วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

[OS/CHANBAEK 18+] Big Dogs Smell Men




     Big Dogs Smell Men




                “มัวโอ้เอ้อยู่ได้ เดินให้มันเร็ว ๆ หน่อยสิวะ!”

                เสียงห้าวตะโกนแข่งกับเสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังมาจากในกรงขัง ระหว่างปล่อยให้พวกเดนคนที่ต้องโทษคดีอาญาทั้งหลายเดินเรียงแถวขึ้นบันไดเจ้าหน้าที่ก็คอยใช้กระบองฟาดกับเสาหลายต่อหลายครั้ง รำคาญพวกปากมากที่ยังแซวนักโทษน้องใหม่อย่างออกรส ในบรรดาคนทั้งสิบที่มาใหม่ คนที่แปดจากในแถวตกเป็นเป้าหมายของกลัดมันทันที

เพราะนานปีดีดักถึงจะมีผู้ชายน่ารักผ่านมาสักคน กับพวกที่วัน ๆ ไม่พ้นคิดถึงแต่เรื่องอย่างว่ามากกว่าอิสรภาพ ไม่แปลกที่ทั้งหมดจะพยายามเรียกร้องความสนใจจากร่างอ้อนแอ้น ต่างก็ยื่นแขนออกมาจากลูกกรงขณะส่งเสียงกวนใจ ดูไปก็เหมือนพวกซอมบี้ที่เห็นเนื้อสดเป็นไม่ได้ ไม่ใช่แค่ทางวาจายังแทะโลมผ่านภาษากาย ทำท่าเด้าลมอย่างหื่นกระหายบ้าง บางคนก็ถึงขนาดถอดกางเกงโชว์ของลับ ก่นดาข้ามหัวกันไปมา ผลัดกันเกทับว่าของใครใหญ่กว่าท่ามกลางสายตาเอือมระอาของผู้คุมที่ยืนรอจนนักโทษใหม่เข้าประจำห้องเรียบร้อยแล้วลูกกรงก็ทยอยปิดเองอัตโนมัติ

นักโทษรหัส E.6145 โยนสัมภาระที่ถือมาลงบนเตียงท่ามกลางเสียงผิวปากไม่หยุดหย่อน ก่อนทั้งเรือนจำจะเงียบสงัดเมื่อคนถูกแซวหันกลับมาปรายตามองผ่านซี่กรง ตรึงสายตาทุกคู่ที่พุ่งตรงมาได้อยู่หมัด หลายคนเผลอกลั้นหายใจลุ้นอยู่ในอกว่าคงต้องโดนด่า แต่จู่ ๆ ร่างบางก็ถลกกางเกงลงเพื่อโชว์บั้นท้าย หันให้ดูก่อนจะชูนิ้วกลางใส่ สร้างเสียงเฮลั่นจากนักโทษชายโดยมิได้นัดหมาย บางรายแกล้งล้มลงไปเหมือนจะตาย ทำให้แต่ละคนคลุ้มคลั่งอย่างที่พร้อมจะแหกลูกกรง

แล้วฉายา นางพญาแห่งทัณฑสถาน ก็ตกเป็นของ พยอนแบคฮยอน ไปโดยปริยาย

นับตั้งแต่การย่างกรายเข้ามาของร่างบาง อัตราการทำร้ายร่างกายในเรือนจำก็เพิ่มขึ้นสูง

ท่ามกลางเสียงเชียร์อย่างสนุกสุดเหวี่ยง ตัวต้นเหตุทำเพียงยืนกอดอกมองผู้ชายสองคนชกต่อยกันเพื่อแย่งตัวเอง ทั้งที่ก็ไม่ได้รับปากว่าคนเก่งกว่าจะได้ตนไปเชยชม แต่พวกบ้าคลั่งก็สมยอมและพร้อมใจจะเลือดตกยางออก ประลองเพื่อหาราชาเคียงข้างนางพญาผู้สูงศักดิ์ แต่การกัดกันอย่างกับหมาก็ต้องมีอันจบลงโดยที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะเหมือนทุกรอบไป แม้ไม่อยากทำเพราะกำลังดูเพลิน ๆ แต่ผู้คุมก็ต้องเดินเข้ามาระงับเหตุหลังจากที่ปล่อยให้พวกเวรตะไลสร้างความวุ่นวาย

โทษสำหรับพวกก่อเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก ถ้าไม่ถูกจับขังเดี่ยวก็ต้องไปดมกลิ่นเยี่ยวด้วยการขัดห้องน้ำ

ส่วนสำหรับแบคฮยอนก็ลอยตัวเหนือปัญหา เดินออกจากวงล้อมหน้าตาเฉย ไม่เคยมีส่วนรับผิดชอบใด ๆ แต่เวลาอาบน้ำรวมก็เหมือนเป็นช่วงคืนกำไรให้แก่ทุกคน แน่นอนว่าก็เป็นนักโทษคนหนึ่งที่ไม่มีสิทธิพิเศษเหนือใคร ก็แก้ผ้าอาบน้ำรวมกับนักโทษชายคนอื่นตามปกติ แต่ที่แตกต่างเห็นจะเป็นบรรยากาศ จำนวนคนแน่นขนัดแล้วต้องนับรวมจำนวนผู้คุมที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะเข้ามาคุมในโรงอาบน้ำ แต่ร่างบางก็พึงพอใจกับการตกเป็นเป้าสายตาของพวกถ้ำมอง ไม่ถือสาถ้าใครจะควักน้องชายออกมาสำเร็จความใคร่ขณะใช้ตนเป็นเครื่องมือทางจินตนาการ ขอแค่ไม่มาสัมผัสโดนตัวก็พอ   

แต่ก็มีนะ คนที่ไม่คิดเข้าตามตรอกออกทางประตู แต่กลับใช้ทางลัด คิดจะรวบหัวรวบหางด้วยการขืนใจ

หารู้ไม่ว่าต้องแลกกับการเป็นไอ้ด้วนตลอดกาล  อ๊ากกกกกกกก  เสียงโอดครวญดังลั่นมุมอับเมื่อบ่ายนี้ จนเรื่องดังถึงหู พัศดี ผู้มีอำนาจเหนือผู้คุมทั้งหมด แบคฮยอนโดนใส่กุญแจมือมาตลอดทางโดยที่ในปากยังอมอะไรสักอย่างไว้ ตามขอบปากเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉาน ไม่ยอมคายบางอย่างทิ้งเพราะอยากทำให้มั่นใจว่ามันจะเอากลับไปต่อไม่ได้อีก

พยายามประวิงเวลา จนเมื่อเดินเข้ามาในห้องห้องหนึ่งถึงยอมบ้วนบางอย่างออกจากปาก มันรูปร่างไม่คล้ายหู ที่แท้เป็นส่วนปลายของกระจู๋ของคนที่พยายามจะข่มขืนตน พอหลอกล่อให้โอนอ่อนหน่อยได้ก็ไม่ลังเลที่จะกัดจนอวัยวะเพศขาดคาปาก คิดว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ถ้าไม่อยากจะเป็นไอ้ด้วนก็ควรถือคติดูแต่ตา มืออย่าต้อง เดี๋ยวของจะเสียหาย  

ระหว่างถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังก็ใช้มือทั้งสองข้างที่ยังถูกพันธนาการควานหาทิชชู่มาเช็ดปากอย่างแรง เพิ่งนึกได้ว่าต้องขยะแขยง แบคฮยอนใช้บานประตูของตู้เก็บเอกสารเป็นกระจกขณะยืนเช็ดคราบสกปรกตรงปลายคาง จนกระทั่งเห็นภาพเลือนรางรูปร่างมันเหมือนคนก็ชะงัก ค่อยปรากฏเงาสะท้อนมีคนยืนซ้อนด้านหลังและเสียงรองเท้าคอมแบทก็กำลังใกล้เข้ามา ก่อนนัยน์ตาใสจะสั่นระริกราวเจอสิ่งถูกใจ อาการแพ้ คนในเครื่องแบบ กำลังกำเริบถูกที่ถูกเวลา   

นายเองเหรอที่คนกำลังพูดถึงกัน…”

ดูเหมือนชื่อของร่างบางจะเป็นที่โจษจัน พัศดีอย่างปาร์คชานยอล ก็ได้ยินชื่อเสียงกระฉ่อนของอีกคนมามากเช่นกัน ส่วนแบคฮยอนก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นคนที่ถูกกล่าวขาน แค่หันกลับมากวาดสายตามองตั้งแต่โครงหน้าจรดเท้า ยิ่งตาลุกวาวเป็นพิเศษตอนเห็นอีกคนเลือกเหยียบและบดชิ้นเนื้อบนพื้นจนป่นปี้ ตอกย้ำภาพลักษณ์พวกพัศดีมือหนักตีนหนัก

ถ้าประเมินจากความสูงใหญ่ อวัยวะส่วนอื่นก็คงยืดยาวพอกัน  

แล้วคนพวกนั้นพูดถึงฉันว่าอะไรเหรอ  ถามกลับเพราะอยากสานบทสนทนาต่อ แต่พอถูกเมินก็ทำแค่ยักไหล่ ท่าทางเย็นชาไม่ทำให้ถอดใจง่าย ๆ เป็นฝ่ายเดินตามมาที่โต๊ะทำงาน แต่แทนที่จะหย่อนบั้นท้ายลงบนเก้าอี้กลับหย่อนลงที่ตักหนา จงใจให้ท่า มัวแต่อ้อมค้อมไปมาเสียเวลาเปล่า ที่เรียกมาเป็นการส่วนตัวก็คงอยากจะพิสูจน์เสียงลือเสียงเล่าอ้าง

แต่ฝันหวานก็ต้องล่มกลางคันเมื่อถูกผลักดันร่างออก จนแบคฮยอนแอบกลอกตาตามประสาคนเริ่มหงุดหงิด

ฉันแค่อยากเตือน ว่าถ้านายยังสร้างความเดือนร้อน นายจะถูกขังเดี่ยวตลอดชีวิต

กลัวจัง แต่มีโทษแรงกว่าขังเดี่ยวไหมนะ

หรืออยากโดนเรียงคิวจนตายล่ะ  คนพูดแสยะยิ้มหยัน ช่างเป็นอารมณ์ขันที่ตลกร้าย แน่นอนว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้ ข้างนอกกฎหมายอาจจะใหญ่คับฟ้า แต่ในทัณฑสถานกฎหมายมีค่าน้อยกว่าวาจาสิทธิ์ของตนเสมอ 

แล้วคุณพัศดีจะมาต่อแถวด้วยไหม จะเป็นคนสุดท้ายหรือเป็นคนเปิด…”  ร่างบางเปลี่ยนมาเดินป้วนเปี้ยนรอบเก้าอี้ไม้หลังแผนแรกใช้ไม่ได้ผลและอาศัยความรวดเร็วในการคล่องแขนกับศีรษะอีกคน ลดมือลงแล้วรั้งโซ่กุญแจมือกับลูกกระเดือกใหญ่ ชานยอลไม่ได้ตื่นตกใจแม้โอกาสเป็นตายเท่ากัน นักโทษสามารถรัดคอพัศดีได้สบาย ๆ แล้วหนีไปอย่างลอยนวล แต่ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพียงการหยอกเอินธรรมดาและด้วยความตาไวแบคฮยอนถึงได้เห็นอาการขนลุกชันของพัศดี ดูเหมือนการประชิดตัวแบบใหม่จะทำให้คนที่แสนเคร่งขรึมเกิดความรู้สึกร่วมขึ้นมา  เป็นแบบนี้เองสินะ  มองออกทะลุปรุโปร่ง แต่ไม่ทำตัวกระโตกกระตาก  “…แนะนำให้เป็นคนเปิดนะ เพราะมันคงจะยังคับอยู่  ปิดท้ายด้วยการแกล้งงับใบหูผะแผ่วแล้วคลายโซ่ที่รัด กระซิบขอโทษที่เสียมารยาทมากไปและเป็นฝ่ายล่าถอย ปล่อยอีกคนเป็นอิสระง่ายดาย 

หลังแนะนำว่าทำไมควรเป็นคนแรก แบคฮยอนก็ยังขายของต่อ ก็อีกคนไม่ห้ามทำแค่มองตามด้วยสายตายากจะคาดเดา เลยเข้าข้างตัวเองว่าเริ่มสนใจโปรโมชั่น รีบงัดท่าไม้ตายเรียกลูกค้า ก้มตัวคุกเข่าเพื่อสาธิต ยื่นลิ้นเลียกระบองไม้ที่เหน็บไว้ข้างเอวสอบอย่างเชื่องช้าขณะนั้นก็เงยมองตาหวานเชื่อม จนท่อนไม้ละเลื่อมไปด้วยน้ำลายก็ได้รับการเปิดใจ

บทจะคลิกก็คลิกกันง่าย ๆ หรือแท้จริงแล้วทั้งคู่อาจมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวกันและกัน

ชานยอลเบื่อกับการครอบครองอำนาจ ลึก ๆ เขาจึงขวนขวายการตกเป็นเบี่ยงล่าง

รสนิยามทางเพศยากจะอธิบายให้เข้าใจ แต่ก็เคยมีคนให้นิยามไว้ว่า เป็นพวกมีความสุขจากการถูกกระทำ  

อย่างกับฉากวิตถารในหนังผู้ใหญ่ เจ้าของร่างกายกำยำถูกจับลอกคราบและมัดแขนขาติดกับเก้าอี้ด้วยเชือกที่หาได้จากในห้อง เพื่อป้องกันเสียงเล็ดลอดออกไปจึงใช้ชั้นในชายใส่แล้วอุดปากและสร้างความตื่นเต้นด้วยการเอาผ้าปิดตา เพราะฉะนั้นพัศดีก็จะไม่รู้เลยว่ากำลังเผชิญกับอะไร สัมผัสทางกายภาพได้แค่ว่าแก่นกายถูกเล้าโลม อมแล้วก็ดูด ได้ยินเสียงซูดปากเหมือนอีกคนกำลังซดน้ำ มือเรียวกำรอบท่อนเนื้อไซส์โตเต็มวัยไว้หลวม ๆ ดูดส่วนปลายดังบวบแล้วคายสลับกับใช้ลิ้นรูดอย่างไว ๆ ระหว่างลุกยืนก็ยังใช้มือสาวตามความยาวก่อนจะก้าวขาคร่อม เขมือบกล้วยหอมจอมซนจนมิดด้าม มันคลำหว่างขาจนต้องอ้ากว้างแล้วเริ่มขยับอย่างอ้อยอิ่ง ทิ้งช่วงอย่างเนิบนาบแล้วปรับเปลี่ยนองศา พอได้ยกขาทั้งสองข้างขึ้นจากพื้นจนเหมือนนั่งยอง ๆ เหนือหน้าตัก ก็เหมือนกับได้นั่งบนบันนาน่าโบ๊ท กระแทกโดนโขดหินอย่างจังขณะแผ่นหลังบางตั้งตรงตลอดเวลา สะเทินน้ำด้วยความหวาดเสียว เดี๋ยววนซ้ายเดี๋ยววนขวา ขย่มจนน่ากลัวว่าจะหักกลาง  

ขณะแบคฮยอนกำลังสนุกสุดเหวี่ยง ชานยอลต้องคำรามเสียงหลงเพราะท่าควงสว่าน ดีว่าได้ชั้นในช่วยกรองความดังอีกที มือที่ถูกมัดไพล่หลังกำเข้าหากันอย่างอดทนเมื่อโดนตบจนหน้าหัน แรงขนาดชั้นในกระเด็นหลุดจากปาก ซ้ำยังถูกกระชากผมด้านหลังให้เงยหน้า แล้วสองลิ้นก็บรรจบกันกลางอากาศ ตวัดโดนผ่าน ๆ พอเป็นกระษัย ยังไม่ทันได้ประกบปากก็โดนบังคับให้ก้มหน้าระยะพอดีกับช่วงตัว หัวนมยื่นเข้าปากจากหน้าอกที่กำลังแอ่นพร้อมแขนที่โอบรอบศีรษะ

ระหว่างที่อีกคนละเลงลิ้นกับยอดอก อีกคนก็กระดกก้นคล่องแคล่ว จนแนวอารมณ์ไต่ระดับขึ้นสูงทั้งคู่

แล้วลาวาก็ประทุออกจากปล่องภูเขาไฟ อัดฉีดอยู่ภายในร่างที่ยังหวาดผวา แต่เพราะกลัวมากกว่าว่าจะขาดช่วงขาดตอน แบคฮยอนที่ยังเปี่ยมล้นไปด้วยความต้องการจะรีบเปลี่ยนท่าหันหน้าออก ทาบสองมือกับต้นขาหนาระหว่างยกบั้นท้ายขึ้นลงอีกครั้ง ขณะตักตวงความสุขจากแก่นกายใหญ่ด้วยความเมามันก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยว่าชานยอลแก้ปมเชือกได้และแอบคลายมันออกทีละนิด ไม่มีอะไรผิดสังเกตนอกจากแรงกระแทกสวนเป็นระลอก ๆ มือหนึ่งค่อยแกะผ้าปิดตาออกจนเผยแววตาของผู้ล่า พัศดีที่เคยเป็นพวกมีความสุขจากการถูกกระทำ ถูกความอัดอั้นผลักดัน จนบางครั้งก็กลายเป็น พวกมีความสุขจากการทารุณกรรมคนอื่น เรียกว่าชอบเอาคืนก็ได้เหมือนกัน

นับเป็นโชคสองชั้นหรืออาจเป็นวิบากกรรมครั้งใหญ่ ลองได้หมายตาต้องใจ ต่อให้พ้นโทษจากคดีไปมีชีวิตนอกคุกก็จะตามไปหาทุกที่และจะเอาทุกครั้งที่มีโอกาส ค่อยรัดเอวคอดด้วยวงแขนจนคิดว่าแน่นหนา เมื่อได้จังหวะก็ล็อกตัวคนบนตักไว้แล้วเคลื่อนไหวช่วงล่างอย่างหนักหน่วง ทำเอาคนอยู่ในห้วงเคลิบเคลิ้มหลุดออกจากภวังค์และครางเสียงแตก ตกใจกับการแทรกแซงอันป่าเถื่อน ร่างสะเทือนไปก็กลั้นลมหายใจไป ก้นลอยในอากาศต้านแรงกระทุ้งถี่ ๆ จนหนีไม่พ้นการปลดปล่อย อีกคนก็พลอยกระตุกตามอัดฉีดน้ำเชื้อข้นคลั่กให้ชุ่ม ก่อนนักโทษจะฟุบลงไปนอนสะท้านกับพื้น

ชานยอลยืนขึ้นเต็มความสูงหลังแก้เชือกที่ผูกได้หมด ก่อนใช้คอมแบทเขี่ยคนนอนคว่ำให้กลับมานอนแผ่ แบคฮยอนยังสวมกุญแจมืออยู่ตลอดและเปลือยแค่ท่อนล่างเท่านั้น ต่างจากพัศดีที่พอเป็นอิสระก็ทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ แล้วคว้ากระบองไม้ที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาควงเล่น มันมีเหตุผลอยู่แล้วที่ทำอย่างนั้น  “…ถ้าลองให้ฉันเปิดก็อย่าหวังว่าใครจะได้ปิด   

นอกจากฉัน ก็มีเจ้านี่ที่มีสิทธิ์ในตัวนาย  เผยรอยยิ้มร้ายกาจ เสมือนปีศาจมาจุติ ส่วน เจ้านี่ที่ว่าหมายถึงไม้กระบองที่ถือ สื่อได้ชัดเจนว่านอกจากเอาไว้ฟาดหัวพวกเดนคน มันมีประโยชน์อื่นแอบซ่อนไว้ ใช้แทนแก่นกายได้สบาย ๆ ขนาดก็ใหญ่จุใจ เติมเต็มพวกร่านได้ตามต้องการ  นายชอบมัน ฉันรู้  เข้าใจว่าขู่ไปอย่างนั้นเพราะสุดท้ายก็ลดมันลง

แล้วเปลี่ยนมาบรรจงสอดใส่ แบคฮยอนปรือตามองจนมั่นใจว่านั่นคือแก่นกาย ชานยอลแหย่ส่วนปลายเข้าในกายหลอกให้ตายใจอย่างช้า ๆ ก่อนจะเกิดการสลับชั่วพริบตา แทนที่จะเป็นท่อนเอ็นกลับเป็นกระบองไม้ มันสวนเข้าไปในช่องทางลับแล้วคนบังคับการเคลื่อนไหวก็มองตามการเสือกเข้าออกของอาวุธด้วยสายตาเหี้ยมโหดท่ามกลางการนอนทุรนทุราย ใจรับไม่ได้แต่กายเด้งรับรัว ๆ ได้ผัวเป็นไม้กระบองจนกรีดร้องเสียงหลง นึกว่าเป็นโรงฆ่าสัตว์ เสียงโหยหวนด้วยความทรมานดังลั่นออกมาจากห้องเชือดลามถึงเรือนจำ ซ้ำยังให้ครางใส่ไมค์ ประกาศทางเสียงตามสายในเวลาเดียวกันว่านางพญาแห่งทัณฑสถาน ตกเป็นของพัศดีแต่เพียงผู้เดียว















ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
ตอนแต่งไม่รู้ตัวเลยว่าแต่งอะไร 555555555555555 55 จนจบแล้วก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลย
เอาเป็นว่าอ่านขำๆ มีความรู้สึกยังไง ระบายได้ที่ hashtag #fcuncenfic  เหมือนเดิมจ้ะ
หวังว่าจะพอทำให้คืนนี้เป็นคืนที่ดีของทุกคนน้า 

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

[OS/CHANBAEK 18+] Role Play




    Role Play 


น้ำเปล่าจากขวดถูกเทพรวดเดียวลงหม้อต้มขนาดกลางแล้วตามด้วยการตั้งไฟ

ระหว่างรอให้น้ำเดือดเจ้าของร่างเพรียวบางก็เคลื่อนตัวไปหั่นผักบริเวณเคาน์เตอร์ด้านข้าง เขาในร่างเธอคอยระมัดระวังคมมีดอยู่ตลอดก่อนเส้นผมที่คลอเคลียข้างพวงแก้มจะทำให้รู้สึกรำคาญ จึงวางมือจากงานครัวชั่วคราวแล้วรวบผมยาวสลวยไว้ด้านหลัง มัดผมที่ผ่านการทักทออย่างดีเป็นหางม้าและกลับมาเตรียมส่วนผสมต่อ  

                เพราะสวมกระโปรงคงไม่แปลกถ้าแทนสรรพนามว่าเป็นหญิงสาว เธอจดจ่อกับการทำกับข้าวใส่ใจเข้าไป โดยไม่นึกว่าคนที่จะได้ชิมฝีมือจะกลับมาเร็วกว่าทุกวัน เสียงกุกกักจากด้านนอกทำให้หลุดปากถามออกไปตามความเคยชิน ด้วยน้ำเสียงติดหวานผ่านการดัด  กลับมาแล้วเหรอคะที่รัก  จินตนาการว่าอีกคนคงกำลังถอดรองเท้าแล้วเดินเอากระเป๋าเอกสารไปเก็บไว้ในห้องทำงานถึงไม่ได้ยินที่เธอถามและไม่ตอบกลับ  ฉันกำลังทำของโปรดของคุณอยู่ แต่ถ้าหิวมีเค้กลูกอยู่ในตู้เย็นนะคะ คุณกินรองท้องก่อนได้  เธอก้มหน้าก้มตาหั่นแครอทตลอดการพูดเจื้อยแจ้ว แล้วเสียงเปิดปิดตู้เย็นใกล้ ๆ ก็ทำให้หายกดดัน อย่างน้อยสามีเธอก็ได้ของหวานกินรอระหว่างเธอทำมื้อเย็น

                คนเป็นภรรยายิ้มรับเมื่อรู้สึกได้ถึงมัดกล้ามที่กำลังรัดเอวคอดของตน แอบหดคอตอนโดนจูบท้ายทอย เธอปล่อยให้คนที่คิดว่าเป็นสามีกอดหอมตามสบาย จนการสัมผัสเรือนร่างอย่างจงใจเริ่มทำลายสมาธิในการทำครัว เธอเอี่ยวตัวหลบการเล้าโลมที่เอาแต่ใจกว่าทุกวันแต่ไม่ได้ปัดป้อง ความจริงก็ออกอาการเคอะเขิน แม้จะให้กำเนิดลูกน้อยไปแล้วถึงสองคนก็ยังอดเหนียมอายกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ไม่ได้ ใบหน้าใสร้อนผ่าวเมื่อมือใหญ่ล้วงเข้าในเสื้อเพื่อขยำเนินนมเล็ก ๆ

เธอเลิกทำอาหารไปเองโดยอัตโนมัติแล้วเลือกดื่มด่ำกับความรู้สึกวาบหวาม หลับตาฝันและขานรับการเฟ้นฟอด จนเมื่อมือใหญ่อีกข้างสอดเข้าในกระโปรงเพื่อถลกกางเกงชั้นในลายลูกไม้ลงในคราวเดียว แสดงออกถึงอารมณ์ฉุนเฉียว เธอจึงเหลียวมองกลับหลัง ก่อนนัยน์ตาจะเบิกกว้างเมื่อใบหน้าที่ควรจะเป็นของสามีที่รักดันกลายเป็นของคนรู้จักมักจี่

หญิงสาวกรีดร้องยามเพื่อนสามีเหวี่ยงเธอชนกับตู้เย็นหลังใหญ่แล้วบังคับให้ยืนหันหลัง ก่อนจะรั้งกระโปรงเธอขึ้นถึงอกท่ามกลางความชุลมุน ระหว่างฝืนแรงขืนก็รูดซิปกางเกงตัวเองลงแล้วควักเจ้าโลกออกมาภายนอก ขณะถูอวัยวะเพศกับร่องก้นตรงหน้าไปมาก็กดศีรษะหญิงสาวแนบกับเครื่องทำความเย็นไว้แน่น กว่าจะรู้ตัว ส่วนหัวของแก่นกายก็ผลุบหายเข้าไปตรงหว่างขาขาว ตามด้วยการกระแทกเพื่อหวังจะเข้าไปให้ลึกสุด หยุดอาการต่อต้านได้ชะงักงันและเรียกเสียงยานคราง ไม่ทันให้ได้ตั้งหลัก เธออ้าปากค้างกับความป่าเถื่อนเลือดร้อน วอนขอความเมตตาเสียงกระท่อนแกระแท่นขณะแนบร่างกับตู้เย็นที่สั่นสะเทือนราวกับมีแผ่นดินไหว วูบหนึ่งลืมต่อต้านตกอยู่ใต้อาณัติความลังเล จนกระทั่งหน้าสามีและลูกลอยมาในมโนสำนึกถึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ลำพังแรงสลัดคนร่างใหญ่แทบไม่มี ความกระสันก็ตีย้อนขึ้นมา
 
ร่างกายทำให้ขายขี้หน้า มันไม่ปฏิเสธทุกจังหวะจะโคน แต่พร้อมโอนอ่อน ต้อนรับท่อนเนื้อด้วยความปิติยินดี

หลักฐานแน่นหนาจนเพื่อนสนิทสามีกล้าพูดขึ้นมาด้วยวาจาสุดจะเข้าข้างตัวเอง

ฉันรู้ว่าเธอก็ต้องการ วันก่อนฉันเห็นนะที่เธอแอบมองฉัน ความร่านของเธอมันซ่อนไม่มิดหรอก

ปาร์คชานยอล ได้โปรด ฉันเป็นเมียเพื่อนคุณนะ!”  เธอละล้าละลัง หวังพูดเพื่อฟื้นความทรงจำ

แต่ชานยอลกลับไม่สน ชวนคุยไม่พ้นเรื่องใต้สะดือ 

อย่าปฏิเสธเลยน่า ตอดรัดซะขนาดนี้ เป็นไงลีลาของฉัน เอามันกว่าผัวเธอไหม

ปล่อยฉัน!”

อยากท้องอีกหรือเปล่า  เย้าแหย่หญิงสาวด้วยเรื่องคอขาดบาดตาย แน่นอนว่าการไม่สวมใส่ถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้หลายสิบเปอร์เซ็นต์ เช่นนั้นเธอจึงเริ่มขัดขืน  

ได้โปรด อ้า! ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย!”

เธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการผลักจนกระเด็นไปคนละทิศละทาง หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งหลังไม่มีคนคอยพยุง ล้มลุกคุกคลาน รีบคลานเข่าด้วยท่าสัตว์สี่เท้าความยาวจากห้องครัวมายังห้องนั่งเล่น กระเสือกกระสนเป็นระยะหลายเมตรก่อนจะลงเอยที่การถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างโหดร้าย เกิดการสอดใส่อีกครั้งแล้วเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงท่ามกลางความขัดแย้งมากมาย เธอร้องเรียกให้คนช่วยและถูกอุดปากด้วยมือใหญ่ เรื่องราวดำเนินไปอย่างละครหลังข่าวที่ฟันขาวเลือกกัดเนื้อเน้น ๆ เล่นกันถึงเลือดตกยางออกก่อนจะโดนตอกกลับด้วยการตบหน้าน้ำตาปริ่ม เลือดซิปที่มุมปาก  

ระหว่างนอนอ่อนแรงก็ถูกจัดแจงท่าทางเสียใหม่ จากนอนคว่ำก็ให้ยันฝ่ามือและเข่าไว้กับพื้น  ที่รักช่วยฉันด้วย  เธอขอร้องเสียงเครือเมื่อเงยหน้าเจอกรอบรูปสามีบนตู้ สามีที่รักกำลังส่งยิ้มอ่อนโยนให้เธออยู่คล้ายกำลังปลอบใจ สายตาอบอุ่นเหมือนบอกเธอว่าให้อดทนแล้วเดี๋ยวเรื่องราวเลวร้ายก็จะผ่านพ้นไป มือที่สวมแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายยึดพรมเช็ดเท้าไว้เป็นหลักระหว่างค่อย ๆ เคลิบเคลิ้มไปกับความเสียวซ่าน  ฉันขอโทษ  เธอพร่ำบอกขณะมีแก่นกายของชายอื่นเสือกเข้าออกในร่างไม่หยุด  ฉันรักคุณ…”  พูดเพื่อคลายความรู้สึกผิดที่เผลอมีอารมณ์ร่วมกับบทรักที่เริ่มจากขืนใจ

เธอสะอื้นไห้ตอนที่ถูกกระชากผมให้เงยหน้ามองรูปสามีอีกครั้ง เธอละอายเกินกว่าจะสบตากระทั่งร่างกายกระตุกอย่างแรง แต่แทนที่ชานยอลจะแตกในเมื่อถึงฝั่งฝันไล่เลี่ยกัน ชายหนุ่มกลับเดินอาด ๆ ไปหยิบกรอบรูปเพื่อนแล้วหลั่งอสุจิรดจนมันเปื้อนเป็นคราบน้ำขาว ๆ รีดท่อนเนื้อสุดความยาวแล้วค่อยวกกลับมาหาหญิงสาวที่นอนหมดสภาพ

หลังยัดแก่นกายกลับเข้าในชั้นใน ผู้ร้ายในคราบเพื่อนสามีก็ลดตัวนั่งยอง ๆ แล้วตบแก้มใสเบา ๆ เรียกสติคนที่กำลังสะลึมสะลือ  แล้วฉันจะกลับมาใหม่ จนกว่าฉันกับเธอจะได้มีลูกด้วยกัน  ชานยอลหยัดกายยืนขึ้นอย่างเชื่องช้า กระชับสูทให้เข้าที่เข้าทางแล้วค่อยเดินออกจากห้องไปโดยมีนัยน์ตาเหม่อลอยมองตามจนบานประตูปิดลงอย่างเงียบ ๆ  

เธอนอนกลืนน้ำลายบนพื้นเย็นเหยียบและหลับตาลงชั่ววินาที ราวกับสับสวิทช์ เปิดปิดอารมณ์ได้ดั่งใจ พอลืมตาอีกทีจากแววตาที่เคยอ่อนล้าก็กลายเป็นเย็นชา หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งอย่างง่ายดายแล้วรีบถอดเสื้อที่ใส่ ชุดผู้หญิง บ่อยครั้งก็ทำให้รู้สึกรุ่มร่าม เมื่อลอกคราบเรียบร้อยก็ค่อยลงมือแกะวิกผมอย่างชำนาญ ไม่จำเป็นต้องทำต่อหน้าบานกระจก ก่อนจะยืนขึ้นเพื่อปลดกระโปรงตกลงแทบเท้า จากที่เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงมาตลอด พอล่อนจ้อนที่แท้พยอนแบคฮยอนก็เป็นชาย

มีอวัยวะสืบพันธ์ที่ระบุเพศได้ชัดเจน

เขารับจ้างเป็นใครก็ได้ที่ลูกค้าต้องการอยากจะร่วมรักด้วยและเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาก็เพิ่งจะสวมบทบาทเป็นภรรยาของเพื่อนสนิท ผู้หญิงที่อุทิศทั้งชีวิตเพื่อครอบครัวแสนสุขก่อนจะถูกคนที่ไว้ใจข่มขืนอย่างเลือดเย็น

ปาร์คชานยอลเป็นหนึ่งในลูกค้าชั้นดีที่กำลังเผชิญกับอาการเก็บกด ต่อหน้าเป็นสุภาพชน แต่เบื้องหลังเป็นชายโฉดที่อยากได้เมียเพื่อนใจแทบขาด สันดานชอบแย่ง แต่ด้วยปัจจัยภายนอกไม่มีทางใดเลยให้แสดงออกถึงตัวตน ขณะที่โดนความอิจฉากัดกิน จึงต้องปิดบัง สวมหน้ากากคนดีอยู่เรื่อย

ร่างเพรียวบางเดินเปลือยกายไปปิดเตา เอาหม้อต้มที่มีน้ำเดือดเทลงซิงค์ล้างจานแล้วถึงเทผักที่หั่นค้างไว้ลงถังขยะ การทำครัวก็แค่ละคร ชีวิตจริงทำเป็นแค่รามยอนเท่านั้น ก่อนจะเดินกลับมาถอดแหวนแต่งงานเก็บใส่กล่องกำมะยี่อย่างดี ฉวยกรอบรูปที่เปื้อนขึ้นมาเช็ดอย่างลวก ๆ และก็เอากลับไปวางไว้ที่เก่าทั้งที่ยังมีคราบขาวเป็นดวงจากคราวก่อน แบคฮยอนเดินเฉยชาออกจากห้องนั่งเล่นที่ถูกเซตฉากขึ้นมาเสมือนจริง ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า ราวกับว่าที่ตรงนั้นไม่เคยมีอะไรบัดซบเกิดขึ้น พื้นพรมที่บิดเบี้ยวเป็นหลักฐานชิ้นเดียวที่ใช้ยืนยันว่าครั้งหนึ่งพวกเขาเคยสวมบทบาทสมมติ

เราคุ้นเคยกับการปลอมตัวเองต่อหน้าคนอื่นและสุดท้ายเราก็ปลอมตัวกับตัวเราเอง
จาก ฟรองซัว เดอลา โรซฟูโคลด์
  














ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
จุดประสงค์มีแค่อยากระบายความยุ่งเหยิงในหัวสมองออกมา แต่ก็หวังลึก ๆ ว่าทุกคนจะชอบ ฮา
ห่างหายจากอะไรสั้นๆกระทันรัดมานาน เหมือนได้ปลดล็อคตัวเองไปอีกขั้น  มีความสุขจัง
อย่าลืมว่าถ้ารู้สึกอึดอัด ระบายได้ที่ hashtag #fcuncenfic  เลย รออ่านอยู่น้า 
ปล. แนะนำว่าเปิดเพลง sweet lies ฟังไปด้วยจะดีมากๆ