Tell
Me (What Is Love)
เสียงล้มครืดดังสนั่นนึกว่ามีการระเบิดเกิดขึ้นในห้องพัก
…แต่ความจริงเป็นข้าวของซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะแก้วต่างหากที่ถูกมือใหญ่ปัดกวาดอย่างแรงจนล้มระเนระนาดในคราวเดียว
ดอกไม้ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดลงไปนอนแน่นิ่งท่ามกลางแอ่งนองและเศษแจกันที่แตกเป็นเสี่ยงระหว่างที่เสียงทำลายเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องยังคงดังต่อไป
โซฟาบุหนังขนาดใหญ่ถูกฝ่าเท้ายัดจนเคลื่อนไหวจากตำแหน่งเดิมและคนเกรี้ยวโกรธก็เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
โอเซฮุนกลายเป็นผู้ชายเจ้าอารมณ์
หัวฟัดหัวเหวี่ยงขณะส่งเสียงหอบหายใจรุนแรง ทั้งที่เหนื่อยแทบแย่และรู้ว่าเสียงแรงโดยเปล่าประโยชน์
แต่คนร่างสูงโปร่งแค่ต้องการระบายความอัดอั้น อย่างน้อยการใช้กำลังมันก็ช่วยได้
รู้สึกดีที่อย่างน้อยข้าวของมากมายก็รู้สึกเจ็บเหมือนตนบ้าง
ช่วยกันลดความทรมานโดนการแบ่งให้และต่อให้ถูกตราหน้าว่าแสนใจร้ายแต่แล้วจะทำไม
ในเมื่อของทุกอย่างภายในห้องนี้ก็เป็นเงินตนที่ซื้อมา
ถ้าทนมือทนเท้าไม่ได้ก็ให้รีบไสหัวออกไปซะ
…รีบไสหัวออกไปให้ไวเหมือนใครบางคน ‘อย่าตามหาพี่…’
ใครจะอยากไปตามหาคนพรรค์นั้นกัน
สำคัญตัวเองผิดไปรึเปล่า “เหอะ…” คนหยิบเศษกระดาษขึ้นมาอ่านทวนอีกครั้งส่งเสียงในลำคอเยาะเย้ยความมั่นอกมั่นใจที่อีกคนกล้าเขียนเป็นลายมือหวัดๆ
ก่อนกระดาษแผ่นในมือจะถูกขย้ำกำจนแน่น
จนแขนยาวขึ้นเส้นเลือดเขียวเป็นเกลียวชัดบ่งบอกว่าเซฮุนกำลังเกร็งจัด
พยายามจะอดกลั้นแต่มันไม่ไหว
สุดท้ายเลยปาทิ้งออกทางหน้าต่างที่เปิดกว้างขว้างจนสุดแรง แล้วตามด้วยเก้าอี้ไม้อาศัยว่าใกล้มือเลยจับโยนใส่บานหน้าต่างข้างเคียงที่ยังปิดสนิท
กระทั่งเกิดรอยร้าวก็ยังไม่คิดสำนึก คึกจัดสงสัยเพราะเลือดในการมันเดือดพล่านเลยอยากหาทางระบาย
เพราะเลือดในกายมันร้อนรุมกลุ้มใจจึงใช้กระดูกข้อนิ้วซัดรอยร้าวของหน้าต่างเข้าให้และใช่ว่ารอบเดียวจะจบ
ในยามที่สบถด้วยถ้อยคำหยาบคายสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ทยอยหลุดออกจากริมฝีปากบาง
หน้าต่างต้องคอยเป็นฝ่ายรองรับแรงหมัดที่ขยันระดมชก
ทั้งที่กำลังถูกรอยร้าวของกระจกบาดผิวหนังจนได้แผลและมีเลือดอาบแต่เซฮุนก็ยังทำเหมือนไม่เจ็บไม่สะทกสะท้านใดๆ
ทางกายอาจจะไม่… แต่สายตามันโกหกได้ที่ไหนล่ะ
นัยน์ตาน่ะบอกทุกอย่างหมดแล้ว
แม้จะมีแววแค้นเคืองและกรุ่นโกรธ
แต่ขอโทษทีพอดีชายหนุ่มยังปิดแววตาแห่งความคะนึงหาไม่มิด
ชั่ววูบนึงคิดแต่ว่าทำไมถึงได้จากกันไปง่ายดายนัก
แล้วทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นล่ะ …เป็นจริงหรือเป็นความฝัน ตกลงรักกันหรือไม่รักกันแน่
แค่บอกเหตุผลสักประโยคก่อนจะไปมันยากนักเหรอไง
แถลงไขสักคำว่าตนทำอะไรให้เคืองโกรธรึเปล่า อยากให้คุกเข่าขอโทษก็ย่อมทำได้ …ไม่ใช่จู่ๆก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในตอนรุ่งสาง
ทำเป็นวางกระดาษแผ่นน้อยเหมือนนางเอกในนิยายน้ำเน่าเอาไว้ให้ตนดูต่างหน้า
มีแต่คนไร้สมองเท่านั้นแหละที่จะเชื่อกับประโยคกึ่งคำสั่งกึ่งขอร้องของเสี่ยวลูฮาน
อย่าตามหาอย่างนั้นเหรอ? ในเมื่อร่างบางรู้ดีว่าตนไม่มีทางเชื่อฟังแถมยังเหมือนหยามคนที่ประเภทชอบขัดคำสั่ง
คิดว่าประโยคสั้นๆจะหยุดความดื้อรั้นของตนได้งั้นสิ?
มีแต่จะยิ่งอยากเอาชนะ …ถ้าตราบใดยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าสุดท้ายถูกทิ้งเพราะอะไร
ชายหนุ่มขอสาบานว่าจะไล่ลาร่างบางไปตลอดชีวิต
จะตามจองเวรแม้ต้องพลิกแผ่นดินหาแล้วอย่ามาถามหาความใจดีกับตน
เพราะคนที่ถูกกระทำก่อนก็คือตน
คนอย่างโอเซฮุนก็เจ็บเป็นนะ
เจ็บมากด้วย เจ็บที่ใจจนไม่เหลือความรู้สึกไปถึงส่วนอื่น
ขนาดยืนมองมือตัวเองที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด
จนหยดเลือดไหลย้อยลงตามง่ามนิ้วและดิ่งลงตามแนวข้อมือ
มันชาดิกขณะสิ่งเดียวที่เต้นแรงก็คือก้อนเนื้อในอกซ้าย
คล้ายถูกมือล่องหนบีบขยำขย้ำหัวใจตนเหมือนกำก้อนดินน้ำมัน
มือนั้นบีบคั้นกะเอาให้ตาย …แต่เซฮุนจะไม่ยอมตายไปคนเดียวแน่นอน
อย่างน้อยถ้าต้องตกนรกก็คงจะลากตัวเสี่ยวลูฮานไปด้วยกัน “…ผมหาพี่เจอแน่”
ทั้งที่ลั่นวาจาว่าจะต้องทำให้ได้แต่ไหงมานั่งเมาหัวราน้ำทำตัวรุ่มร่ามกับเพื่อนฝูง
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งตลกเหมือนคนจะตายหัวเราะกับแค่เรื่องการกระจายตัวของควันบุหรี่ในอากาศ
แถมมีการทำมือทำไม้คล้ายคว้าสิ่งที่จับต้องไม่ได้จนเพื่อนชายในกลุ่มต้องรีบตะคลุบตัวกลัวจะล้มหัวทิ่ม
เพื่อนคนหนึ่งแอบถีบก้นโอเซฮุนอย่างหมั้นไส้แล้วปล่อยให้นั่งหัวเราะต่อไปบนโซฟา
ก่อนหาน้ำเมาให้ดื่มเมื่อเสียงยานครางสั่งว่าจะเอาเดี๋ยวนั้น
จนกระทั่งหลายคนเริ่มทยอยส่ายหัวเพราะเพื่อนตัวดีวกกลับมาสู่โหมดรำพึงรำพัน
ลูฮานอย่างนั้นลูฮานอย่างนี้ ประโยคที่เริ่มต้นด้วยถ้อยคำว่าทั้งที่ฉันรักจะตาย…
เกือบร้อยครั้งได้ที่คนเมาตัดพ้อระหว่างขอเหล้าเพิ่มก็นัยน์ตาแดงก่ำ
เซฮุนสีหน้าชอกช้ำขณะกำมือข้างที่มีผ้าพันแผลลวกๆทุบหน้าอกตัวเองไปด้วย
และป่วยการที่จะห้ามเพื่อนพยายามรั้งท่อนแขนก็สะบัดออก
มีการบอกว่าอย่ามายุ่งก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนแต่ดันลื่นล้มไม่เป็นท่า
หน้าลงไปนอนตะแคงแนบพื้นทำเอาระเบิดหัวเราะจนหน้าอกสั่นเป็นคลื่น
คนเมายื่นมือออกไปเพื่อลูบใบหน้าในมโนสำนึก
ดันคิดว่าลูฮานกำลังนอนตะแคงข้างมองมาอย่างห่วงใย
มีรอยยิ้มสดใสมอบให้อย่างเช่นเวลาปกติก่อนที่จะได้เข้าใจซะใหม่ ควันร่างบางสลายกลายเป็นชายหนุ่มกลับมานอนเดียวดายบนเตียงใหญ่ขนาดหกฟุตแต่เพียงผู้เดียว
เป็นเหตุให้ยิ่งเหี่ยวเฉานอนเอาแขนกอดเข่าตัวเองอย่างคุดคู้
ดูยังไงก็อ่อนแอเป็นเด็กน้อยที่แม้จะไร้น้ำตาแต่สีหน้าพาให้คิดว่าโลกของชายหนุ่มกำลังล่มสลาย
นิ่งงันไม่ขยับกายเป็นสิบๆนาทีก่อนที่จะกลับมาฉุนเฉียวเที่ยวถีบผ้าห่มจนพวกมันตกเตียงแล้วหยิบหมอนข้างเคียงมาปา
จะว่าสร่างเมาก็ไม่เชิงเพราะยังเดินโคลงเคลงเล็งเห็นภาพตรงหน้าเบลอๆ
เซฮุนแบกร่างหนักๆเรียกได้ว่าโซซัดโซเซก้าวเข้าหาตู้เย็นอย่างคนมีเป้าหมายและไม่ใช่ขวดน้ำเย็นที่อยากยกซด
เป็นกระป๋องเครื่องดื่มมึนเมาต่างหากที่โดนกวาดออกมาจากชั้นว่างจนตกลงพื้นเกลื่อนกลาด
แถมไม่มีการปิดประตูเครื่องทำความเย็นแต่อย่างใด
เปิดประตูกว้างแค่ไหนก็ค้างไว้อยู่อย่างนั้นเพราะคนที่สมควรจะเป็นคนยื่นมือปิดมันกำลังไม่ว่าง
ชายหนุ่มนั่งหันหลังพิงสันขอบตู้เย็นแล้วเปิดกระป๋องเบียร์เย็นๆอย่างชำนิชำนาญก่อนยกขึ้นดื่มรวดเดียวดังอึกๆ
แล้วก็แทบจะสำลักทันทีในเวลาถัดมา ผิวหน้าที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เลอะเทอะจนทำให้แยกไม่ออกว่าหยดไหนคือน้ำเบียร์หรือหยดไหนคือน้ำตา
แม้จะเป็นมุมอับแต่แสงสีส้มจากภายในตู้เย็นก็ส่องสว่างและสะท้อนให้เห็นถึงเสี้ยวหน้าอันเจ็บปวด
บ้วนน้ำเบียร์ออกจากทางปากเพราะคนกำลังร้องไห้
หายใจไม่ถนัดเพราะกำลังสะอึกสะอื้นขณะยืดแข็งยืดขานั่งด้วยสภาพแบบว่าหมดอาลัยตายอยาก
…เพราะความรักกำลังทำพิษ
ความคิดถึงกำลังเล่นงานนี่มันเพิ่งจะผ่านมาวันเดียวด้วยซ้ำ
เซฮุนทั้งขำให้กับความโง่เขลาเคล้าน้ำตาเพราะแสนเสียใจ
เสี่ยวลูฮานจะเป็นเหมือนกันมั้ย? …หรือคนใจร้ายแบบนั้นจะกำลังมีความสุขกับชีวิตใหม่ที่ไม่มีเงาตน
อาจจะเจอคนใหม่ไปแล้วก็ได้
เพราะในเมื่อเลือกจะจากไปแสดงว่ายังไงก็ต้องมีทางเลือกที่ดีกว่า
ซึ่งผิดกับตนที่ยังไม่ทันได้เลือกอะไรเลยด้วยซ้ำ แถมต้องมาเจ็บช้ำเป็นเวรเป็นกรรมเนื่องจากถูกความรักที่บ่มเพาะมาตั้งนานหลายปีดีดะทำร้าย
เจ็บแทบตายจนเซลล์ประสาทในร่างกายเหมือนจะค่อยๆตายไปด้วย
การได้นอนนิ่งๆบนพื้นในเช้าเข้าวันที่สามทำให้คิดถึงยามป่วยที่ปกติจะมีร่างบางสีหน้าแตกตื่นวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาดูแล
แค่ตนไอนิดหน่อยอีกคนก็รีบเบะปากราวกับจะร้องไห้
ลูฮานจะคอยช่วยเช็ดตัวให้และนอนเคียงข้างใกล้ๆเหมือนไม่เคยกลัวติดไข้แต่อย่างใด
ร่างบางเป็นคนให้ความอบอุ่นในเวลาที่เหน็บหนาวและเคาท์ดาวน์ผ่านค่ำคืนมืดๆไปด้วยกัน
นอกจอกจะเป็นคุณพยาบาลจำเป็น ลูฮานยังเป็นสาวใช้ตัวน้อยที่จะคอยโกนหนวดให้ตนในทุกๆอาทิตย์
อยู่เป็นเงาชิดใกล้ใช้เวลาร่วมกันขณะมั่นผูกความสัมพันธ์เรื่องอย่างนั้นก็ไม่เคยขาด
จะห่างกันก็แค่ตอนร่างบางออกไปทำงาน
ส่วนตนแยกไปมหาลัย
แล้วตอนเย็นก็กลับมาพบกันใหม่
นั่งดินเนอร์ในร้านอาหารและจูงมือกันกลับห้องพักที่ลงทุนซื้อขาดแบบหารครึ่ง
ส่วนหนึ่งในห้องนี้ยังคงเป็นของเสี่ยวลูฮาน… แค่คิดได้ดังนั้นก็เจ็บแต่ยังไม่หนักเท่ากับตอนเห็นข้าวของมากมายที่ร่างบางเคยใช้
จะไปทำไมถึงไม่เอาไปให้หมด
อดคิดไม่ได้ว่าที่ทิ้งสิ่งของไว้ให้ดูต่างหน้า
อีกคนคงเพราะแค่ว่าอยากจะเยาะเย้ยกัน
แค่เห็นเสื้อผ้าในตู้หลายสีสันก็เหมือนถูกถากถาง
ถูกคนใจร้ายด่าว่าโง่นับครั้งไม่ถ้วนชวนให้เจ็บใจ
ชายหนุ่มนอนกำมือแล้วถูกปึงๆกับพื้นอย่างไม่เกรงใจห้องชั้นล่างและระหว่างที่นอนเหมือนคนเป็นอัมพาต
เข้าสัปดาห์ที่สองได้แล้วมั้งที่ชีวิตของโอเซฮุนไม่แตกต่างจากซากซอมบี้
จู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์สายเข้าและเอาเป็นว่าคนอยากอยู่เงียบๆคนเดียวก็ทำหมางเมินเหมือนทุกวันที่ผ่านมา
เพราะฟังผ่านๆก็นึกว่าเป็นเพื่อนโทรเข้ามาตามไปเรียนเช่นปกติ
แต่เสียงเรียกเข้าที่แตกต่างจากทุกวันก็ทำให้เซฮุนรู้สึกสะดุดหูพลางรู้ได้ในทันทีว่าปลายสายที่โทรเข้ามาเป็นใคร
ด้วยอารามทั้งตระหนกทั้งตกใจ แน่นอนว่ายังโกรธปนอาลัยและพฤติกรรมก็ไปไวกว่าความคิด
มือที่ปราศจากผ้าพันแต่ยังมีรอยแผลตกสะเก็ดอย่างชัดเจนยกโทรศัพท์ขึ้นชิดใบหูในทันทีที่กดรับ
ก่อนเสียงชายหนุ่มจะตอบรับแค่ครับแผ่วเบา
แม้จะผิดหวังที่ไม่ได้ยินเสียงหวานของอีกคนอย่างที่เข้าใจ แต่ไม่เป็นไร …พระเจ้ายังพอปราณีตนด้วยการส่งคนที่ชื่อเสี่ยวลูฮานกลับมาอีกครั้ง
ส่งมาในสภาพสิ้นฤทธิ์เสียด้วย
แต่ช่วยไม่ได้ …ถึงร่างบางจะดูน่าสงสารในยามหลับบนเตียงของทางโรงพยาบาลหลังจากถูกรถยนต์เฉียวชนแต่คนอย่างเซฮุนจะไม่มีวันสงสาร
กลับกันอยากรีบปลุกให้ตื่นขึ้นมาเคลียร์กันแทบบ้าเพียงแต่ว่าติดที่ภายในห้องยังมีพยาบาลที่กำลังบอกถึงเหตุผลที่ทำให้โทรหาชายหนุ่ม
‘ผู้บาดเจ็บเมมเบอร์คุณไว้เป็นเบอร์ฉุกเฉินค่ะ…’
ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตนยังไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่งคนสำคัญอีกอย่างนั้นเหรอ?
แทนที่น่าจะลบทิ้งทุกอย่างทำการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งให้สมกับที่เป็นคนเด็ดเดี่ยวเดินจากไปแต่ทำไมเสี่ยวลูฮานถึงยังเก็บตนไว้ในสถานะเดิม
เป็นคนเริ่มใจร้ายก่อนแล้วตอนนี้ยังมีหน้ากลับมาทำให้สับสนอีก
แต่เซฮุนยอมรับว่าเกือบฉีกยิ้มดีใจเมื่อนึกได้ว่าบางทีตนอาจจะยังพอมีความหมาย
ชายหนุ่มยอมรับว่าใจคนเราช่างยากแท้หยั่งถึงแต่คงยังไม่ได้ครึ่งของจิตใจร่างบางที่กำลังนอนหลับตาพริ้มและใบหน้าเนียนใสยังดูเหมือนคนกินอิ่มนอนหลับได้สบายๆในช่วงเวลาที่ผ่านมา
แม้แก้มจะซูบหายไปหน่อยแต่รอยเลือดฝาดไม่เคยจาง
ริมฝีปากที่เผยอยังมีสีชมพูดูนุ่มนิ่มอิ่มเอิบ
ก่อนแพขนตางอนจะค่อยๆเริ่มขยับ
เปลือกตาสีอ่อนที่พับปิดค่อยๆลืมขึ้นแล้วหลับลงคงต้องการเวลาปรับสายตากับแสงไฟ
เสี่ยวลูฮานใช้เวลาอีกสักสองสามวินาทีในการลืมตาครั้งใหม่แล้วก็ถึงคราวชะงักงันไป
เพราะที่แท้มันไม่ใช่ความฝันหรือภาพเบลอเลอะเลือนแต่อย่างใด
คิดว่าตัวเองจินตนาการไปเองแต่ที่ไหนได้… โอเซฮุนตัวเป็นๆยืนอยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้นและสายตาโกรธเคืองคู่นั้นก็เป็นสาเหตุที่เริ่มทำให้ร่างบางนอนน้ำลายท่วมปาก
อึกอักอยากทักทายแต่ไม่รู้จะเปิดด้วยประโยคไหน
ลูฮานกระอักกระอวนเพราะอีกใจคิดว่าคงไม่ได้เจอกันอีก
แล้วพอกลายมาเป็นแบบนี้… คนมีความผิด
มีชนักติดหลังยังไม่ทันได้ศึกษาวิธีรับมือที่ดี ที่ทำได้ดีก็มีแค่นอนฉีกยิ้มโง่ๆ
ยิ้มแหย๋ๆแค่ให้มุมปากดูเหมือนขยับเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆพยายามขยับร่างกายลุกขึ้นนั่งแต่ยังไม่ทันทำได้สำเร็จดี
จู่ๆคนที่ยืนนิ่งเป็นเป่าสากก็เกิดโน้มตัวลงมา
ลูฮานหน้าแทบกลืนไปกับหมอนใบใหญ่ในขณะที่ถูกใบหน้าสมส่วนแต่ดูทรุดโทรมคุกคาม
ตามมาราวีในระยะประชิดอีกนิดปลายจมูกเชิดกับปลายจมูกโด่งก็แทบจะสัมผัสกัน
ห่างแค่ความบางของเหรียญเงินคั่นได้และเป็นไปไม่ได้ที่ใครคนใดคนนึงจะสามารถหลบเลี่ยงสบตาที่พาใจสั่น
นัยน์ตาสองคู่มีภาพของกันและกันปรากฏอย่างชัดเจน
พร้อมทั้งแทรกซึมไปด้วยอารมณ์หลากหลาย สายใยแห่งความโหยหา แววตาที่ดูกรุ่นโกรธ
แก้วตากลมสั่นระริกเว้าวอนเหมือนอยากให้อีกคนยกโทษให้
ลูฮานกะพริบตาช้าๆระหว่างเซฮุนผ่อนลมหายใจร้อนรดหน้าและหลบตาก่อน
“สบายดีมั้ย…”
ในตอนที่คำถามสิ้นคิดหลุดออกจากปาก ร่างบางแทบอยากตบตีตัวเองให้สาสมก่อนจะรู้สึกคล้ายจมลงสู่บ่อแห่งความผิดเมื่ออีกคนที่ชิดใกล้หันกลับมาใช้แววตาเจ็บปวดจดจ้อง “มองหน้าผมให้ชัดๆ แล้วพี่บอกซิว่าผมดูเหมือนคนสบายดีมั้ย”
เซฮุนเปิดประโยคคำพูดได้ดีและมีชั้นเชิงในการอยากแดกดันสูง
ก่อนจะตบท้ายด้วยการแสยะยิ้มจนทำให้ลูฮานหน้าเจื่อน
ร่างบางเคลื่อนตัวเล็กน้อยและส่งสายตาราวกับอยากขอให้อีกคนไปก่อนและตอนนั้นก็ได้คำตอบในทันทีว่าไม่ได้
ไหล่กว้างยังโถมเข้าหาจนหน้าผากชิดเกยกัน
จนลูฮานได้เห็นผิวหน้ากร้านซึ่งขาดการดูแลได้ถนัดตา
เห็นความเหนื่อยล้าไร้เรี่ยวแรงเล็กๆ รวมถึงเห็นไรหนาวแข็งที่ครั้งนึงตนจะเป็นคนละเลงครีมขาวแล้วช่วยเอามีดโกนโกน
“อย่ามาถามว่าผมสบายดีมั้ย” ปากพูดขู่แต่สายตาดูยังไงก็เอาจริง
บางทีสิ่งที่สิงอยู่ในตัวเซฮุนคงจะเป็นซาตานกลับชาติมาเกิดและบังเอิญถูกแหยให้โกรธทั้งที่ตอนปกติก็เป็นคนใจดีแท้ๆ
“แล้วพี่ล่ะสบายดีมั้ย ชีวิตที่ไม่มีผมน่ะสบายดีมากรึเปล่า”
“ซะ เซฮุน”
“อ่อ ยังจำชื่อกันได้ด้วยเหรอ” ประชดประชันทันควันเหมือนเตรียมการมาอย่างดี
บอกตามตรงชายหนุ่มยังมีถ้อยคำทำร้ายจิตใจอีกเป็นแสนและจะไม่ยอมหยุดจนกว่าร่างบางจะบอกเหตุผลว่าทิ้งตนไปทำไม “ไอ้เราก็นึกว่ามีผัวใหม่ให้เรียกชื่อจนลืมชื่อผัวเก่าไปซะแล้ว”
“พี่ไม่…!”
“เพราะอะไรนะเพราะอะไร ไหนลูฮานคนดีลองตามมาหน่อยสิครับว่าเพราะอะไร”
คำพูดหวานๆผกผันกับสายตาดุดันที่เหมือนกระสุนยิงกราดใส่ใบหน้าเนียนใสขณะลูฮานเลือกเอียงหลบหน้าไปทางซ้าย
บอกกรายๆว่าจะไม่ตอบคำถามเมื่อครู่และอยู่ในสภาพนิ่งสงบจนดูน่าหมั่นไส้
ความจริงไม่ว่าร่างบางจะทำอะไร เซฮุนก็รู้สึกจะหมั่นไส้ไปซะหมดระหว่างดีกรีความเดือดก็ไม่เคยลดและน่ากลัวว่าจะเพิ่มด้วยซ้ำขืนลูฮานยังทำตัวแน่นิ่งไม่รีบอธิบายในสิ่งที่ทำลงไป
มีหวังว่าแผลที่กายซึ่งได้รับจากการโดนรถเฉียวอาจจะขยายเป็นวงกว้าง
บางทีที่ท่อนแขนขาวอาจจะไม่ได้มีแค่ผ้าพันแผลพัน
ก็เซฮุนเล่นจับแล้วขย้ำซะผิวบริเวณต้นแขนแดง
ถึงแรกๆจะทำเพราะพลั้งมือแต่พอร่างบางไม่หือไม่อือและไม่มีท่าทีสนใจ
ในเมื่อเป็นผู้ชายที่แรงเยอะกว่าเลยใช้พละกำลังเข้าข่มจนตัวลูฮานยิ่งจมไปกับเตียงก่อนจะส่งเสียงขอความเป็นธรรมแผ่วเบา “พี่เจ็บอยู่นะ”
“ผมก็เจ็บอยู่เหมือนกัน” พอร่างบางได้ยินอย่างนั้นก็หลุบนัยน์ตาลงต่ำแล้วช้อนกลับขึ้นมองใหม่อีกหน
เผชิญหน้ากับคนที่เปิดเผยแววตาได้อย่างน่าสงสารและทำให้ลูฮานรู้สึกเจ็บปวดไปด้วยยามได้ยินประโยคตัดพ้อยืดยาว “พี่ทำเหมือนผมโง่
พี่ทำเหมือนผมไม่เข้าใจภาษามนุษย์ พี่ไม่ยอมอธิบายอะไรเลยเหมือนคิดว่าผมจะไม่มีทางเข้าใจ
ในสายตาพี่ผมดูตลกมากมั้ย?”
เซฮุนเว้นวรรคให้ร่างบางได้ทบทวนความผิดของตัวเองตามอย่างช้าๆ “มันจะอะไรนักหนาแค่บอกเหตุผลผมมา
บอกสักหน่อยว่าผมทำอะไรผิด พี่เป็นบ้าอะไร! ทำไมถึงทำกับผมแบบนี้!”
มันก็ไม่ต่างจากฉากในหนังสักเท่าไหร่ ฝ่ายคนเจ็บปวดกำลังเขย่าไหล่คนนอนบนเตียงพร้อมกับเสียงกร้าวที่ถามซ้ำๆว่าทำไม
ตลอดเวลาที่ลงแรงชายหนุ่มหายใจฟึดฟัดก่อนจะผลักลูฮานอย่างแรงจนร่างนั้นกระแทกกับเตียงอย่างดัง
…และเซฮุนก็รีบหมุนตัวตั้งท่าจะกลับไป
ถ้าไม่ถูกรั้งไว้ด้วยอ้อมกอดของคนที่รีบร้อนลุกขึ้นมาจากเตียงซะก่อน
…ตอนนั้นคงไม่ลังเลใจที่จะกลับไป
ซึ่งผิดกับตอนนี้ที่ไม่แม้แต่จะสามารถก้าวขาขณะก้มหน้าลงมองวงแขนซึ่งรัดรอบเอวซะแน่นและเห็นรอยเลือดซึมบนหลังมือเล็กที่ที่เคยเป็นตำแหน่งของเข็มน้ำเกลือ
“พี่ขอโทษ”
จนแล้วจนรอดลูฮานก็ทำได้แค่กอดและขอโทษซ้ำๆ แต่นั่นไม่ใช่ประโยคที่เซฮุนอยากฟัง
หลังยืนคิดว่าจะสลัดร่างบางออกอย่างไร สุดท้ายเลือกทำอะไรไม่ลงสักอย่างแต่ปากก็ยังดีไปงั้น “หุบปาก ผมไม่อยากฟัง”
“พี่ขอโทษนะ” ถ้าเรื่องดื้อด้านอาจเป็นไปได้ว่าลูฮานมีเยอะกว่า
ขณะที่กอดแนบแน่นจนแก้มแนบแผ่นหลังกว้างก็ยังพร่ำทำในสิ่งที่ชายหนุ่มอุตส่าห์ออกคำสั่งว่าอย่า
เซฮุนอุตส่าห์ด่าทอและสั่งให้ร่างบางหุบปากสักที ...แต่ไม่มีฟังกันเลยจนคนสั่งชักอารมณ์เสีย
ขีดความอดทนมันลดได้ง่ายจะตายในสถานการณ์เช่นนี้ถ้ายิ่งมีชนวนคอยกระตุ้นปฏิกิริยา
ในช่วงเวลาที่ถูกบีบบังคับร่างกายมันก็มักจะเป็นไปตามสัญชาติญาณ
ในเมื่อร่างบางไม่ยอมหุบปากก็ต้องทำอะไรสักอย่างให้เสียงน่ารำคาญหายไป
แล้วมันจะมีวิธีการไหนดีไปกว่ารีบหมุนตัวหันกลับมาก่อนคว้าดวงหน้าเนียนใสและประกบปากลงไปใช้ริมฝีปากบดอวัยวะเดียวกัน
แล้วความกะทันหันก็ทำให้ลูฮานตระหนกตกใจจนรีบใช้มือไม้ผลักไหล่ชายหนุ่มออก
เผลอปฏิบัติตัวอย่างต่อต้านและนั่นไม่ใช่เรื่องดีมีแต่จะยิ่งเพิ่มเชื้อไฟ
แถมสุดท้ายสิ่งที่จะต้องมอดไหม้ก็คือริมฝีปากของตนที่กลายเป็นจุดระบายอารมณ์
คนฉุนเฉียวเกรี้ยวโกรธทั้งข่มทั้งครอบครอง
แค่ลองได้เผยอปากเพราะอยากได้อากาศหายใจ
แต่นอกจากจะไม่ได้ออกซิเจนกลับกลายเป็นโดนขโมยลิ้นใหญ่เข้ามากอบโกยทุกอย่างกลับไป
ถ้าเอาลิ้นเล็กติดกลับไปด้วยบางทีเซฮุนคงทำ
ชายหนุ่มคงไม่มาทำกับอีแค่ขูดรีดขูดเนื้อเพื่อแลกกับความโหยหา
แค่ตุ่มรสราติมันจะไปทดแทนความคิดถึงกันได้ยังไง
เป็นไปได้ตนอยากจะขย้ำแล้วจับร่างบางกลืนลงคอรวดเดียว
ไม่ใช่มายืนเกี่ยวกอดสร้างหนังรักระหว่างนางเอกที่กำลังลังเลอย่างหนักกับฝ่ายพระเอกที่เห็นได้ชัดว่ากำลังรีบเดินหน้าเข้าต้อน
เพราะชายหนุ่มเชื่อว่าตัวเองจะโน้มนาวคนหัวอ่อนได้ในสักวินาที วัดกันไปเลยเพราะคนมันเคยๆแล้วจะกล้าปฏิเสธกันได้ลงคออย่างไร
ลูฮานปฏิเสธได้ไม่เกินครึ่งนาทีหรอก …บอกตามตรงว่าก็เพราะแสนคิดถึงเหมือนกัน
แต่มันก็ยังลังเลในการตอบรับ
ขยับริมฝีปากงับขอบปากล่างของเซฮุนอย่างเชื่องช้า
ให้เวลาเดินเร็วนำหน้าไปก่อนในตอนที่เหมือนลืมเลือนวิธีการจูบชั่วขณะระหว่างลูบฝ่ามือหาตำแหน่งหัวใจแล้วขย้ำเสื้อบริเวณอกซ้ายเพราะชายเจ้าของเสื้อเร่งเร้าเอาปากงับราวกับไม่อยากรออีกต่อไป
จนลูฮานรู้สึกอายและรีบหลับตา
ขณะปล่อยให้ลิ้นใหญ่เข้ามามีอิทธิพล
ลิ้นของคนสองคนชนกันอย่างจังและมีเสียงคลอดังผสาน
ดุนดันงัดกันไปงัดกันมาก่อนจะต่างฝ่ายต่างเอียงโครงหน้ามุมทแยง
จากจูบลึกซึ้งกึ่งเนิบนาบจะกลับเข้าสู่วงจรของความรุนแรงภายในครอบครัว
ถ้ามัวเผลอแล้วจะต้องเจอลงโทษลิ้นเล็กโดนดึงออกมากลางอากาศก่อนจะถูกงับ
เซฮุนจงใจเอาคมฟันบาดจนลูฮานครางฮือมือทุบหน้าอกแข็งไปทีแล้วหนีและไม่ลืมล่อหลอกลิ้นใหญ่อีกคนให้วนกลับเข้ามาในโพรงปาก
อยากมีปฏิสัมพันธ์ในที่ลับยามบีบขย้ำไหล่กว้างวางมือเพื่อยึดเหนี่ยว
เสี่ยวลูฮานใจง่ายแค่เพียงเพราะถูกชายหนุ่มที่ยังรักหมดใจจูบดูดดื่มและหลงลืมเหตุผลว่าอะไรเคยทำให้ตนพยายามวิ่งหนี
…ไม่มีร่างบางที่พยายามผลักไสและกลายเป็นคนเข้าหาด้วยซ้ำ
จำได้ว่าเป็นคนนั่งลงบนตักแกร่งเองอย่างเต็มใจ
โซฟาเยี่ยมไข้ยังเหลือที่ว่างตั้งมากมายเพราะคนสองคนนั่งในท่ากายซ้อนกาย คนด้านบนที่ค่อยๆเคลื่อนไหวอยู่ในสภาพกางเกงหาย
ส่วนชายที่อาสาเป็นเบาะหนังอย่างดียังมีเสื้อผ้าครบ จะพบก็แต่ซิบกางเกงยีนส์ที่รูดลงและคงไม่ต้องอธิบายว่ามีอะไรโผล่ออกมาในขณะที่หว่างขาของร่างบางจะเป็นตัวคอยช่วยบดบัง
เดี๋ยวนั่งเดี๋ยวลุก ก้นงอนสีขาวสว่างผุดยกขึ้นยกลงหลังบรรจงครอบครองแก่นกายที่ขยายจากข้างนอกได้ไม่เท่าไหร่แต่เมื่อได้อาศัยอยู่ในโพรงกระต่ายที่อุณหภูมิอบอุ่นจนร้อน
จากท่อนเอ็นจึงกลายเป็นพญามังกร แล้วยิ่งตอนถูกสวมทับซ้ำๆอีกคนขยับด้วยจังหวะตามใจชอบ
มังกรก็แทบจะพ่นไฟ ปากมังกรเกือบปล่อยน้ำลายไหลในช่วงที่เจ้าของก้นกลมขย่มหน้าตักหนักๆเน้นๆ
เห็นเหมือนถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว …แต่เปล่าเลยมือเซฮุนเองก็ไม่เคยอยู่สุข
ย้ายไปนู่นเลื่อนมานี่ มีสัมผัสลูบไล้ไม่ขาด ขนาดบีบแก้มก้นนิ่มจนลิ่มเนื้อปลิ้นตามง่ามนิ้วยาว
ความขาวขึ้นริ้วรอยแดงชัดเจนก่อนไล่ฝ่ามือขึ้นมาเค้นเอวคอด ช่วยนวดตอนอีกคนเริ่มแผ่วแรงลงเหนื่อยเป็นแน่
และแค่นัยน์ตากวางก้มลงมองอย่างเว้าวอนอ้อนตาใส ไม้ถูกเปลี่ยนพลัดคนนั่งด้านล่างได้รับมอบหมายให้กลายเป็นผู้นำทันทีและมีหรือจะทำให้เสียชื่อ
มือไวใช่ว่าอย่างอื่นจะช้า
ลูฮานลงไปนอนแผ่หลาบนโซฟาขนาดความยาวเท่าส่วนสูงก่อนถูกเงาดำประกบโน้มลงมาไม่พอ
ยังขออิงแอบแนบชิด คนที่คิดท่วงท่าให้อาศัยว่ากล้ามเนื้อตรงหว่างขาขาวยังคลายเลยยัดเหยียดความใหญ่เข้าไปในคราวเดียว
แล้วกระแทกความเหนียวเหนอะที่ซุกซ่อนอยู่ภายในด้านในซ้ำๆ
ตอกย้ำความแข็งแรงของเอวสอบของตัวเองด้วยการขยันมั่นเขยื้อนเคลื่อนน้องชายเข้าออก
เซฮุนลอบก้มมองอวัยวะที่เชื่อมจนเรียกได้ว่าแทบกลายเป็นส่วนเดียวกันสลับกับมองสีหน้าของร่างบางที่บิดเบี้ยว
ลูฮานจับชายเสื้อคนไข้ของตัวเองเป็นที่ยึดเหนียวบิดเป็นเกลียวจนผ้ายับ
ก่อนการทำแบบนั้นจะยิ่งเป็นดาบสองคม
พอเห็นหน้าท้องแบนราบชายหนุ่มด้านบนก็เข้าระดมจูบ
แถมลูบด้านลิ้นชื้นยื่นส่วนปลายแตะไล่ชายโครงเหมือนคนตั้งใจจะนับ
ฟันคมงับเข้าที่สีข้างและทำให้ลูฮานที่กำลังนอนหอบหายใจพะงาบๆหลุดครางในสถานที่ที่ไม่สมควร
ต้องรีบหาวิธีแก้ปัญหาโดยด่วนจวนจะใกล้เสร็จสมอารมณ์หมาย …เพราะกลัวเสียงดังจะเล็ดลอดออกไป
เซฮุนกับลูฮานประกบจูบกันอย่างหยาบโลนในวินาทีที่เกือบใกล้จะถึงฝั่งฝันและตอนนั้นเองที่ร่างบางเพิ่งเข้าใจว่าตัวเองกำลังถูกลงโทษ
ท่ามกลางการบดเบียดริมฝีปากอย่างหื่นกระหาย ชายหนุ่มบนร่างหยุดขยับกายราวกับจงใจแกล้ง
หยุดลงแรงลดการกระแทกกระทันทั้งที่อิกนิดก็จะปีนถึงสวรรค์ ใบหน้าที่ลอยไปลอยมาอย่างเจ้าเล่ห์ทำเอาลูฮานยิ่งรู้สึกพุ่งพล่าน
ร่างบางฟุ้งซ่านกับความอึดอัด คั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนจะไม่สบายและเมื่อชายหนุ่มโงหัวขึ้นหน่อย
ดวงตากลมก็คอยแต่จะขอร้องระหว่างร้องบอกเบาๆเอาแค่ได้ยินกันสองคน
ลูฮานลงทุนยั่วยวนทางสีหน้าจนน่าหมั่นเขี้ยวแต่คนมีแผนอย่างเซฮุนก็ไม่เคยคิดสนใจ
“ผมอยากรู้เหตุผล…” แม้แก่นกายของตัวเองก็ใกล้จะระเบิดแตกเป็นเสี่ยง
แต่เพียงเพราะแค่อยากทราบเหตุผล อย่าคิดตนลืมง่ายหายเคืองไปแล้วเลยย่ามใจ
เสี่ยวลูฮานคงลืมไปว่ามีแฟนเป็นคนที่ใจดีก็ดีใจหายแต่ถ้าร้ายก็เล่นเอาตายเหมือนกัน “ถ้าไม่ตอบ …งั้นก็ทำเอง”
“ซะ เซฮุน”
“นี่คงย่ามใจคิดว่าผมรักมากล่ะสิท่า” เซฮุนว่าเสียงนิ่งแล้วชิงหอมแก้มแดงอย่างแรงก่อนแกล้งด้วยการกัดที่ปลายจมูกเชิด
เกิดหมั่นไส้ร่างบางที่ทำหน้าคล้ายคนจะร้องไห้
“ใช่ ผมรักพี่มาก”
“แต่รักกับโกรธมันคนละส่วนกัน” เสียงดังฟังชัดเน้นอย่างจริงจัง “และถ้ายังดึงดันจะไม่บอกผมล่ะก็
…นอนรอแบบนี้ให้พยาบาลเข้ามาเจอได้เลย”
“เซฮุน …พี่”
“เหตุผลคืออะไรครับคนดี”
“เอาไว้พี่บอกทีหลังได้มั้ย”
“คงอยากให้พยาบาลเข้ามาเจอจริงๆสินะ ให้ผมไปกดปุ่มเรียกเขามาดีรึเปล่า”
“อย่านะ!”
ลูฮานหน้าตาตื่นระหว่างยื่นมือรั้งแขนคนที่ทำท่าจะลุกออกไป
ลอบใจหายเมื่อแก่นกายอุ่นๆจะหลุดออกไปและรู้สึกอึดอัดใหม่เมื่อความใหญ่สอดใส่กลับเข้ามาจนชิดมิดลำ
“พ่อแม่นาย…” ก่อนร่างบางจะละล่ำละลักเปิดต้นประโยคด้วยบุคคลที่สาม แล้วแค่คำสามคำก็ทำให้เซฮุนเข้าใจความหมายต่อจากนั้นอย่างถ่องแท้และแค่สบตาก็รู้แล้วว่าอีกคนพูดจริง
ลูฮานพยักหน้าช้าๆเหมือนจะยืนยันว่าตนไม่ได้โกหกแต่อย่างใด
ในเมื่อต้องการเหตุผลจริงๆก็จะบอกให้ฟัง “พวกท่าน…”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
“แต่นายอยากรู้เหตุผลหนิ”
“ผมบอกให้เงียบ” ลูฮานเม้มปากฉับปรับอารมณ์ตามอีกคนที่ดูคล้ายจะหัวเสียนิดๆแทบไม่ทัน
ก่อนจะกลับมาตัวสั่นคลอนตอนนอนเหมือนโดนเขย่าขณะครวญครางด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยคลุกเคล้า
เริ่มจากเสียงเบาเสียงค่อยลอดตามรอยต่อของปากที่เผยอค้างเมื่อเจออีกคนเอาแต่ใจ
“เรื่องพ่อแม่ผมจะจัดการเอง” ร่างบางพยักหน้ารับราวกับเป็นเด็กดีหลังจากที่ชายหนุ่มลั่นวาจาหนักแน่น
ส่วนเซฮุนเมื่อพูดเสร็จก็เงียบไป แค่คว้าเอวคอดไว้เป็นหลักยึดในจังหวะเคลื่อนสะโพกเข้าออก
ช่างหนักหน่วงจนคนนอนด้านล่างบอกให้เบาๆ
เบามากจนผมเผ้ากระจัดกระจาย… เสียงหวานขออะไรไปก็ได้อีกอย่างกลับมา
ขณะลองขอให้จัดการตนไม่ยั้ง ชายหนุ่มก็ดันฟังขึ้นมาซะอย่างนั้น
…เดือดร้อนให้เหนื่อยหอบลอบหายใจไม่คล่อง
ลูฮานคล้องแขนกอดต้นคอแข็งแล้วจูบริมฝีปากแนบกับเสื้อบนบ่ากว้าง ระหว่างนั้นก็ได้ยินทั้งเสียงครางของตัวเองทั้งเสียงคำรามของเซฮุนที่วนเวียนแถวกกหูอย่างชัดเจน
“ผมเคยตกนรกเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์” ความใกล้ชิดทำให้เสียงกระซิบดูดังขึ้นมาถนัดตาและยิ่งดูน่ากลัวเพราะน้ำเสียงที่ใช้พูดนั้นถึงแม้จะหอบฮักแต่ก็ยังเป็นจริงเป็นจัง
ทำเอาลูฮานสะท้าน หน้าอกกระเพื่อมหนักและหัวใจเต้นดัง “งั้นสองอาทิตย์นับจากนี้พี่ก็ต้องตกนรกเหมือนผมบ้าง” พูดไปเซฮุนก็ใช้จมูกซุกไซร้ต้นคอขาวเอาปากดูดผิวลื่นจนเป็นรอยไหม้กระจายเป็นจ้ำแดงๆ
“อย่าหวังว่าจะได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน”
ที่ทำยังไม่พออีกเหรอ ซะ…เซฮุน
***ตุ๊กติ๊กทอร์ค
ฟังเพลงแล้วจะยิ่งอินมาบอกแค่นี้แหละ5555555 อ่อ เม้นในนี้มันลำบาก ขอเป็นแท็กสักสองสามอันแล้วกันนะจ๊ะ ตุ๊กติ๊กจะได้มีกำใจแต่งต่อไป♡
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น