายหนุ่มอดเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่ได้เมื่อสัญชาติญาณเข้ามามีบทบาทและกลายเป็นใหญ่
มีอำนาจขนาดไม่ยอมฟังเสียงทัดท้านของลูฮานที่ครวญครางเสียงสูงราวกับจะขาดใจตาย ฝ่ามือทั้งสองข้างนั่นจับเอวร่างบางไว้อย่างมั่นคงบังคับให้ตั้งตรง จงอินคงอยากแสดงฝีมือในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะเล่นใหญ่น่าดูขณะมีเสียงอู้อ้าคำรามต่ำเป็นคอรัสรับกับเสียงหนังสดกระทบหนัง
จนร่างบางขาสั่นมันกระเพื่อมไปทั้งตัวมัวแต่ส่งเสียงจนลืมว่าต้องห้าม ซ้ำยังกลับลำทันทีมีขอความหยาบโลนเพิ่มเริ่มคิดว่าเป็นไงเป็นกัน ยังไงซะรถคันนี้ก็อยู่ในมุมอับและโชคดีอีกชั้นที่มันถูกเสาบังแทบมิด แถมฟิล์มรถก็ติด มิดชิดพอให้ทำเรื่องอย่างว่าใครจะว่าน่าไม่อายก็ช่างเขาเถอะ
ถ้าต้องเจอกับคดีแย่งสามีชาวบ้าน ลูฮานก็คิดว่าตัวเองพร้อม ยอมขึ้นโรงขึ้นศาลถ้ามันจะแลกมากับความสุขชั่ววูบซึ่งวนลูบไม่มีหยุดอยู่อย่างนี้ ความสุขที่เหมือนบทเพลงซึ่งบรรเลงเรื่อยๆ มีเอื่อยแต่ไม่น่าเบื่อ กลับกันมันช่างเร้าใจลักกินขโมยกินเป็นอะไรที่ช่างน่าตื่นเต้น เห็นอยู่ว่าบาปแต่ถามว่ากลัวตกนรกมั้ยก็ไม่ เพราะกว่าจะตายจนตกนรก ตนก็ได้ไปชมสวรรค์ก่อนตั้งหลายที  
มันมีแต่ได้กับได้คิมจงอินเองก็คิดเช่นนั้น มันสนุก ไม่เชื่อก็ลองดูสิ
ยิ่งถ้ามีคู่ขาที่พร้อมจะเข้าใจความเป็นไปของตนจนรู้กระทั่งว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร
คนบนตักไม่เคยมีปริปากบ่นสักคำยามตนหลั่งภายในอีกสักกี่หนอัดฉีดของเหลวเข้าก้นจนไหลทะลักล้นย้อยลงมาตามความยาวของแก่นกาย แต่นี่ถ้าเป็นภรรยารายนั้นพอหว่างขาขาวเลอะเข้าหน่อยก็จะแอบหงุดหงิด รักกันมากมายแต่พอเสร็จกิจก็แยกย้ายไปนอนกันคนละฝั่ง
หลังจากหลั่งภายในก็ไม่เคยได้มีการรอเวลาให้อาการตอดรัดคลายตัวร่วมกัน มันสนิทแต่ก็ห่างเหินไม่เกินเยียวยาแต่พอมีเสี่ยวลูฮานเข้ามาในชีวิตก็สามารถทดแทนในสิ่งที่ทำกับภรรยาไม่ได้
อย่างน้อยภรรยาก็ไม่ใจกล้าพอจะฉีกแข็งฉีกขาดาหน้าเข้าหาตนก่อน จงอินเพิ่งค้นพบว่าคนประเภทที่ชื่นชอบคือพวกใจกล้าหน้าหนาสิดีเวลามีอะไรจะได้พูดกันตรงๆไม่ต้องอ้อมคงอ้อมค้อม อีกอย่างก็ชอบคนที่คอยปรนนิบัติการที่ลูฮานลดตัวลงนั่งตรงหว่างขาก่อนลิ้นยาไปทั่วบริเวณแก่นกาย การที่ร่างบางตั้งใจจะช่วยทำความสะอาดช่วยเพิ่มคะแนนความพิศวาสขึ้นเป็นโข
กระทั่งมีเบอร์โทรเข้า ลูฮานควักเครื่องมือสื่อสารออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทด้านในขณะยังใช้ลิ้นกินน้ำกาม ทำเสียงน่ากลัวยามซดแล้วรีบค่อยกลืนลงคอ พอได้ยินเสียงใสจากปลายสายก็กรอกเสียงหวานใสตอบกลับทำทักทายภรรยาตามปกติ  ครับ พอดีผมลงมาสูดอากาศข้างล่างน่ะ 
ลูฮานเอ่ยด้วยโทนน้ำเสียงเป็นปกติ ไม่มีตื่นเต้นหรือตระหนกตกใจ ฟังแล้วรู้สึกเหมือนสบายใจมาก ปราศจากความรู้สึกผิดจนบางทีก็ยิ่งดูน่ากลัว  ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวผมกลับขึ้นไป
รีบขึ้นมานะคะ ใกล้ถึงคิวคุณขึ้นพูดบนเวทีแล้ว
ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรีบขึ้นไป  ฝ่ายสามีรับคำก่อนทำเซอร์ไพรส์เล็กๆ  ที่รัก ผมรักคุณนะ
อะไรของคุณคะ ฮ่าๆ ฉันก็รักคุณค่ะ  แม้จะงวยงงแต่น้ำเสียงมีความสุขก็ตอบกลับมาแล้วชิงตัดสาย เธอไม่เคยเอะใจว่าในขณะที่สามีกำลังรอฟังประโยคบอกรักจากเธอ ...สามีของเธอกำลังส่งสายตาให้ชายอื่นพลางใช้ลิ้นลื่นช่วยทำจนน้ำกามปริ่มอีกรอบ
ดูดปากจนแก้มตอบก่อนคลายออกอย่างมีจริต ลูฮานแลบลิ้นกินน้ำในส่วนที่เลอะรอบขอบปากขณะย้ายขึ้นมานั่งบนตักแข็งอีกรอบ แถมมอบจูบดูดดื่มเป็นของสมนาคุณหลังจากเก็บมือถือเข้ากระเป๋าเสื้อไว้อย่างเก่า แล้วท่าทางขี้ออดอ้อนของร่างบางก็ทำเอาคิมจงอินหัวเราะขบขันโชว์ฟันด้วยการแสยะยิ้มเล็กๆ ความตลกมันสั่งสมตั้งแต่อีกคนบอกรักปลายสายแต่ดันใช้ลิ้นช่วยตน
จนอดที่จะมองดวงหน้าด้วยสายตาเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์ไม่ได้
คุณพูดว่าผมรักคุณเนี่ยนะ  ท่านอธิการบดีทวนประโยคราวกับไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ระหว่างกอดเอวคอดไว้หลวมๆแล้วจูบปากคนที่ก้มหน้าลงมาดังจ๊วบแรงๆก่อนจะผละจากกัน    
ผมรักภรรยาตัวเองนะ  ลูฮานพูดนัยน์ตาใสซื่อพลางเอามือลูบลำคอแกร่งเล่นไปมา
ร่างบางหน้านิ่งแต่แววตากำลังยิ้มยิงฟันกว้าง  “…แต่ผมรักคุณกับลีลาของคุณมากกว่า







 ***ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
แต่งสเปไคลู่ขึ้นมาเนื่องในวาระวันเกิดเพื่อนซึ่งเป็นสาวกคู่นี้ แต่จะเก็บไว้ให้นางอ่านคนเดียวก็ดีจะใจร้ายไปหน่อยเลยมาปล่อยให้ทุกคนที่ชอบคู่นี้ได้อ่านกันด้วย มีความสุขแล้วใช่มั้ยอลิสศรี ฮี่ฮี่ รัก 
hashtag #fcuncenfic

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น