วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[OS18+/KAILU] Love moves on


Love moves on







            ขึ้นชื่อว่างานสังคม แน่นอนว่าคงหลีกเลี่ยงเรื่องการข่มกันทางฐานะไม่ได้
กลุ่มสุภาพบุรุษซึ่งสวมใส่ชุดสูทราคาแพงมักจะแยกหัวข้อย่อยเป็นหมวดๆในการสนทนา ซึ่งนอกจากเรื่องหน้าที่การงาน จะขาดไม่ได้เลยก็คือพวกงานอดิเรกที่ความจริงเหมือนเอาเงินไปละลายแม่น้ำ ส่วนกลุ่มคุณหญิงคุณนายก็จะชอบโชว์เพชรพลอยน้ำงามซึ่งวางพาดอยู่บนแผงคอ
อ่อ ต้องอย่าลืมที่บริเวณนิ้วกรีดกรายทั้งหลาย ความวาววับช่างชวนให้รู้สึกแสบตา แล้วถ้ายิ่งสะท้อนกับแสงไฟจากแชนเดอเรียจะยิ่งบังเกิดประกายระยิบระยับเป็นคำนิยายของคำว่าราศีจับ ที่จะหาอะไรมาดับความเจิดจ้าคงยาก นอกซะจากจะต้องเป็นแม่งานซะเองและสวยเด้งกว่าทุกคน
จนอายุอานามปาเข้าไปเลขสามแล้วแต่คนริเริ่มจัดงานก็ยังสวยสด ที่พูดคือหมายถึงคนที่เป็นของเจ้าร่างบางระหงทรวดทรงเว้าคอดชัดเจน เห็นหญิงสาวหน้าเด็กแต่บอกเลยว่าลูกสองและต้องบอกอีกว่ามีสามีเป็นถึงอธิการบดีมหาลัยวิทยาที่มักจะถูกวิจารณ์ว่ายังดูอายุน้อยเกินไป
แต่คิมจงอินก็พิสูจน์ให้เห็นว่าวัยสามสิบต้นๆไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารการศึกษา มันอยู่ที่ว่ามีความสามารถมากแค่ไหนและขอบอกตามตรงชายหนุ่มผิวสีแทนไม่เคยกลุ้มใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์ ซ้ำยังขอบคุณที่ผู้คนภายในงานยังคงให้ความสนใจกับชีวิตของตนเสมอ 
แถมนอกจากจะหน้าตาหล่อเหลาเข้ากับชุดสูทสีเทาเขายังเป็นใจเย็นเห็นใครเจอใครก็หยุดพักแวะทักทาย จงอินปล่อยให้คุณนายคิมไปสังสรรค์กับเพื่อนในแวดวงการกุศล ส่วนตนก็หันมาคุยเรื่องกีฬากอล์ฟกับเพื่อนฝูง ร่างสูงร้อยแปดสิบกว่าอยู่ในท่วงท่าเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงขณะยิ้มเล็กยิ้มน้อยพอเป็นพิธีมีหัวเราะตามยามถูกชี้หน้าว่านายก็เป็นใช่มั้ย
ผู้ชายมีภรรยาจะพูดเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่บ่นเรื่องภรรยา
ซึ่งบางครั้งจงอินก็ส่ายหน้าเหมือนไม่เห็นด้วยจนถูกเพื่อนค่อนขอดว่าอวยเมียรักเมียเกินไปกระทั่งชายหนุ่มยักไหล่ก็แล้วจะทำยังไงได้ในเมื่อคนมันรักไปแล้วจนเพื่อนในกลุ่มเริ่มแซวว่าบางทีอาจจะเป็นประเภทกลัวเมียจัด ขณะจงอินก็ไม่ได้บอกปัดแถมยิ้มรับทำเหมือนว่ายอมรับกรายๆ
ก่อนจังหวะนั้นเองจะส่งสายตาหาภรรยาที่ดันหันกลับมามองพอดี จงอินมีรอยยิ้มพิมพ์ใจเมื่อสุดท้ายคุณนายคิมกวักมือเรียกให้เข้าไปหา แล้วในยามที่วงแขนโอบกอดเอวคอดของคนเป็นแม่ของลูกไว้ก็ได้ยินเสียงกระซิบกลีบปากเคลือบลิปกอร์สตอดแถวใบหูบอกว่ามีคนอยากให้รู้จัก
นี่คุณเสี่ยวลูฮานค่ะ เป็นผู้บริจาครายใหญ่ของงานเราในวันนี้  แม่งานหรือภรรยาอาสาเป็นผู้แนะนำทำมือผายให้สามีเห็นได้ง่ายว่าคนไหนคือเจ้าของชื่อเสียงเรียงนาม ก่อนจะส่งสายตาให้สามีว่าจับมือสิคะเมื่อเจ้าของกระเป๋าหนักให้เกียรติยื่นมือมาหาเพื่อจะเช็คแฮนด์ก่อน  
ผมคิมจงอินครับ
คุณคิมจงอินที่เป็นอธิการบดีมหาลัยอินซองใช่มั้ยครับ  น้ำเสียงที่เอ่ยถามน่ะหวานแต่ยังเทียบกับไม่ได้ใบหน้า ทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆแต่ขนตางอนกลับเป็นแผงบวกกับแก้วตาที่จะว่าสวยก็สวยจะว่าเศร้าก็เศร้าแต่เอาเป็นว่างดงามยามแย้มยิ้มด้วยริมฝีปากอิ่มเอิบตอนคนถูกถามพยักหน้า
หน้าตาดีเหมือนที่คนเขาลือกันเลยนะครับ  ลูฮานกระชับมือที่เช็คแฮนด์กันก่อนชักกลับ แล้วซึ่งนอกจากจะแอบทำให้จงอินแปลกใจที่พูดเหมือนไม่รู้จักตน ผู้ชายร่างบางพอๆกับภรรยาของตนก็ดันเอื้อมวงแขนขึ้นโอบเอวหญิงสาวอายุน่าจะคราวเดียวกันซึ่งยืนเยื้องอยู่เคียงข้าง
พอดีคุณลูฮานทำธุรกิจอยู่ที่จีนน่ะค่ะ  ภรรยาเห็นหน้าสามีเหมือนสงสัยเลยแถลงไข  แต่มีภรรยาเป็นคนเกาหลี ต้องขอบคุณคุณเยริมเลยนะคะที่ช่วยขอให้คุณลูฮานมาร่วมงานด้วยจนได้
ขอบคุณอะไรกันคะ ดิฉันมากกว่าที่ต้องขอบคุณที่คุณหญิงจัดงานดีๆแบบนี้ขึ้นมา  หลังจากเอ่ยชมกันไปมาก็พากันหัวเราะเสียงเบาดูจะเข้าขากันดีตามประสาผู้หญิงมีสามีดีพอให้อวดอ้าง ก่อนสองสาวซึ่งสวมชุดหางปลาจะควงแขนกันออกไปสนทนาร่วมกับคุณหญิงท่านอื่น
ปล่อยให้สองสามียืนนิ่งอยู่กับที่ แล้วก็โชคดีที่มีบริกรเดินผ่านมา จงอินเลยคว้าแก้วไวน์ทรงสูง ตั้งใจทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีขณะมีน้ำใจหยิบยื่นน้ำสีองุ่นอมม่วงให้คนต่างชาติอย่างลูฮานที่เอื้อมมือออกมารับจับแก่นแก้วใสจนมือไม้โดนกันแผ่วเบาแล้วไม่ลืมยิ้มมุมปากให้อีกคนเล็กน้อย 
คุณลูฮานทำธุรกิจอะไรอยู่เหรอครับ  พอจิบไวน์ให้หายคอแห้งบ้างเหมือนกัน อธิการบดีมหาลัยเลยได้โอกาสสอบถามทำเป็นเลิกคิ้วนิดๆ ให้ดูมีจริตของความสงสัยใคร่อยากจะรู้
ห้างสรรพสินค้าน่ะครับ แต่ไม่ใหญ่มากนักหรอก  ลูฮานบอกอย่างถ่อมตัวกลัวจะเป็นการอวดเกินไป ก่อนจะต้องเปลี่ยนเป็นฝ่ายทำสีหน้าสงสัยเมื่อชายตรงหน้ายังเอาแต่จ้องหน้า  ครับ?”
คุณใช่คนที่ส่งเตียงนอนมาเป็นของขวัญวันแต่งงานของผมรึเปล่าครับ”  จงอินถามยืดยาวเนื่องจากจำเคล้าเรื่องที่ภรรยาสาวสวยเคยเล่าเรื่องเจ้าของของขวัญที่ดูจะแปลกกว่าชาวบ้านให้ฟัง 
ฮ่าๆ ใช่ครับ ภรรยาผมเป็นคนต้นคิดน่ะ เธอบอกว่าให้ในสิ่งที่ใช้ได้จริงคงจะดีกว่า  ลูฮานว่าเสียงใส ขณะจงอินนึกขำก่อนทำการหยอดมุกลูกผู้ชายคงไม่อายกับเรื่องบนเตียงสักเท่าไหร่ 
ใช้ได้จริงและใช้ได้ดีเลยล่ะครับ ได้มาตั้ง2คนแหนะ
ลูกสาวหรือลูกชายครับ”  ถามไถ่ในจังหวะลอบใช้สายตาสอดส่องมองภรรยาก่อนลูฮานจะหันกลับมายิ้มหวานให้คนตรงหน้าพลางลดนัยน์ตามองลงคงจะอยากดูสไตล์การแต่งตัวล่ะมั้ง
ลูกสาวทั้งสองคนเลยครับ  จงอินตอบอย่างสุภาพ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลท่ามกลางแขกเรื่อมากมายที่ยังร่ายล้อมรอบตัว หรือจะเรียกว่าระวังตัวในฐานะคนมีหน้ามีตาทางสังคม
ดีจัง ผมเองก็อยากมีลูกสาวบ้างแต่ดันได้ลูกชายตัวดีมาซะนี่
อายุเท่าไหร่แล้วครับ  ขยับแก้วไวน์ขึ้นจิบแล้วยิ้มเผื่อไปให้ภรรยาที่มองมาจากอีกฝาก
ย่าง19ครับ แกเรียนอยู่ที่มหาลัยคุณด้วยนะ  พอเป็นเรื่องลูกทีไรประกายตาของคนเป็นพ่ออย่างลูฮานจะสว่างวาบขึ้นทันตา ดูมีความสุขกับการได้พูดถึงลูกรักซึ่งกำลังอยู่ในช่วงวัยแห่งการศึกษา  ปกติภรรยาผมจะอยู่ที่เกาหลีกับลูกครับ มีแค่ผมที่บินไปๆมาๆระหว่างสองประเทศ
คงเหนื่อยแย่เลยนะครับ  จงอินแสดงความคิดเห็นอย่างห่วงใยขณะฝ่ายตรงข้ามเองก็ยกยิ้มรับ ยิ้มน้อยๆตอบกลับยามช้อนนัยน์ตาน่าหลงใหลขึ้นมองอธิการบดี  ก็เพื่อคนที่เรารักนี่ครับ
ลูฮานขยับยิ้มอีกนิดอย่างชอบกลจนคนสบตากลับยังเผลอหลุดยิ้มตาม  “…ผมทำเพื่อเขาได้เสมอ  จงอินคิดว่าตนกำลังเจอคนเป็นพ่อที่ดีและช่างน่ายกย่อง ต้องบอกด้วยว่ารู้สึกคุยได้ไม่มีเบื่อ ดูเหลือเชื่อว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เพิ่งได้เจอะเจอกัน  เหนื่อยหน่อยแต่ก็มีความสุขใช่มั้ยครับ 
มากครับ มีความสุขมากๆจริงๆ  สิ่งที่ลูฮานพูดทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แล้วยิ่งได้คุยกันมากเท่าไหร่ จงอินก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมจนกลั้นอมยิ้มไม่อยู่ดูมีความสุขไปด้วยจนแอบเกินหน้าเกินตา
มากกว่าธรรมดาค่อนข้างเอนไปหาทางพิเศษ   
คราวจริงผมก็เคยบินไปจีนเหมือนกันแต่ไม่ค่อยได้มีเวลาเดินเข้าห้างสักเท่าไหร่  ท่าทีสบายอกสบายใจเหมือนเพื่อนฝูงเล่าเรื่องภายในครอบครัวให้ฟังยังคงปรากฏ  ส่วนมากก็ใช้เวลาอยู่แต่ในโรงแรม”  แถมผ่อนคลายให้ตายก็ไม่เหมือนคนเพิ่งรู้จักกัน
ขณะตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อธิการบดีขยับก้าวเข้าใกล้ลูฮานแค่เอื้อม  ไว้ถ้าไปจีนอีกผมจะไปใช้บริการบ้างแล้วกันนะครับ
ได้เสมอครับ  พยักหน้าพลางตกปากรับคำ  ผมยินดีให้บริการ  เรียกว่าค่อยข้างถือวิสาสะแต่ว่าเพราะหวังดีล้วนๆลูฮานเลยด่วนตัดสินใจใช้ปลายนิ้วปัดรอยฝุ่นบนปกเสื้อเชิ้ต 
มันเลอะน่ะครับ  ช่วยปัดปกเสื้อชายตรงหน้าแค่ผิวเผินก่อนจะกลับไปยืนเช่นเก่าในยามภรรยาเดินกลับเข้ามาหาอ้อมแขน ก่อนคุณนายลู่จะมีการขอตัวคนรักกับท่านอธิการบดีบอกว่ามีคนอยากให้สามีรู้จัก จงอินจึงพยักหน้าว่าย่อมได้และเป็นฝ่ายนิ่งอยู่กับที่มีแค่สายตาที่ทอดตามไป
ชายหนุ่มยิ้ม และใช่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูมีลบลมคมใน มือกร้านคว้าแก้วไวน์อีกแก้วมาดื่มเพื่อดับกระหายและโอบรับเมื่อภรรยาสาวสวยยักย้ายสะโพกเดินตรงเข้ามา ระหว่างนั้นอธิการบดีไม่ลืมถามว่าคนดีเหนื่อยรึเปล่า ส่วนสาววัยสามสิบกว่าก็ส่ายหน้าแล้วเอียงแก้มแนบชิด
คิดโชว์ความหวานในที่รโหฐาน ผลัดกันหัวเราะผลัดกันยิ้มให้ ส่วนมากฝ่ายชายจะเป็นผู้ฟังขณะฝ่ายหญิงยังสนุกสนานกับการได้เล่าเรื่องมากมายท่ามกลางการตกเป็นเป้าสายตา ก็อย่างว่าเป็นถึงคู่รักคนดัง ไม่แปลกที่จะมีคนมองหาอย่างสนอกสนใจ และลูฮานเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
อาจจะให้ความสนใจคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปมากกว่าสายตาคนทั้งงานร่วมกันซะอีกและก็ยังรู้จักหลีกเลี่ยงเมื่อภรรยาถามว่าคุณมองอะไร ชายหนุ่มร่างบางจะแค่ส่ายหน้าแล้วถามหาถึงเรื่องที่สงสัยล้วนเป็นเรื่องภายในครอบครัวขณะมีอีกครอบครัวนักธุรกิจเข้ามาร่วมพูดคุยผสมลงโรง 
กระทั่งคงถึงเวลาอันเป็นเกียรติ ฤกษ์งามยามดีรวมถึงมีการเต้นรำเปิดฟอล์ พิธีกรขอให้คู่ของแม่งานกับคู่ของท่านที่บริจาคเงินหนักร่วมให้เกียรติเปิดงานประกาศผ่านไมค์
เป็นเหตุให้ลูฮานส่ายหน้าน้อยๆค่อยๆแย้มยิ้มราวกับเขินอาย จะเป็นฝ่ายภรรยาที่ดูกล้ามากกว่าและพยายามพาสามีออกมายืนกลางพื้นกระดานไม้ ฝ่ายหญิงระบายยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อดนตรีคลาสสิกดังขึ้นจนสุดท้ายความมีชีวิตชีวานั่นก็ทำให้คนยืนเก้ๆกังๆยอมขยับตามประสงค์
งัดวิชาลีลาศที่จำได้ว่าก้าวสามถอยสามก่อนลูฮานจะทำผิดพลาดด้วยการเหยียบรองเท้าภรรยาและเผลอทำสีหน้าวิตกกังวลจนหญิงสาวต้องเปลี่ยนท่วงท่าเป็นคล้องคอกระซิบบอกพอให้ได้ยินกันสองคนว่าไม่เป็นอะไรแล้วใช้ปลายจมูกหอมแก้มสามีแผ่วเบาหอมเข้าที่แก้มซ้าย
คนสองคนชายตามองกันอย่างมีความหมายท่ามกลางแสงไฟสีส้ม ไม่ต่างจากอีกคู่ที่จมอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน ภรรยาซบหน้าที่แผงอกกว้างระหว่างสามีซบแก้มกับกลุ่มผมสลวย   
ท่านอธิการบดีผู้ชายอวยภรรยาหลับตาดื่มด่ำกับเสียงไวโอรีนแล้วลืมขึ้นใหม่อย่างช้าๆจนปะทะเข้ากับดวงตากลมของสามีของอีกคู่รักซึ่งเคลื่อนย้ายชักช้าผ่านเข้ามาให้เห็นชัดเจนและดูท่าจะกำลังผ่านไป ลูฮานกำลังจะจากไปพร้อมรอยยิ้มละไมที่ส่งให้อย่างเปิดเผย
เป็นรอยยิ้มที่จงอินรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดและการยิ้มกลับก็ไม่ใช่แค่พอเป็นพิธี มันมีแววของความเจ้าชู้ดูเป็นอีกคนที่แตกต่างออกไป สงสัยเพราะจังหวะดนตรีส่งให้ทุกอย่างยิ่งดูเป็นใจ ไม่แปลกที่จะทำสายตาคล้ายเกี้ยวพาราศีที่เหมือนจะแอบส่งไปให้ผิดคนแถมยังลับหลังภรรยา  
ไหนลองกลับมาทบทวนเนื้อหากันสักหน่อยซิมีตรงไหนรึเปล่าที่เราพลาดไป หรือจะไม่ใช่อย่างที่อ่านมา หากว่ากำลังถูกหลอกด้วยบทสนทนาที่ช่างดูปกติ มีประโยคไหนรึเปล่าที่อ่านแล้วเข้าใจได้หลายความหมาย ผมทำเพื่อเขาได้เสมอ…’ เขาที่ว่าหมายถึงลูกชายหรือเขาไหนกันแน่
หรือจะเป็นเขาที่ส่งสายตามองมาเหมือนจะกลืนกินหรือจะเป็นคิมจงอินที่ยิ้มหวานหยดจนตนอดเขินอายแทบไม่ได้ขณะเลือดในกายมันชักระอุ ยิ่งได้มองดูอีกคนแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ลำคอของลูฮานก็ยิ่งแห้งผากยากที่จะไม่รู้สึกตรงบริเวณขาหนีบเหมือนถูกบีบเฟ้นด้วยฝ่ามือที่มองไม่เห็น
แล้วที่เห็นก็จะมีแต่ภาพวันวานย้อนเข้ามาในโสตประสาท แค่สักสองวันได้มั้ยที่กกกอดกันไม่ได้หมายถึงภรรยากับลูฮาน แต่หมายถึงลูฮานกับผัวชาวบ้านที่ยืนห่างออกไปแค่ไม่กี่วา
ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่นะจะบอกว่านี่คือการเฉลยอย่างเบ็ดเสร็จ เสี่ยวลูฮานผู้มีภรรยาแล้วแถมลูกชายอีกหนึ่งเป็นชู้กับคิมจงอินอธิการบดีซึ่งมีลูกสาวถึงสองคน จนย่างเข้าปีที่สองได้แล้วมั้งที่ผู้ชายลูกหนึ่งอย่างร่างบางบินกลับไปมาระหว่างสองประเทศ จะว่าแวะมาทำธุระด้วยก็ใช่ให้เวลากับครอบครัวไม่เคยขาดและในยามมีเวลาพักเบอร์มีจึงโทรนัดอีกคนออกมาเจอกัน
นัดออกมาจอยเวลาร่วมกันและคงไม่ใช่แค่นั่งกินข้าวเอาช้อนส้อมเข้าปาก อย่างอื่นต่างหากที่เข้าแล้วออก อวัยวะคล้ายทรงกระบอกมักจะผลุบเข้าผลุบออกตรงบริเวณขอบริมฝีปากอิ่ม แทนที่จะได้ลิ้มรสเปรี้ยวหวานมันเค็มของอาหาร ความจริงคือน้ำสีขาวขุ่นที่ยืดยานหยดใส่ลิ้น
ที่กินกันเข้าไปน่ะดูท่าจะมีแต่เนื้อสดของสัตว์ใหญ่ ซุกไซร้กันไปแลกลิ้นกันมาจนหัวเตียงชนฝาผนังดังกึกและกึกซ้ำๆทำกิริยาไม่เกรงใจห้องข้างเคียงจนฟูกเตียงโยกตามจังหวะ โรงแรมห้าดาวน่ะลืมไปได้เลย โมเตลข้างทางคือรังรักของแท้เป็นการป้องกันคนอื่นระแคะระคายเนื่องจากต่างฝ่ายต่างก็มีชื่อเสียงให้รักษา อีกอย่างคงเพราะว่าชอบฟังเสียงสปริงของเตียงเก่าเด้งเอี๊ยดอ๊าด
แต่อาจจะไม่เด้งสู้เท่าเนื้อก้นซึ่งโดนกระแทกกระทันเป็นประจำยามทำท่วงท่าโปรดปราน ลูฮานชอบคลานเป็นสัตว์สี่ขาขณะมีจงอินขึ้นขี่อย่างชำนิชำนาญก่อนการสมสู่อย่างเร้าร้อนจะดำเนินต่อไปไม่มีพัก กระทั่งสุดท้ายน้ำเดินในที่สุดกาวสีขาวขุ่นไหลซึมตามรอยต่อที่ยังถูกอุดสนิท
คิดว่าครั้งเดียวคงน้อยเกินไป ต่อให้เหนื่อยล้าจากการเดินทางสักแค่ไหน เจ้าของห้างให้รอบที่สองกับท่านอธิการบดีได้เสมอและเผลอๆก็ต่อด้วยรอบสาม เพราะความรักล้วนๆไง
รักทั้งๆที่รู้ว่าไม่ถูกต้อง แต่แล้วใครล่ะที่เป็นคนบัญญัติความหมายของคำว่าถูกต้อง ลองมาลองเองดูสิแล้วจะรู้ว่ามันหอมหวานแค่ไหน ตนกล้าเอาหัวเป็นประกันได้ว่าในยามอิงแอบแนบชิดหลังจากเสร็จกิจ การได้นอนระยะประชิดหลังจากตกเป็นของกันและกันมันช่างมีความสุข
ไม่มีการลุกขึ้นไปทำความสะอาดระหว่างนอนกอดกันแล้วปล่อยให้คราบน้ำเหนียวเหนอะเป็นหลักฐาน แค่เอาผ้าห่มมาพาดกลางตัวอย่างลวกๆ เผื่อมีกรณีฉุกเฉินจะได้สะบัดออกทันที เผื่อมีอารมณ์ขึ้นมาจะได้ไม่ต้องแก้ผ้าให้เสียเวลาอีก จงอินมักจะหยอดล้อด้วยถ้อยคำหยาบโลน
ถามว่าโดนจุดนั้นแล้วรู้สึกอย่างไร เวลาตนสอดใส่น่ะเสียวสะท้านมากรึเปล่า
ก่อนลูฮานซึ่งใช้ปลายนิ้วเกาแผงอกกว้างเล่นจะตีฝ่ามือลงไปเบาๆ แล้วอ๋อมแอ๋มว่าใครเขาถามกันตรงๆแบบนี้ คนสีหน้าอิดโรยมีท่าทีเขินอายที่ดูยังไงก็เป็นจริตร้ายมากมารยาขณะเคลื่อนตัวนอนหนุนท่อนแขนแข็งให้ยิ่งถนัดและหันหน้าเข้าหา ริมฝีปากอิ่มอ้าก่อนงับเข้าที่ตุ๋มไตสีน้ำตาล
ลูฮานน่ะร้ายตาใสและไม่มีทางที่คิมจงอินจะปฏิเสธสัมผัส ชายหนุ่มปล่อยให้ร่างบางได้เป็นฝ่ายปรนนิบัติงัดวิชาขึ้นมาใช้ ให้สิทธิ์ในการโยกย้ายสะโพกเองได้อย่างเต็มที่ขณะมีการปรึกษาหารือเสียงกระเส่ากันไปพลางๆ ร่างบางถามว่าไปกินอะไรต่อกันดีก็สีหน้าก็บิดเบี้ยวไปด้วย วิถีคนรวยจงอินรีบตอบว่าอยากกินอาหารอิตาลีขณะที่รับรู้ได้ว่าจังหวะยกก้นขึ้นลงของอีกคนชักถี่
เรียกว่าตะบี้ตะบันคนเคลื่อนสะโพกดันทุรังจนแก่นกายที่ค้างอยู่ในกายแทบหักกลาง ร่างบางนั่งแช่ระหว่างเนื้อตัวสั่น พักสักสิบวินาทีก่อนที่จะค่อยๆร่อนสะโพกอีกครั้งทำอย่างเชื่องช้า เป็นการนวดผ่อนคลายไปในตัวมากกว่าขณะชายหนุ่มที่นอนข้างใต้ทำสีหน้ามีอารมณ์ร่วมแถมคำราม
จงอินส่งเสียงโทนต่ำพลางยกทั้งสองฝ่ามือขึ้นขย้ำหน้าอกร่างบาง ก่อนเป็นฝ่ายรั้งต้นคอขาวลงมาและไม่ลืมยื่นปากเข้าหา ให้สองริมฝีปากมาบรรจบกันตรงกลางทางลากลิ้นออกมาเลีย
กระทั่งเสียงเชียร์ทำให้ตื่นจากจินตนาการสงสัยประเด็นท่านอธิการบดีจูบเมียรักกลางงานการกุศลจงกลายเป็นหัวข้อข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์สังคมฉบับพรุ่งนี้
หรือบางทีอาจจะถูกคนในแวดวงเดียวกันล้อเลียนไปอีกนาน รวมถึงเสี่ยวลูฮานที่ส่งสายตาล้อเลียนคิมจงอินที่สามารถปรับสีหน้าได้ทันควัน เขินอายแต่พองามตามประสาคนเป็นสามีระหว่างที่ปล่อยให้ภรรยาใช้ปลายนิ้วช่วยเช็ดคราบลิปสติกที่ติดมุมปากหลังจากจูบโชว์ทุกคนไป
จนอาศัยว่าได้พิธีกรช่วยพูดเข้าสู่ช่วงต่อไปท่านอธิการบดีกับภรรยาเลยรอดตัวได้อย่างหวุดหวิด เปลี่ยนไปยืนประชิดแถวผนังห้องจัดงานเลี้ยงหลีกเลี่ยงแขกเรื่อแต่ก็ยังไม่วายโดนแซวเป็นครั้งคราว ทำเอาสาวเจ้าเขินจนต้องรีบซบหน้ากับอกสามี ส่วนคนที่รับหน้าก็คือคิมจงอิน
ดูท่าลูกคนที่สามคงจะอีกไม่นานสิน่ะครับ  ประโยคแซวหมั่นแวะเวียนมาแต่คงไม่น่าใจเท่าประโยคนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะคนพูดคือใคร ลูฮานยักมุมปากยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างรู้กันและสื่อความหมายผ่านสายตาหยอกล้อ  ผมขอรับขวัญเด็กที่กำลังจะเกิดมาเลยได้มั้ยครับ
คุณลูฮานก็พูดเกินไปค่ะ จริงมั้ยคะจงอิน  คุณนายคิมยิ้มเขินจนแก้มปริก่อนที่จะขอตัวออกไปเมื่อพนักงานฝ่ายดูแลสถานที่จัดเลี้ยงเข้ามากระซิบกระซาบ
ทิ้งให้เหลือกันแค่สามคนในบริเวณแต่ก็ไม่เป็นปัญหาใดๆในการพูดคุย คุณนายลู่ดูจะสนใจเรื่องการศึกษาไม่น้อยคอยถามอธิการบดีคิมอย่างกระตือรือร้นจนกระทั่งได้ยินเสียงสามีร้องอุทานแผ่วเบา สาวเจ้าจึงหันกลับมาและเห็นว่าเสื้อสูทสามีเลอะน้ำสีม่วงพอดิบพอดี  คุณคะ
ไม่เป็นไร ผมว่าจะไปห้องน้ำสักหน่อย  จะโทษใครได้เพราะทำน้ำเลอะเครื่องแต่งกายเอง ดังนั้นหลังจากออกตัวว่าจะไปห้องน้ำ ลูฮานก็แค่กำชับให้ภรรยารออยู่ในงานอย่าไปไหน
จะหายไปไม่นานแล้วรีบกลับมาแน่นอน ตอนจะไปก็ไม่ลืมฝากคิมจงอินช่วยดูแล
งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ  เผอิญว่าคุณนายลู่เห็นหลังเพื่อนสาวเดินอยู่ในงานไวๆและถ้าจะให้ยืนคุยกับชายอื่นสองต่อสอง สู้ลองเดินไปหาเพื่อนที่เป็นเพศเดียวกันคงน่าจะดีกว่า
ตามสบายครับ  เพราะไม่มีเหตุผลให้ต้องรั้งจงอินจึงตอบรับอย่างยิ้มแย้ม
ก่อนจะออกเดินอย่างสง่าผาเผยไม่เคยปกปิดว่าจะไปไหน จะเรียกว่าแอบเดินออกมาจากงานคงไม่ใช่ ก็แค่เดินผ่านประตูไม้บานใหญ่อย่างนิ่งสงบและบังเอิญพบกับเสี่ยวลูฮานที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำสภาพเสื้อสูทเปียกเล็กๆพลางเอ่ยปากถาม  กำลังจะไปไหนเหรอครับ    
ที่รถน่ะครับ เผอิญว่าผมลืมโทรศัพท์ไว้ในนั้น  จงอินหยุดยืนสนทนาที่หน้าลิฟต์ซึ่งเยื้องกับทางเข้าห้องน้ำชายก่อนจะเผลอยิ้มเมื่อชายร่างบางตั้งคำถามอีกครั้ง  ให้ผมไปเป็นเพื่อนมั้ยครับ
อธิการบดีขยับเดินไปทางขวาเมื่อประตูลิฟต์เปิดอ้ากว้าง เท่านั้นก็เหมือนเป็นสัญลักษณ์เชิญชวนให้อีกคนเดินเข้าไปก่อนกรายๆ ไม่ต้องตอบให้เสียน้ำลายลูฮานก็เข้าใจและขยับตัวทันที
แล้วตอนอยู่ในลิฟต์ก็แทบจะไม่มีการถามไถ่ เพียงคำถามเดียวที่ชายร่างบางสนใจก็คือ
ไม่มีคนขับรถมาด้วยเหรอครับ
วันนี้ผมขับมาเอง 
เลยเรียกได้ว่าทางสะดวก สมบูรณ์แบบแทบจะไม่ต้องกังวลกับความสงสัยใคร่รู้ของใคร
ภายในลานจอดรถของทางโรงแรมซึ่งเงียบสงบจะพบไฟสว่างเป็นจุดๆ ชุดสูทที่สวมแล้วเป็นผู้ดียังมีอยู่บนร่างเกือบจะครบ แต่เพื่อกันการเลอะคราบไม่พึ่งประสงค์คงต้องต่างฝ่ายต่างถอดกางเกง จะได้สะดวกในการละเลงรักเบาะหนังด้านหลังคนขับถูกจับจองด้วยสองร่างที่อดรนทนมานาน อยู่ในงานด้านบนน่ะก็แค่การแสดง พอถูกแสงสีก็ต้องทำตัวเป็นคนดีมียิ้มให้กันตามอัธยาศัย
แต่ตั้งแต่เข้ามาภายในรถแทบจะยังไม่ได้ยิ้มให้กันเลยสักนิด คิดแต่ว่าจะบริหารเวลาอย่างไรให้ได้ประโยชน์ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลูฮานมุดหว่างขายาวก่อนจะใช้ปากสาวแก่นกายที่ค่อยๆขยายกลายเป็นโตและคับเต็มที่ในโพลงปาก ยากจะขยับจนต้องเปลี่ยนจากใช้ปากงับเป็นแค่เล็มก่อนเต็มใจกลืนน้ำสีขาวซึ่งซึมตรงส่วนปลายขณะใช้เกลียวลิ้นแลบเลียจากล่างขึ้นบน 
ร่างบางไม่ลืมช้อนสายตามองคนที่จ้องอยู่ก่อนอย่างออดอ้อนและตอนที่รับรู้ว่าอีกคนเกือบจะถึงฝั่งฝัน ลูฮานจึงได้รีบถอนริมฝีปากออกแล้วก้าวขาซ้ายพาดวาดผ่านตักแข็ง แต่ยังไม่ได้ลงแรงนั่งเต็มร้อย ก้นงอนลอยอยู่ในอากาศระหว่างเอามือควานหาของแข็งที่แรกๆเหมือนจะขยายใหญ่ไปจนติดขัดแต่สุดท้ายพอพยายามก็สามารถยัดเข้ากลางหว่างขาได้สำเร็จ
ยังเป็นลูฮานที่ค่อยๆถดก้นนวลเนียนลงนาบกับหน้าตัก อย่างกับเป็นพวกโรคจิตที่รู้สึกดีเวลาที่ความบวมเปล่งของชายหนุ่มแตกภายใน ไหล่แคบกระตุกเล็กน้อยยามที่ช่องทางตื่นเต้นโดนฝอยน้ำกามกระเด็นใส่ ความเหนียวกระเซ็นเป็นผลให้เกิดความหล่อลื่นตอนจงอินยื่นมือคว้าเอวร่างบางไว้ทั้งสองมืออย่างแน่นหนาและพาขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวใช้กำลังแขนยกสะโพกตรงหน้า
            ท่านอธิการบดีนั่งเป็นฐานที่อ้าขาขณะคนเป็นเจ้าของห้างนั่งหันหน้าออกและพอได้ลองขยับจนความแอดอัดเริ่มเข้าที่เข้าทาง รองเท้าหนังของลูฮานเลยได้ว่างบนพรมเช็ดเท้าภายในรถส่วนตัวสักที แล้วทีนี้ก็ค่อยถนัดถนี่หน่อยจะเอาจังหวะเบาค่อยก็สามารถบังคับเองได้สบายๆ
            ในชั่วโมงเร่งด่วนจวนจะได้เวลาต้องกลับขึ้นไปด้านบน ต่างคนจึงต่างช่วยกันทำเวลาให้ทันจนบังเกิดความเมามันสั่นไปทั้งหน้าขา คิมจงอินกัดฟันเกร็งจัดจนสักกรามขึ้นรูปขณะไล่จูบต้นคอขาวไม่หยุด ส่วนเสี่ยวลูฮานก็เอาแต่พูดเหมือนคนกำลังสวดมนต์ที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับเป็นประโยคไม่ได้ สัมผัสได้แค่ว่าหายใจหืดหอบแทบตายระหว่างใช้สองมือยืดเบาะนั่งด้านหน้าเป็นหลัก
สองสะโพกไม่มีการหยุดพักสักวินาทีเดียว เทียวส่งเทียวรับตามประสาคนเคยเข้าขา ลูฮานบดขยี้เบียดเนื้อก้นลงมาอาศัยแรงโน้มถ่วงช่วยระหว่างจงอินก็ช่วยสวนสะโพกขึ้นพอดีมีกระแทกย้ำซ้ำๆทำเหมือนจะเอาให้ผนังภายในช่องทางบุบสลาย เป็นฝ่ายเพิ่มทั้งความแรงและความรวดเร็ว     
น่ากลัวว่าจะต้องปวดเอวในภายหลัง แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ดังนั้นท่านอธิการบดีจึงไม่คิดสนใจ ที่ให้ความสำคัญคือทำอย่างไรก็ได้ให้ความอึดอัดในตอนนี้ถูกรีดออกจนหมด ชายหนุ่มอดเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่ได้เมื่อสัญชาติญาณเข้ามามีบทบาทและกลายเป็นใหญ่
มีอำนาจขนาดไม่ยอมฟังเสียงทัดท้านของลูฮานที่ครวญครางเสียงสูงราวกับจะขาดใจตาย ฝ่ามือทั้งสองข้างนั่นจับเอวร่างบางไว้อย่างมั่นคงบังคับให้ตั้งตรง จงอินคงอยากแสดงฝีมือในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะเล่นใหญ่น่าดูขณะมีเสียงอู้อ้าคำรามต่ำเป็นคอรัสรับกับเสียงหนังสดกระทบหนัง
จนร่างบางขาสั่นมันกระเพื่อมไปทั้งตัวมัวแต่ส่งเสียงจนลืมว่าต้องห้าม ซ้ำยังกลับลำทันทีมีขอความหยาบโลนเพิ่มเริ่มคิดว่าเป็นไงเป็นกัน ยังไงซะรถคันนี้ก็อยู่ในมุมอับและโชคดีอีกชั้นที่มันถูกเสาบังแทบมิด แถมฟิล์มรถก็ติด มิดชิดพอให้ทำเรื่องอย่างว่าใครจะว่าน่าไม่อายก็ช่างเขาเถอะ
ถ้าต้องเจอกับคดีแย่งสามีชาวบ้าน ลูฮานก็คิดว่าตัวเองพร้อม ยอมขึ้นโรงขึ้นศาลถ้ามันจะแลกมากับความสุขชั่ววูบซึ่งวนลูบไม่มีหยุดอยู่อย่างนี้ ความสุขที่เหมือนบทเพลงซึ่งบรรเลงเรื่อยๆ มีเอื่อยแต่ไม่น่าเบื่อ กลับกันมันช่างเร้าใจลักกินขโมยกินเป็นอะไรที่ช่างน่าตื่นเต้น เห็นอยู่ว่าบาปแต่ถามว่ากลัวตกนรกมั้ยก็ไม่ เพราะกว่าจะตายจนตกนรก ตนก็ได้ไปชมสวรรค์ก่อนตั้งหลายที  
มันมีแต่ได้กับได้คิมจงอินเองก็คิดเช่นนั้น มันสนุก ไม่เชื่อก็ลองดูสิ
ยิ่งถ้ามีคู่ขาที่พร้อมจะเข้าใจความเป็นไปของตนจนรู้กระทั่งว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร
คนบนตักไม่เคยมีปริปากบ่นสักคำยามตนหลั่งภายในอีกสักกี่หนอัดฉีดของเหลวเข้าก้นจนไหลทะลักล้นย้อยลงมาตามความยาวของแก่นกาย แต่นี่ถ้าเป็นภรรยารายนั้นพอหว่างขาขาวเลอะเข้าหน่อยก็จะแอบหงุดหงิด รักกันมากมายแต่พอเสร็จกิจก็แยกย้ายไปนอนกันคนละฝั่ง
หลังจากหลั่งภายในก็ไม่เคยได้มีการรอเวลาให้อาการตอดรัดคลายตัวร่วมกัน มันสนิทแต่ก็ห่างเหินไม่เกินเยียวยาแต่พอมีเสี่ยวลูฮานเข้ามาในชีวิตก็สามารถทดแทนในสิ่งที่ทำกับภรรยาไม่ได้
อย่างน้อยภรรยาก็ไม่ใจกล้าพอจะฉีกแข็งฉีกขาดาหน้าเข้าหาตนก่อน จงอินเพิ่งค้นพบว่าคนประเภทที่ชื่นชอบคือพวกใจกล้าหน้าหนาสิดีเวลามีอะไรจะได้พูดกันตรงๆไม่ต้องอ้อมคงอ้อมค้อม อีกอย่างก็ชอบคนที่คอยปรนนิบัติการที่ลูฮานลดตัวลงนั่งตรงหว่างขาก่อนลิ้นยาไปทั่วบริเวณแก่นกาย การที่ร่างบางตั้งใจจะช่วยทำความสะอาดช่วยเพิ่มคะแนนความพิศวาสขึ้นเป็นโข
กระทั่งมีเบอร์โทรเข้า ลูฮานควักเครื่องมือสื่อสารออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทด้านในขณะยังใช้ลิ้นกินน้ำกาม ทำเสียงน่ากลัวยามซดแล้วรีบค่อยกลืนลงคอ พอได้ยินเสียงใสจากปลายสายก็กรอกเสียงหวานใสตอบกลับทำทักทายภรรยาตามปกติ  ครับ พอดีผมลงมาสูดอากาศข้างล่างน่ะ 
ลูฮานเอ่ยด้วยโทนน้ำเสียงเป็นปกติ ไม่มีตื่นเต้นหรือตระหนกตกใจ ฟังแล้วรู้สึกเหมือนสบายใจมาก ปราศจากความรู้สึกผิดจนบางทีก็ยิ่งดูน่ากลัว  ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวผมกลับขึ้นไป
รีบขึ้นมานะคะ ใกล้ถึงคิวคุณขึ้นพูดบนเวทีแล้ว
ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรีบขึ้นไป  ฝ่ายสามีรับคำก่อนทำเซอร์ไพรส์เล็กๆ  ที่รัก ผมรักคุณนะ
อะไรของคุณคะ ฮ่าๆ ฉันก็รักคุณค่ะ  แม้จะงวยงงแต่น้ำเสียงมีความสุขก็ตอบกลับมาแล้วชิงตัดสาย เธอไม่เคยเอะใจว่าในขณะที่สามีกำลังรอฟังประโยคบอกรักจากเธอ ...สามีของเธอกำลังส่งสายตาให้ชายอื่นพลางใช้ลิ้นลื่นช่วยทำจนน้ำกามปริ่มอีกรอบ
ดูดปากจนแก้มตอบก่อนคลายออกอย่างมีจริต ลูฮานแลบลิ้นกินน้ำในส่วนที่เลอะรอบขอบปากขณะย้ายขึ้นมานั่งบนตักแข็งอีกรอบ แถมมอบจูบดูดดื่มเป็นของสมนาคุณหลังจากเก็บมือถือเข้ากระเป๋าเสื้อไว้อย่างเก่า แล้วท่าทางขี้ออดอ้อนของร่างบางก็ทำเอาคิมจงอินหัวเราะขบขันโชว์ฟันด้วยการแสยะยิ้มเล็กๆ ความตลกมันสั่งสมตั้งแต่อีกคนบอกรักปลายสายแต่ดันใช้ลิ้นช่วยตน
จนอดที่จะมองดวงหน้าด้วยสายตาเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์ไม่ได้
คุณพูดว่าผมรักคุณเนี่ยนะ  ท่านอธิการบดีทวนประโยคราวกับไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ระหว่างกอดเอวคอดไว้หลวมๆแล้วจูบปากคนที่ก้มหน้าลงมาดังจ๊วบแรงๆก่อนจะผละจากกัน    
ผมรักภรรยาตัวเองนะ  ลูฮานพูดนัยน์ตาใสซื่อพลางเอามือลูบลำคอแกร่งเล่นไปมา
ร่างบางหน้านิ่งแต่แววตากำลังยิ้มยิงฟันกว้าง  “…แต่ผมรักคุณกับลีลาของคุณมากกว่า







 ***ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
แต่งสเปไคลู่ขึ้นมาเนื่องในวาระวันเกิดเพื่อนซึ่งเป็นสาวกคู่นี้ แต่จะเก็บไว้ให้นางอ่านคนเดียวก็ดีจะใจร้ายไปหน่อยเลยมาปล่อยให้ทุกคนที่ชอบคู่นี้ได้อ่านกันด้วย มีความสุขแล้วใช่มั้ยอลิสศรี ฮี่ฮี่ รัก 
hashtag #fcuncenfic

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[OS18+/HUNHAN] Tell Me (What Is L♡ve)


Tell Me (What Is Love)







เสียงล้มครืดดังสนั่นนึกว่ามีการระเบิดเกิดขึ้นในห้องพัก แต่ความจริงเป็นข้าวของซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะแก้วต่างหากที่ถูกมือใหญ่ปัดกวาดอย่างแรงจนล้มระเนระนาดในคราวเดียว
ดอกไม้ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดลงไปนอนแน่นิ่งท่ามกลางแอ่งนองและเศษแจกันที่แตกเป็นเสี่ยงระหว่างที่เสียงทำลายเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องยังคงดังต่อไป โซฟาบุหนังขนาดใหญ่ถูกฝ่าเท้ายัดจนเคลื่อนไหวจากตำแหน่งเดิมและคนเกรี้ยวโกรธก็เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
โอเซฮุนกลายเป็นผู้ชายเจ้าอารมณ์ หัวฟัดหัวเหวี่ยงขณะส่งเสียงหอบหายใจรุนแรง ทั้งที่เหนื่อยแทบแย่และรู้ว่าเสียงแรงโดยเปล่าประโยชน์ แต่คนร่างสูงโปร่งแค่ต้องการระบายความอัดอั้น อย่างน้อยการใช้กำลังมันก็ช่วยได้ รู้สึกดีที่อย่างน้อยข้าวของมากมายก็รู้สึกเจ็บเหมือนตนบ้าง   
ช่วยกันลดความทรมานโดนการแบ่งให้และต่อให้ถูกตราหน้าว่าแสนใจร้ายแต่แล้วจะทำไม ในเมื่อของทุกอย่างภายในห้องนี้ก็เป็นเงินตนที่ซื้อมา ถ้าทนมือทนเท้าไม่ได้ก็ให้รีบไสหัวออกไปซะ
รีบไสหัวออกไปให้ไวเหมือนใครบางคน  อย่าตามหาพี่…’
ใครจะอยากไปตามหาคนพรรค์นั้นกัน สำคัญตัวเองผิดไปรึเปล่า  เหอะ…”  คนหยิบเศษกระดาษขึ้นมาอ่านทวนอีกครั้งส่งเสียงในลำคอเยาะเย้ยความมั่นอกมั่นใจที่อีกคนกล้าเขียนเป็นลายมือหวัดๆ ก่อนกระดาษแผ่นในมือจะถูกขย้ำกำจนแน่น
จนแขนยาวขึ้นเส้นเลือดเขียวเป็นเกลียวชัดบ่งบอกว่าเซฮุนกำลังเกร็งจัด
พยายามจะอดกลั้นแต่มันไม่ไหว สุดท้ายเลยปาทิ้งออกทางหน้าต่างที่เปิดกว้างขว้างจนสุดแรง แล้วตามด้วยเก้าอี้ไม้อาศัยว่าใกล้มือเลยจับโยนใส่บานหน้าต่างข้างเคียงที่ยังปิดสนิท กระทั่งเกิดรอยร้าวก็ยังไม่คิดสำนึก คึกจัดสงสัยเพราะเลือดในการมันเดือดพล่านเลยอยากหาทางระบาย
เพราะเลือดในกายมันร้อนรุมกลุ้มใจจึงใช้กระดูกข้อนิ้วซัดรอยร้าวของหน้าต่างเข้าให้และใช่ว่ารอบเดียวจะจบ ในยามที่สบถด้วยถ้อยคำหยาบคายสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ทยอยหลุดออกจากริมฝีปากบาง หน้าต่างต้องคอยเป็นฝ่ายรองรับแรงหมัดที่ขยันระดมชก ทั้งที่กำลังถูกรอยร้าวของกระจกบาดผิวหนังจนได้แผลและมีเลือดอาบแต่เซฮุนก็ยังทำเหมือนไม่เจ็บไม่สะทกสะท้านใดๆ
ทางกายอาจจะไม่แต่สายตามันโกหกได้ที่ไหนล่ะ
นัยน์ตาน่ะบอกทุกอย่างหมดแล้ว แม้จะมีแววแค้นเคืองและกรุ่นโกรธ แต่ขอโทษทีพอดีชายหนุ่มยังปิดแววตาแห่งความคะนึงหาไม่มิด ชั่ววูบนึงคิดแต่ว่าทำไมถึงได้จากกันไปง่ายดายนัก
แล้วทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นล่ะ เป็นจริงหรือเป็นความฝัน ตกลงรักกันหรือไม่รักกันแน่    
แค่บอกเหตุผลสักประโยคก่อนจะไปมันยากนักเหรอไง แถลงไขสักคำว่าตนทำอะไรให้เคืองโกรธรึเปล่า อยากให้คุกเข่าขอโทษก็ย่อมทำได้ ไม่ใช่จู่ๆก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในตอนรุ่งสาง
ทำเป็นวางกระดาษแผ่นน้อยเหมือนนางเอกในนิยายน้ำเน่าเอาไว้ให้ตนดูต่างหน้า
มีแต่คนไร้สมองเท่านั้นแหละที่จะเชื่อกับประโยคกึ่งคำสั่งกึ่งขอร้องของเสี่ยวลูฮาน 
อย่าตามหาอย่างนั้นเหรอ? ในเมื่อร่างบางรู้ดีว่าตนไม่มีทางเชื่อฟังแถมยังเหมือนหยามคนที่ประเภทชอบขัดคำสั่ง คิดว่าประโยคสั้นๆจะหยุดความดื้อรั้นของตนได้งั้นสิ?
มีแต่จะยิ่งอยากเอาชนะ ถ้าตราบใดยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าสุดท้ายถูกทิ้งเพราะอะไร ชายหนุ่มขอสาบานว่าจะไล่ลาร่างบางไปตลอดชีวิต จะตามจองเวรแม้ต้องพลิกแผ่นดินหาแล้วอย่ามาถามหาความใจดีกับตน เพราะคนที่ถูกกระทำก่อนก็คือตน
คนอย่างโอเซฮุนก็เจ็บเป็นนะ
เจ็บมากด้วย เจ็บที่ใจจนไม่เหลือความรู้สึกไปถึงส่วนอื่น ขนาดยืนมองมือตัวเองที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด จนหยดเลือดไหลย้อยลงตามง่ามนิ้วและดิ่งลงตามแนวข้อมือ มันชาดิกขณะสิ่งเดียวที่เต้นแรงก็คือก้อนเนื้อในอกซ้าย คล้ายถูกมือล่องหนบีบขยำขย้ำหัวใจตนเหมือนกำก้อนดินน้ำมัน 
มือนั้นบีบคั้นกะเอาให้ตาย แต่เซฮุนจะไม่ยอมตายไปคนเดียวแน่นอน
อย่างน้อยถ้าต้องตกนรกก็คงจะลากตัวเสี่ยวลูฮานไปด้วยกัน  “…ผมหาพี่เจอแน่  



ทั้งที่ลั่นวาจาว่าจะต้องทำให้ได้แต่ไหงมานั่งเมาหัวราน้ำทำตัวรุ่มร่ามกับเพื่อนฝูง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งตลกเหมือนคนจะตายหัวเราะกับแค่เรื่องการกระจายตัวของควันบุหรี่ในอากาศ แถมมีการทำมือทำไม้คล้ายคว้าสิ่งที่จับต้องไม่ได้จนเพื่อนชายในกลุ่มต้องรีบตะคลุบตัวกลัวจะล้มหัวทิ่ม
เพื่อนคนหนึ่งแอบถีบก้นโอเซฮุนอย่างหมั้นไส้แล้วปล่อยให้นั่งหัวเราะต่อไปบนโซฟา ก่อนหาน้ำเมาให้ดื่มเมื่อเสียงยานครางสั่งว่าจะเอาเดี๋ยวนั้น จนกระทั่งหลายคนเริ่มทยอยส่ายหัวเพราะเพื่อนตัวดีวกกลับมาสู่โหมดรำพึงรำพัน ลูฮานอย่างนั้นลูฮานอย่างนี้ ประโยคที่เริ่มต้นด้วยถ้อยคำว่าทั้งที่ฉันรักจะตาย เกือบร้อยครั้งได้ที่คนเมาตัดพ้อระหว่างขอเหล้าเพิ่มก็นัยน์ตาแดงก่ำ
เซฮุนสีหน้าชอกช้ำขณะกำมือข้างที่มีผ้าพันแผลลวกๆทุบหน้าอกตัวเองไปด้วย และป่วยการที่จะห้ามเพื่อนพยายามรั้งท่อนแขนก็สะบัดออก มีการบอกว่าอย่ามายุ่งก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนแต่ดันลื่นล้มไม่เป็นท่า หน้าลงไปนอนตะแคงแนบพื้นทำเอาระเบิดหัวเราะจนหน้าอกสั่นเป็นคลื่น
คนเมายื่นมือออกไปเพื่อลูบใบหน้าในมโนสำนึก ดันคิดว่าลูฮานกำลังนอนตะแคงข้างมองมาอย่างห่วงใย มีรอยยิ้มสดใสมอบให้อย่างเช่นเวลาปกติก่อนที่จะได้เข้าใจซะใหม่ ควันร่างบางสลายกลายเป็นชายหนุ่มกลับมานอนเดียวดายบนเตียงใหญ่ขนาดหกฟุตแต่เพียงผู้เดียว
เป็นเหตุให้ยิ่งเหี่ยวเฉานอนเอาแขนกอดเข่าตัวเองอย่างคุดคู้ ดูยังไงก็อ่อนแอเป็นเด็กน้อยที่แม้จะไร้น้ำตาแต่สีหน้าพาให้คิดว่าโลกของชายหนุ่มกำลังล่มสลาย นิ่งงันไม่ขยับกายเป็นสิบๆนาทีก่อนที่จะกลับมาฉุนเฉียวเที่ยวถีบผ้าห่มจนพวกมันตกเตียงแล้วหยิบหมอนข้างเคียงมาปา   
จะว่าสร่างเมาก็ไม่เชิงเพราะยังเดินโคลงเคลงเล็งเห็นภาพตรงหน้าเบลอๆ เซฮุนแบกร่างหนักๆเรียกได้ว่าโซซัดโซเซก้าวเข้าหาตู้เย็นอย่างคนมีเป้าหมายและไม่ใช่ขวดน้ำเย็นที่อยากยกซด เป็นกระป๋องเครื่องดื่มมึนเมาต่างหากที่โดนกวาดออกมาจากชั้นว่างจนตกลงพื้นเกลื่อนกลาด
แถมไม่มีการปิดประตูเครื่องทำความเย็นแต่อย่างใด เปิดประตูกว้างแค่ไหนก็ค้างไว้อยู่อย่างนั้นเพราะคนที่สมควรจะเป็นคนยื่นมือปิดมันกำลังไม่ว่าง ชายหนุ่มนั่งหันหลังพิงสันขอบตู้เย็นแล้วเปิดกระป๋องเบียร์เย็นๆอย่างชำนิชำนาญก่อนยกขึ้นดื่มรวดเดียวดังอึกๆ
แล้วก็แทบจะสำลักทันทีในเวลาถัดมา ผิวหน้าที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เลอะเทอะจนทำให้แยกไม่ออกว่าหยดไหนคือน้ำเบียร์หรือหยดไหนคือน้ำตา แม้จะเป็นมุมอับแต่แสงสีส้มจากภายในตู้เย็นก็ส่องสว่างและสะท้อนให้เห็นถึงเสี้ยวหน้าอันเจ็บปวด
บ้วนน้ำเบียร์ออกจากทางปากเพราะคนกำลังร้องไห้ หายใจไม่ถนัดเพราะกำลังสะอึกสะอื้นขณะยืดแข็งยืดขานั่งด้วยสภาพแบบว่าหมดอาลัยตายอยาก เพราะความรักกำลังทำพิษ ความคิดถึงกำลังเล่นงานนี่มันเพิ่งจะผ่านมาวันเดียวด้วยซ้ำ
เซฮุนทั้งขำให้กับความโง่เขลาเคล้าน้ำตาเพราะแสนเสียใจ เสี่ยวลูฮานจะเป็นเหมือนกันมั้ย? …หรือคนใจร้ายแบบนั้นจะกำลังมีความสุขกับชีวิตใหม่ที่ไม่มีเงาตน อาจจะเจอคนใหม่ไปแล้วก็ได้
เพราะในเมื่อเลือกจะจากไปแสดงว่ายังไงก็ต้องมีทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งผิดกับตนที่ยังไม่ทันได้เลือกอะไรเลยด้วยซ้ำ แถมต้องมาเจ็บช้ำเป็นเวรเป็นกรรมเนื่องจากถูกความรักที่บ่มเพาะมาตั้งนานหลายปีดีดะทำร้าย เจ็บแทบตายจนเซลล์ประสาทในร่างกายเหมือนจะค่อยๆตายไปด้วย
การได้นอนนิ่งๆบนพื้นในเช้าเข้าวันที่สามทำให้คิดถึงยามป่วยที่ปกติจะมีร่างบางสีหน้าแตกตื่นวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาดูแล แค่ตนไอนิดหน่อยอีกคนก็รีบเบะปากราวกับจะร้องไห้ ลูฮานจะคอยช่วยเช็ดตัวให้และนอนเคียงข้างใกล้ๆเหมือนไม่เคยกลัวติดไข้แต่อย่างใด 
ร่างบางเป็นคนให้ความอบอุ่นในเวลาที่เหน็บหนาวและเคาท์ดาวน์ผ่านค่ำคืนมืดๆไปด้วยกัน นอกจอกจะเป็นคุณพยาบาลจำเป็น ลูฮานยังเป็นสาวใช้ตัวน้อยที่จะคอยโกนหนวดให้ตนในทุกๆอาทิตย์ อยู่เป็นเงาชิดใกล้ใช้เวลาร่วมกันขณะมั่นผูกความสัมพันธ์เรื่องอย่างนั้นก็ไม่เคยขาด 
จะห่างกันก็แค่ตอนร่างบางออกไปทำงาน ส่วนตนแยกไปมหาลัย
แล้วตอนเย็นก็กลับมาพบกันใหม่ นั่งดินเนอร์ในร้านอาหารและจูงมือกันกลับห้องพักที่ลงทุนซื้อขาดแบบหารครึ่ง ส่วนหนึ่งในห้องนี้ยังคงเป็นของเสี่ยวลูฮาน แค่คิดได้ดังนั้นก็เจ็บแต่ยังไม่หนักเท่ากับตอนเห็นข้าวของมากมายที่ร่างบางเคยใช้ จะไปทำไมถึงไม่เอาไปให้หมด
อดคิดไม่ได้ว่าที่ทิ้งสิ่งของไว้ให้ดูต่างหน้า อีกคนคงเพราะแค่ว่าอยากจะเยาะเย้ยกัน แค่เห็นเสื้อผ้าในตู้หลายสีสันก็เหมือนถูกถากถาง ถูกคนใจร้ายด่าว่าโง่นับครั้งไม่ถ้วนชวนให้เจ็บใจ
ชายหนุ่มนอนกำมือแล้วถูกปึงๆกับพื้นอย่างไม่เกรงใจห้องชั้นล่างและระหว่างที่นอนเหมือนคนเป็นอัมพาต เข้าสัปดาห์ที่สองได้แล้วมั้งที่ชีวิตของโอเซฮุนไม่แตกต่างจากซากซอมบี้ จู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์สายเข้าและเอาเป็นว่าคนอยากอยู่เงียบๆคนเดียวก็ทำหมางเมินเหมือนทุกวันที่ผ่านมา  
เพราะฟังผ่านๆก็นึกว่าเป็นเพื่อนโทรเข้ามาตามไปเรียนเช่นปกติ แต่เสียงเรียกเข้าที่แตกต่างจากทุกวันก็ทำให้เซฮุนรู้สึกสะดุดหูพลางรู้ได้ในทันทีว่าปลายสายที่โทรเข้ามาเป็นใคร ด้วยอารามทั้งตระหนกทั้งตกใจ แน่นอนว่ายังโกรธปนอาลัยและพฤติกรรมก็ไปไวกว่าความคิด มือที่ปราศจากผ้าพันแต่ยังมีรอยแผลตกสะเก็ดอย่างชัดเจนยกโทรศัพท์ขึ้นชิดใบหูในทันทีที่กดรับ
ก่อนเสียงชายหนุ่มจะตอบรับแค่ครับแผ่วเบา แม้จะผิดหวังที่ไม่ได้ยินเสียงหวานของอีกคนอย่างที่เข้าใจ แต่ไม่เป็นไร พระเจ้ายังพอปราณีตนด้วยการส่งคนที่ชื่อเสี่ยวลูฮานกลับมาอีกครั้ง



ส่งมาในสภาพสิ้นฤทธิ์เสียด้วย
แต่ช่วยไม่ได้ ถึงร่างบางจะดูน่าสงสารในยามหลับบนเตียงของทางโรงพยาบาลหลังจากถูกรถยนต์เฉียวชนแต่คนอย่างเซฮุนจะไม่มีวันสงสาร กลับกันอยากรีบปลุกให้ตื่นขึ้นมาเคลียร์กันแทบบ้าเพียงแต่ว่าติดที่ภายในห้องยังมีพยาบาลที่กำลังบอกถึงเหตุผลที่ทำให้โทรหาชายหนุ่ม
ผู้บาดเจ็บเมมเบอร์คุณไว้เป็นเบอร์ฉุกเฉินค่ะ…’ 
ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตนยังไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่งคนสำคัญอีกอย่างนั้นเหรอ?
แทนที่น่าจะลบทิ้งทุกอย่างทำการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งให้สมกับที่เป็นคนเด็ดเดี่ยวเดินจากไปแต่ทำไมเสี่ยวลูฮานถึงยังเก็บตนไว้ในสถานะเดิม เป็นคนเริ่มใจร้ายก่อนแล้วตอนนี้ยังมีหน้ากลับมาทำให้สับสนอีก แต่เซฮุนยอมรับว่าเกือบฉีกยิ้มดีใจเมื่อนึกได้ว่าบางทีตนอาจจะยังพอมีความหมาย 
ชายหนุ่มยอมรับว่าใจคนเราช่างยากแท้หยั่งถึงแต่คงยังไม่ได้ครึ่งของจิตใจร่างบางที่กำลังนอนหลับตาพริ้มและใบหน้าเนียนใสยังดูเหมือนคนกินอิ่มนอนหลับได้สบายๆในช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้แก้มจะซูบหายไปหน่อยแต่รอยเลือดฝาดไม่เคยจาง ริมฝีปากที่เผยอยังมีสีชมพูดูนุ่มนิ่มอิ่มเอิบ      
ก่อนแพขนตางอนจะค่อยๆเริ่มขยับ เปลือกตาสีอ่อนที่พับปิดค่อยๆลืมขึ้นแล้วหลับลงคงต้องการเวลาปรับสายตากับแสงไฟ เสี่ยวลูฮานใช้เวลาอีกสักสองสามวินาทีในการลืมตาครั้งใหม่แล้วก็ถึงคราวชะงักงันไป เพราะที่แท้มันไม่ใช่ความฝันหรือภาพเบลอเลอะเลือนแต่อย่างใด
คิดว่าตัวเองจินตนาการไปเองแต่ที่ไหนได้โอเซฮุนตัวเป็นๆยืนอยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้นและสายตาโกรธเคืองคู่นั้นก็เป็นสาเหตุที่เริ่มทำให้ร่างบางนอนน้ำลายท่วมปาก อึกอักอยากทักทายแต่ไม่รู้จะเปิดด้วยประโยคไหน ลูฮานกระอักกระอวนเพราะอีกใจคิดว่าคงไม่ได้เจอกันอีก
แล้วพอกลายมาเป็นแบบนี้ คนมีความผิด มีชนักติดหลังยังไม่ทันได้ศึกษาวิธีรับมือที่ดี ที่ทำได้ดีก็มีแค่นอนฉีกยิ้มโง่ๆ ยิ้มแหย๋ๆแค่ให้มุมปากดูเหมือนขยับเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆพยายามขยับร่างกายลุกขึ้นนั่งแต่ยังไม่ทันทำได้สำเร็จดี จู่ๆคนที่ยืนนิ่งเป็นเป่าสากก็เกิดโน้มตัวลงมา
ลูฮานหน้าแทบกลืนไปกับหมอนใบใหญ่ในขณะที่ถูกใบหน้าสมส่วนแต่ดูทรุดโทรมคุกคาม ตามมาราวีในระยะประชิดอีกนิดปลายจมูกเชิดกับปลายจมูกโด่งก็แทบจะสัมผัสกัน ห่างแค่ความบางของเหรียญเงินคั่นได้และเป็นไปไม่ได้ที่ใครคนใดคนนึงจะสามารถหลบเลี่ยงสบตาที่พาใจสั่น
นัยน์ตาสองคู่มีภาพของกันและกันปรากฏอย่างชัดเจน พร้อมทั้งแทรกซึมไปด้วยอารมณ์หลากหลาย สายใยแห่งความโหยหา แววตาที่ดูกรุ่นโกรธ แก้วตากลมสั่นระริกเว้าวอนเหมือนอยากให้อีกคนยกโทษให้ ลูฮานกะพริบตาช้าๆระหว่างเซฮุนผ่อนลมหายใจร้อนรดหน้าและหลบตาก่อน      
สบายดีมั้ย…”  ในตอนที่คำถามสิ้นคิดหลุดออกจากปาก ร่างบางแทบอยากตบตีตัวเองให้สาสมก่อนจะรู้สึกคล้ายจมลงสู่บ่อแห่งความผิดเมื่ออีกคนที่ชิดใกล้หันกลับมาใช้แววตาเจ็บปวดจดจ้อง  มองหน้าผมให้ชัดๆ แล้วพี่บอกซิว่าผมดูเหมือนคนสบายดีมั้ย
เซฮุนเปิดประโยคคำพูดได้ดีและมีชั้นเชิงในการอยากแดกดันสูง ก่อนจะตบท้ายด้วยการแสยะยิ้มจนทำให้ลูฮานหน้าเจื่อน ร่างบางเคลื่อนตัวเล็กน้อยและส่งสายตาราวกับอยากขอให้อีกคนไปก่อนและตอนนั้นก็ได้คำตอบในทันทีว่าไม่ได้ ไหล่กว้างยังโถมเข้าหาจนหน้าผากชิดเกยกัน
จนลูฮานได้เห็นผิวหน้ากร้านซึ่งขาดการดูแลได้ถนัดตา เห็นความเหนื่อยล้าไร้เรี่ยวแรงเล็กๆ รวมถึงเห็นไรหนาวแข็งที่ครั้งนึงตนจะเป็นคนละเลงครีมขาวแล้วช่วยเอามีดโกนโกน
อย่ามาถามว่าผมสบายดีมั้ย”  ปากพูดขู่แต่สายตาดูยังไงก็เอาจริง บางทีสิ่งที่สิงอยู่ในตัวเซฮุนคงจะเป็นซาตานกลับชาติมาเกิดและบังเอิญถูกแหยให้โกรธทั้งที่ตอนปกติก็เป็นคนใจดีแท้ๆ 
แล้วพี่ล่ะสบายดีมั้ย ชีวิตที่ไม่มีผมน่ะสบายดีมากรึเปล่า
ซะ เซฮุน
อ่อ ยังจำชื่อกันได้ด้วยเหรอ  ประชดประชันทันควันเหมือนเตรียมการมาอย่างดี บอกตามตรงชายหนุ่มยังมีถ้อยคำทำร้ายจิตใจอีกเป็นแสนและจะไม่ยอมหยุดจนกว่าร่างบางจะบอกเหตุผลว่าทิ้งตนไปทำไม  ไอ้เราก็นึกว่ามีผัวใหม่ให้เรียกชื่อจนลืมชื่อผัวเก่าไปซะแล้ว
พี่ไม่…!”
เพราะอะไรนะเพราะอะไร ไหนลูฮานคนดีลองตามมาหน่อยสิครับว่าเพราะอะไร  คำพูดหวานๆผกผันกับสายตาดุดันที่เหมือนกระสุนยิงกราดใส่ใบหน้าเนียนใสขณะลูฮานเลือกเอียงหลบหน้าไปทางซ้าย บอกกรายๆว่าจะไม่ตอบคำถามเมื่อครู่และอยู่ในสภาพนิ่งสงบจนดูน่าหมั่นไส้
ความจริงไม่ว่าร่างบางจะทำอะไร เซฮุนก็รู้สึกจะหมั่นไส้ไปซะหมดระหว่างดีกรีความเดือดก็ไม่เคยลดและน่ากลัวว่าจะเพิ่มด้วยซ้ำขืนลูฮานยังทำตัวแน่นิ่งไม่รีบอธิบายในสิ่งที่ทำลงไป มีหวังว่าแผลที่กายซึ่งได้รับจากการโดนรถเฉียวอาจจะขยายเป็นวงกว้าง
บางทีที่ท่อนแขนขาวอาจจะไม่ได้มีแค่ผ้าพันแผลพัน ก็เซฮุนเล่นจับแล้วขย้ำซะผิวบริเวณต้นแขนแดง ถึงแรกๆจะทำเพราะพลั้งมือแต่พอร่างบางไม่หือไม่อือและไม่มีท่าทีสนใจ ในเมื่อเป็นผู้ชายที่แรงเยอะกว่าเลยใช้พละกำลังเข้าข่มจนตัวลูฮานยิ่งจมไปกับเตียงก่อนจะส่งเสียงขอความเป็นธรรมแผ่วเบา  พี่เจ็บอยู่นะ
ผมก็เจ็บอยู่เหมือนกัน  พอร่างบางได้ยินอย่างนั้นก็หลุบนัยน์ตาลงต่ำแล้วช้อนกลับขึ้นมองใหม่อีกหน เผชิญหน้ากับคนที่เปิดเผยแววตาได้อย่างน่าสงสารและทำให้ลูฮานรู้สึกเจ็บปวดไปด้วยยามได้ยินประโยคตัดพ้อยืดยาว  พี่ทำเหมือนผมโง่ พี่ทำเหมือนผมไม่เข้าใจภาษามนุษย์ พี่ไม่ยอมอธิบายอะไรเลยเหมือนคิดว่าผมจะไม่มีทางเข้าใจ ในสายตาพี่ผมดูตลกมากมั้ย?”
เซฮุนเว้นวรรคให้ร่างบางได้ทบทวนความผิดของตัวเองตามอย่างช้าๆ  มันจะอะไรนักหนาแค่บอกเหตุผลผมมา บอกสักหน่อยว่าผมทำอะไรผิด พี่เป็นบ้าอะไร! ทำไมถึงทำกับผมแบบนี้!”
มันก็ไม่ต่างจากฉากในหนังสักเท่าไหร่ ฝ่ายคนเจ็บปวดกำลังเขย่าไหล่คนนอนบนเตียงพร้อมกับเสียงกร้าวที่ถามซ้ำๆว่าทำไม ตลอดเวลาที่ลงแรงชายหนุ่มหายใจฟึดฟัดก่อนจะผลักลูฮานอย่างแรงจนร่างนั้นกระแทกกับเตียงอย่างดัง และเซฮุนก็รีบหมุนตัวตั้งท่าจะกลับไป
ถ้าไม่ถูกรั้งไว้ด้วยอ้อมกอดของคนที่รีบร้อนลุกขึ้นมาจากเตียงซะก่อน ตอนนั้นคงไม่ลังเลใจที่จะกลับไป ซึ่งผิดกับตอนนี้ที่ไม่แม้แต่จะสามารถก้าวขาขณะก้มหน้าลงมองวงแขนซึ่งรัดรอบเอวซะแน่นและเห็นรอยเลือดซึมบนหลังมือเล็กที่ที่เคยเป็นตำแหน่งของเข็มน้ำเกลือ    
พี่ขอโทษ”  จนแล้วจนรอดลูฮานก็ทำได้แค่กอดและขอโทษซ้ำๆ แต่นั่นไม่ใช่ประโยคที่เซฮุนอยากฟัง หลังยืนคิดว่าจะสลัดร่างบางออกอย่างไร สุดท้ายเลือกทำอะไรไม่ลงสักอย่างแต่ปากก็ยังดีไปงั้น  หุบปาก ผมไม่อยากฟัง
พี่ขอโทษนะ  ถ้าเรื่องดื้อด้านอาจเป็นไปได้ว่าลูฮานมีเยอะกว่า ขณะที่กอดแนบแน่นจนแก้มแนบแผ่นหลังกว้างก็ยังพร่ำทำในสิ่งที่ชายหนุ่มอุตส่าห์ออกคำสั่งว่าอย่า
เซฮุนอุตส่าห์ด่าทอและสั่งให้ร่างบางหุบปากสักที ...แต่ไม่มีฟังกันเลยจนคนสั่งชักอารมณ์เสีย ขีดความอดทนมันลดได้ง่ายจะตายในสถานการณ์เช่นนี้ถ้ายิ่งมีชนวนคอยกระตุ้นปฏิกิริยา
ในช่วงเวลาที่ถูกบีบบังคับร่างกายมันก็มักจะเป็นไปตามสัญชาติญาณ ในเมื่อร่างบางไม่ยอมหุบปากก็ต้องทำอะไรสักอย่างให้เสียงน่ารำคาญหายไป แล้วมันจะมีวิธีการไหนดีไปกว่ารีบหมุนตัวหันกลับมาก่อนคว้าดวงหน้าเนียนใสและประกบปากลงไปใช้ริมฝีปากบดอวัยวะเดียวกัน
แล้วความกะทันหันก็ทำให้ลูฮานตระหนกตกใจจนรีบใช้มือไม้ผลักไหล่ชายหนุ่มออก เผลอปฏิบัติตัวอย่างต่อต้านและนั่นไม่ใช่เรื่องดีมีแต่จะยิ่งเพิ่มเชื้อไฟ แถมสุดท้ายสิ่งที่จะต้องมอดไหม้ก็คือริมฝีปากของตนที่กลายเป็นจุดระบายอารมณ์ คนฉุนเฉียวเกรี้ยวโกรธทั้งข่มทั้งครอบครอง 
แค่ลองได้เผยอปากเพราะอยากได้อากาศหายใจ แต่นอกจากจะไม่ได้ออกซิเจนกลับกลายเป็นโดนขโมยลิ้นใหญ่เข้ามากอบโกยทุกอย่างกลับไป ถ้าเอาลิ้นเล็กติดกลับไปด้วยบางทีเซฮุนคงทำ ชายหนุ่มคงไม่มาทำกับอีแค่ขูดรีดขูดเนื้อเพื่อแลกกับความโหยหา แค่ตุ่มรสราติมันจะไปทดแทนความคิดถึงกันได้ยังไง เป็นไปได้ตนอยากจะขย้ำแล้วจับร่างบางกลืนลงคอรวดเดียว
ไม่ใช่มายืนเกี่ยวกอดสร้างหนังรักระหว่างนางเอกที่กำลังลังเลอย่างหนักกับฝ่ายพระเอกที่เห็นได้ชัดว่ากำลังรีบเดินหน้าเข้าต้อน เพราะชายหนุ่มเชื่อว่าตัวเองจะโน้มนาวคนหัวอ่อนได้ในสักวินาที วัดกันไปเลยเพราะคนมันเคยๆแล้วจะกล้าปฏิเสธกันได้ลงคออย่างไร
ลูฮานปฏิเสธได้ไม่เกินครึ่งนาทีหรอก บอกตามตรงว่าก็เพราะแสนคิดถึงเหมือนกัน
แต่มันก็ยังลังเลในการตอบรับ ขยับริมฝีปากงับขอบปากล่างของเซฮุนอย่างเชื่องช้า ให้เวลาเดินเร็วนำหน้าไปก่อนในตอนที่เหมือนลืมเลือนวิธีการจูบชั่วขณะระหว่างลูบฝ่ามือหาตำแหน่งหัวใจแล้วขย้ำเสื้อบริเวณอกซ้ายเพราะชายเจ้าของเสื้อเร่งเร้าเอาปากงับราวกับไม่อยากรออีกต่อไป 
จนลูฮานรู้สึกอายและรีบหลับตา ขณะปล่อยให้ลิ้นใหญ่เข้ามามีอิทธิพล ลิ้นของคนสองคนชนกันอย่างจังและมีเสียงคลอดังผสาน ดุนดันงัดกันไปงัดกันมาก่อนจะต่างฝ่ายต่างเอียงโครงหน้ามุมทแยง จากจูบลึกซึ้งกึ่งเนิบนาบจะกลับเข้าสู่วงจรของความรุนแรงภายในครอบครัว
ถ้ามัวเผลอแล้วจะต้องเจอลงโทษลิ้นเล็กโดนดึงออกมากลางอากาศก่อนจะถูกงับ เซฮุนจงใจเอาคมฟันบาดจนลูฮานครางฮือมือทุบหน้าอกแข็งไปทีแล้วหนีและไม่ลืมล่อหลอกลิ้นใหญ่อีกคนให้วนกลับเข้ามาในโพรงปาก อยากมีปฏิสัมพันธ์ในที่ลับยามบีบขย้ำไหล่กว้างวางมือเพื่อยึดเหนี่ยว
เสี่ยวลูฮานใจง่ายแค่เพียงเพราะถูกชายหนุ่มที่ยังรักหมดใจจูบดูดดื่มและหลงลืมเหตุผลว่าอะไรเคยทำให้ตนพยายามวิ่งหนี  ไม่มีร่างบางที่พยายามผลักไสและกลายเป็นคนเข้าหาด้วยซ้ำ
จำได้ว่าเป็นคนนั่งลงบนตักแกร่งเองอย่างเต็มใจ โซฟาเยี่ยมไข้ยังเหลือที่ว่างตั้งมากมายเพราะคนสองคนนั่งในท่ากายซ้อนกาย คนด้านบนที่ค่อยๆเคลื่อนไหวอยู่ในสภาพกางเกงหาย ส่วนชายที่อาสาเป็นเบาะหนังอย่างดียังมีเสื้อผ้าครบ จะพบก็แต่ซิบกางเกงยีนส์ที่รูดลงและคงไม่ต้องอธิบายว่ามีอะไรโผล่ออกมาในขณะที่หว่างขาของร่างบางจะเป็นตัวคอยช่วยบดบัง
เดี๋ยวนั่งเดี๋ยวลุก ก้นงอนสีขาวสว่างผุดยกขึ้นยกลงหลังบรรจงครอบครองแก่นกายที่ขยายจากข้างนอกได้ไม่เท่าไหร่แต่เมื่อได้อาศัยอยู่ในโพรงกระต่ายที่อุณหภูมิอบอุ่นจนร้อน จากท่อนเอ็นจึงกลายเป็นพญามังกร แล้วยิ่งตอนถูกสวมทับซ้ำๆอีกคนขยับด้วยจังหวะตามใจชอบ มังกรก็แทบจะพ่นไฟ ปากมังกรเกือบปล่อยน้ำลายไหลในช่วงที่เจ้าของก้นกลมขย่มหน้าตักหนักๆเน้นๆ
เห็นเหมือนถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว แต่เปล่าเลยมือเซฮุนเองก็ไม่เคยอยู่สุข ย้ายไปนู่นเลื่อนมานี่ มีสัมผัสลูบไล้ไม่ขาด ขนาดบีบแก้มก้นนิ่มจนลิ่มเนื้อปลิ้นตามง่ามนิ้วยาว ความขาวขึ้นริ้วรอยแดงชัดเจนก่อนไล่ฝ่ามือขึ้นมาเค้นเอวคอด ช่วยนวดตอนอีกคนเริ่มแผ่วแรงลงเหนื่อยเป็นแน่
และแค่นัยน์ตากวางก้มลงมองอย่างเว้าวอนอ้อนตาใส ไม้ถูกเปลี่ยนพลัดคนนั่งด้านล่างได้รับมอบหมายให้กลายเป็นผู้นำทันทีและมีหรือจะทำให้เสียชื่อ มือไวใช่ว่าอย่างอื่นจะช้า ลูฮานลงไปนอนแผ่หลาบนโซฟาขนาดความยาวเท่าส่วนสูงก่อนถูกเงาดำประกบโน้มลงมาไม่พอ
ยังขออิงแอบแนบชิด คนที่คิดท่วงท่าให้อาศัยว่ากล้ามเนื้อตรงหว่างขาขาวยังคลายเลยยัดเหยียดความใหญ่เข้าไปในคราวเดียว แล้วกระแทกความเหนียวเหนอะที่ซุกซ่อนอยู่ภายในด้านในซ้ำๆ ตอกย้ำความแข็งแรงของเอวสอบของตัวเองด้วยการขยันมั่นเขยื้อนเคลื่อนน้องชายเข้าออก
เซฮุนลอบก้มมองอวัยวะที่เชื่อมจนเรียกได้ว่าแทบกลายเป็นส่วนเดียวกันสลับกับมองสีหน้าของร่างบางที่บิดเบี้ยว ลูฮานจับชายเสื้อคนไข้ของตัวเองเป็นที่ยึดเหนียวบิดเป็นเกลียวจนผ้ายับ ก่อนการทำแบบนั้นจะยิ่งเป็นดาบสองคม พอเห็นหน้าท้องแบนราบชายหนุ่มด้านบนก็เข้าระดมจูบ
แถมลูบด้านลิ้นชื้นยื่นส่วนปลายแตะไล่ชายโครงเหมือนคนตั้งใจจะนับ ฟันคมงับเข้าที่สีข้างและทำให้ลูฮานที่กำลังนอนหอบหายใจพะงาบๆหลุดครางในสถานที่ที่ไม่สมควร ต้องรีบหาวิธีแก้ปัญหาโดยด่วนจวนจะใกล้เสร็จสมอารมณ์หมาย เพราะกลัวเสียงดังจะเล็ดลอดออกไป
เซฮุนกับลูฮานประกบจูบกันอย่างหยาบโลนในวินาทีที่เกือบใกล้จะถึงฝั่งฝันและตอนนั้นเองที่ร่างบางเพิ่งเข้าใจว่าตัวเองกำลังถูกลงโทษ ท่ามกลางการบดเบียดริมฝีปากอย่างหื่นกระหาย ชายหนุ่มบนร่างหยุดขยับกายราวกับจงใจแกล้ง หยุดลงแรงลดการกระแทกกระทันทั้งที่อิกนิดก็จะปีนถึงสวรรค์ ใบหน้าที่ลอยไปลอยมาอย่างเจ้าเล่ห์ทำเอาลูฮานยิ่งรู้สึกพุ่งพล่าน
ร่างบางฟุ้งซ่านกับความอึดอัด คั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนจะไม่สบายและเมื่อชายหนุ่มโงหัวขึ้นหน่อย ดวงตากลมก็คอยแต่จะขอร้องระหว่างร้องบอกเบาๆเอาแค่ได้ยินกันสองคน ลูฮานลงทุนยั่วยวนทางสีหน้าจนน่าหมั่นเขี้ยวแต่คนมีแผนอย่างเซฮุนก็ไม่เคยคิดสนใจ 
ผมอยากรู้เหตุผล…”  แม้แก่นกายของตัวเองก็ใกล้จะระเบิดแตกเป็นเสี่ยง แต่เพียงเพราะแค่อยากทราบเหตุผล อย่าคิดตนลืมง่ายหายเคืองไปแล้วเลยย่ามใจ เสี่ยวลูฮานคงลืมไปว่ามีแฟนเป็นคนที่ใจดีก็ดีใจหายแต่ถ้าร้ายก็เล่นเอาตายเหมือนกัน  ถ้าไม่ตอบ งั้นก็ทำเอง
ซะ เซฮุน
นี่คงย่ามใจคิดว่าผมรักมากล่ะสิท่า  เซฮุนว่าเสียงนิ่งแล้วชิงหอมแก้มแดงอย่างแรงก่อนแกล้งด้วยการกัดที่ปลายจมูกเชิด เกิดหมั่นไส้ร่างบางที่ทำหน้าคล้ายคนจะร้องไห้  ใช่ ผมรักพี่มาก
แต่รักกับโกรธมันคนละส่วนกัน  เสียงดังฟังชัดเน้นอย่างจริงจัง  และถ้ายังดึงดันจะไม่บอกผมล่ะก็ นอนรอแบบนี้ให้พยาบาลเข้ามาเจอได้เลย
เซฮุน พี่
เหตุผลคืออะไรครับคนดี
เอาไว้พี่บอกทีหลังได้มั้ย
คงอยากให้พยาบาลเข้ามาเจอจริงๆสินะ ให้ผมไปกดปุ่มเรียกเขามาดีรึเปล่า
อย่านะ!”  ลูฮานหน้าตาตื่นระหว่างยื่นมือรั้งแขนคนที่ทำท่าจะลุกออกไป ลอบใจหายเมื่อแก่นกายอุ่นๆจะหลุดออกไปและรู้สึกอึดอัดใหม่เมื่อความใหญ่สอดใส่กลับเข้ามาจนชิดมิดลำ 
พ่อแม่นาย…”  ก่อนร่างบางจะละล่ำละลักเปิดต้นประโยคด้วยบุคคลที่สาม แล้วแค่คำสามคำก็ทำให้เซฮุนเข้าใจความหมายต่อจากนั้นอย่างถ่องแท้และแค่สบตาก็รู้แล้วว่าอีกคนพูดจริง
ลูฮานพยักหน้าช้าๆเหมือนจะยืนยันว่าตนไม่ได้โกหกแต่อย่างใด ในเมื่อต้องการเหตุผลจริงๆก็จะบอกให้ฟัง  พวกท่าน…”
ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว
แต่นายอยากรู้เหตุผลหนิ
ผมบอกให้เงียบ  ลูฮานเม้มปากฉับปรับอารมณ์ตามอีกคนที่ดูคล้ายจะหัวเสียนิดๆแทบไม่ทัน ก่อนจะกลับมาตัวสั่นคลอนตอนนอนเหมือนโดนเขย่าขณะครวญครางด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยคลุกเคล้า เริ่มจากเสียงเบาเสียงค่อยลอดตามรอยต่อของปากที่เผยอค้างเมื่อเจออีกคนเอาแต่ใจ 
เรื่องพ่อแม่ผมจะจัดการเอง  ร่างบางพยักหน้ารับราวกับเป็นเด็กดีหลังจากที่ชายหนุ่มลั่นวาจาหนักแน่น ส่วนเซฮุนเมื่อพูดเสร็จก็เงียบไป แค่คว้าเอวคอดไว้เป็นหลักยึดในจังหวะเคลื่อนสะโพกเข้าออก ช่างหนักหน่วงจนคนนอนด้านล่างบอกให้เบาๆ
เบามากจนผมเผ้ากระจัดกระจาย เสียงหวานขออะไรไปก็ได้อีกอย่างกลับมา
ขณะลองขอให้จัดการตนไม่ยั้ง ชายหนุ่มก็ดันฟังขึ้นมาซะอย่างนั้น เดือดร้อนให้เหนื่อยหอบลอบหายใจไม่คล่อง ลูฮานคล้องแขนกอดต้นคอแข็งแล้วจูบริมฝีปากแนบกับเสื้อบนบ่ากว้าง ระหว่างนั้นก็ได้ยินทั้งเสียงครางของตัวเองทั้งเสียงคำรามของเซฮุนที่วนเวียนแถวกกหูอย่างชัดเจน
ผมเคยตกนรกเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์”  ความใกล้ชิดทำให้เสียงกระซิบดูดังขึ้นมาถนัดตาและยิ่งดูน่ากลัวเพราะน้ำเสียงที่ใช้พูดนั้นถึงแม้จะหอบฮักแต่ก็ยังเป็นจริงเป็นจัง ทำเอาลูฮานสะท้าน หน้าอกกระเพื่อมหนักและหัวใจเต้นดัง  งั้นสองอาทิตย์นับจากนี้พี่ก็ต้องตกนรกเหมือนผมบ้าง  พูดไปเซฮุนก็ใช้จมูกซุกไซร้ต้นคอขาวเอาปากดูดผิวลื่นจนเป็นรอยไหม้กระจายเป็นจ้ำแดงๆ  
อย่าหวังว่าจะได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน
ที่ทำยังไม่พออีกเหรอ ซะเซฮุน








 ***ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
ฟังเพลงแล้วจะยิ่งอินมาบอกแค่นี้แหละ5555555 อ่อ เม้นในนี้มันลำบาก ขอเป็นแท็กสักสองสามอันแล้วกันนะจ๊ะ ตุ๊กติ๊กจะได้มีกำใจแต่งต่อไป
hashtag #fcuncenfic