วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

[OS/CHANBAEK] Lonely Together



    Lonely Together

          สถานพยาบาลกลายเป็นบ้านหลังที่สองของนายแพทย์ปาร์คชานยอลผู้ซึ่งกำลังนอนพักเอาแรงในห้องทำงานส่วนตัวระหว่างรอบุรุษพยาบาลนำร่างไร้วิญญาณร่างสุดท้ายของวันมาให้ชันสูตรหาสาเหตุการตาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก  
รหัสลับเคาะประตูสามครั้งแปลว่าได้มีการนำศพมาถึงเรียบร้อย
ชานยอลจึงค่อยลุกจากโซฟา แม้นัยน์ตาจะปรากฏความอ่อนล้าและเหนื่อยสะสมจากหน้าที่การงานอย่างเห็นได้ชัด แต่ด้วยจรรยาบรรณของแพทย์นิติเวชบวกกับเสร็จรายนี้แล้วก็จะได้กลับบ้านไปนอนอย่างเต็มอิ่ม จึงรีบเคลื่อนย้ายร่างกายรวบรวมพลังที่มีเหลือเดินมาหยิบเสื้อกาวน์ผ่าตัดที่พาดกับผนังเก้าอี้มาใส่ พอเดินออกมาจากห้องพักก็คว้าถุงมือยางมาสวม
            ชื่อผู้ตาย”  กลายเป็นธรรมเนียมที่นายแพทย์จะต้องถามชื่อผู้ตายกับบุรุษพยาบาล เพื่อที่ระหว่างชันสูตรจะได้เรียกชื่อเสียงเรียงนามกันถูก ชานยอลคิดว่าแม้แต่คนตายก็ยังต้องการการให้เกียรติเหมือนคนเป็น   
            “พยอนแบคฮยอนครับ
            แต่แล้วชื่อบุคคลที่สามก็ทำให้นายแพทย์ที่กำลังจัดแจงอุปกรณ์หยุดชะงักและหว่างคิ้วยับย่น วางมือจากงานแล้วกลับหลังหันมาทวนคำถามอีกที  เมื่อกี้นายบอกว่าชื่ออะไรนะ
            “พยอนแบคฮยอนครับ สันนิษฐานว่าผู้ตายหัวใจวายเฉียบพลันครับ
บนโลกนี้มีคนชื่อซ้ำกันถมเถไป ดังนั้นเลยยากจะปักใจเชื่อว่าเป็นคน ๆ เดียวกับที่รู้จัก อีกอย่างก็หวังว่าจะไม่ใช่ เพราะถ้าใช่งานที่รักคงกลายเป็นงานที่เกลียดทันทีแล้วก็คงไม่กะจิตกะใจจะค้นหาว่าคน ๆ หนึ่งตายเพราะอะไร
ส่วนบุรุษพยาบาลเห็นนายแพทย์เงียบไปก็ไม่ได้ติดใจสงสัย เตรียมจะเปิดผ้าใบที่ใช้คลุมใบหน้าและร่างอันซีดเซียว แต่ชานยอลก็พูดขัดขึ้นมาก่อน  เดี๋ยวฉันจัดการเอง
เป็นอันเข้าใจตรงกันว่าต้องการความเป็นส่วนตัวในการปฏิบัติงาน ที่เลือกเป็นแพทย์เฉพาะทางส่วนหนึ่งก็เพราะไม่ชอบความวุ่นวาย ให้เป็นหมอทั่วไปก็เบื่อคนพลุกพล่าน
ชานยอลพิสมัยความเงียบสงบ จนกระทั่งได้พบกับ รักแรก อีกครั้ง
หลังเปิดผ้าใบจนเห็นดวงหน้าขาวซีดด้วยตาตัวเองก็ค่อย ๆ คลำหาชีพจรด้วยใจที่หนักอึ้ง นึกอยากให้พยอนแบคฮยอนที่ยังเหมือนเดิมทุกอย่างแค่หลับไป เมื่อนอนพอแล้วก็ตื่นขึ้นมาสนทนาอย่างเจื้อยแจ้วดั่งเช่นตอนที่เคยคบกัน    
ไม่คิดว่าเราจะกลับมาเจอกันอีกในสถานการณ์แบบนี้
ความสัมพันธ์ที่ลงเอยไม่ได้ด้วยดีเท่าไหร่ทำให้นายแพทย์ไม่กล้าสู้หน้าอีกคนตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เหตุผลในการเลิกราเพราะชานยอลเลือกอนาคตมากกว่าหัวใจ
ความรักในวัยเรียนที่หนักหนาสากรรจ์หยุดพัฒนาเมื่อวันที่ความหวังของครอบครัวทนแบกรับหลาย ๆ อย่างไว้ไม่ไหวจึงทะเลาะกันยกใหญ่ ร่างบางที่เคยเป็นกำลังใจจนทำให้สอบติดหมอกลายเป็นเพียงตัวปัญหาที่ไม่รู้จักคำว่าเหตุผลของการเป็นผู้ใหญ่ ความผูกพันห้าปีไม่มีความหมายจนนำไปสู่การแตกหักและต่างคนต่างเดินไปตามทางของตัวเองอย่างเดียวดาย
ชานยอลถอดถุงมือยางออกแล้วสัมผัสพวงแก้มเย็นชืดแผ่วเบา อุณหภูมิที่แตกต่างกันย้ำชัดว่าเราอยู่กันคนละโลก เบื้องบนช่างตลกร้าย ไม่ให้โอกาสแก้ตัวซ้ำยังพามาเจอกันในวันที่สายไป เช่นนี้แล้วคำขอโทษจะมีความหมายอะไรในเมื่อคนที่อยากให้ได้ยินไม่อยู่ฟัง
สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย แยกได้เป็นใจหาย เศร้าสลด รวมถึงหดหู่ หลังจากทำร้ายจิตใจร่างบางก็มีชีวิตอยู่อย่างรู้สึกผิดเรื่อยมาและไม่สามารถรักใครได้อีก
ครองตัวเป็นโสด ปฏิเสธคนใหม่ ๆ ที่พยายามเข้าหาอย่างไร้เยื้อใยและดูเหมือนว่าจะต้องชดใช้ให้กับการกระทำอันใจร้ายของตัวเองไปอีกยี่สิบสามสิบปี บางทีคงถึงวันตาย

ถ้าฉันป่วย นายจะรักษาฉันไหม
แน่นอนสิ
คุณหมอ ผมรู้สึกไม่สบายเหมือนจะเป็นไข้ใจ
เลอะเทอะ
ไหนว่าจะรักษาไง
จะให้รักษายังไงในตำราไม่มีบอก
ก็รักฉันกลับสิคนโง่ เท่านี้ฉันก็หายเป็นไข้ใจแล้ว

นัยน์ตาหม่นหมองจ้องร่างกายเปลือยเปล่าที่ไร้รอยขีดข่วนอย่างพินิจพิจารณา แล้วตัดสาเหตุการตายจากอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมไป เหลือทางเดียวคือตรวจหาสาเหตุจากภายใน
ชานยอลทำใจสวมถุงมืออย่างอีกครั้งแล้วหยิบมีดผ่าตัดที่วางในถาดฆ่าเชื้อขึ้นมา เกือบจะจรดปลายมีดคมกริบลงบนผิวหมดจดอยู่แล้ว แต่จู่ ๆ ก็เกิดความลังเลและไม่มั่นใจ ชันสูตรพลิกศพใครต่อใครก็ไม่เคยลำบากใจเท่านี้จนต้องหันมองหน้าอีกทีเพื่อความแน่ใจ 
เห็นร่างบางนอนแน่นิ่งยิ่งทำไม่ลง มันคงไม่ยุติธรรมกับฝ่ายที่ถูกกระทำอยู่ตลอด  
ฉันจะไม่ทำร้ายนายเป็นหนที่สองแน่ ฉันสัญญา”  เปล่งวาจาอย่างมุ่งมั่นพร้อม ๆ กับที่ตัดสินใจบางอย่างได้ นายแพทย์ก้มลงจุมพิตหน้าผากมนของคนรักอย่างไม่รังเกียจ
ท่ามกลางความเงียบสงัดได้มีการโยกย้ายและเปลี่ยนตำแหน่งวัตถุปราศจากคนรู้เห็น ไม่มีอะไรยากเย็นเมื่อชานยอลเป็นคนตัวสูงใหญ่ อ่อนล้าแต่ว่าไม่ไร้กำลัง ก่อนทั้งห้องจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ พอดีกับที่มีคนเคาะประตูเป็นการขออนุญาต
เข้ามา
หลังเวลาผ่านไปสองชั่วโมงกว่า บุรุษพยาบาลก็กลับมารับช่วงต่อ เพราะรู้สถิติเวลาของนายแพทย์ดีถึงมาโดยไม่บอกกล่าวและยังประทับใจในความเป็นระเบียบ ชาร์ตที่ระบุสาเหตุการตายเสียบไว้ช่องข้างเตียงเหล็กอย่างเรียบร้อย คนมีหน้าที่เข็นพลิกป้ายที่ห้อยตรงหัวแม่เท้าดูอีกทีเพื่อความแน่ใจ พอเห็นว่าชื่อผู้ตายเป็นพยอนแบคฮยอนก็เข็นเตียงออกไปและไม่ลืมล่ำลาคนทำสีหน้าเรียบเฉยขณะยืนกอดอกพิงขอบอ่างล้างมือ  เหนื่อยหน่อยนะครับวันนี้” 
            ชานยอลพยักหน้าแล้วยิ้มให้บาง ๆ แล้วค่อยถอนหายใจไล่หลัง ปิดไฟดวงใหญ่เป็นอย่างสุดท้ายและเดินออกจากห้องปฏิบัติงานอย่างเงียบเชียบ แวะเก็บสัมภาระในห้องพัก ยกของหนักพาดบ่าและเลือกจะใช้บันไดหนีไฟด้านหลังตึก
ถึงเวลากลับบ้านไปพักผ่อน รถที่จอดในบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เคลื่อนออกจากที่เดิม ชานยอลบังคับพวงมาลัยทำให้สี่ล้อขยับไปในทิศทางที่ต้องการและขับรถผ่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่วันทยาหัตถ์เป็นการทักทายนายแพทย์ที่เจอกันทุกวันและทันเห็นคนหน้าไม่คุ้นแต่ว่าสวมเสื้อกาวน์แล้วเข้าใจว่าเป็นคุณหมอคนใหม่ สงสัยจะทำงานหนักเลยเพลียหลับคอพับคออ่อน ยืนมองตามก็เห็นว่านอนเอาหัวพิงหน้าต่างไปตลอดทางที่ทอดยาว แต่หากเฝ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าร่างนั้นไม่มีลมหายใจ 








ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
สุขสัตน์วันฮาโลวีน !!!!
เป็นเรื่องสั้นที่แต่งได้สั้นที่สุดแล้วก็ใช้เวลาน้อยสุด เกร้ดดดด 
ถือเป็นประวัติศาสตร์ได้เลยเพราะไม่เคยแต่งอะไรสั้นขนาดนี้ได้ 
หวังว่าจะชอบกันนะคะ ชอบสักนิดนึงก็ยังดี 5555555 55 
รู้สึกยังไงระบายได้ที่ hashtag #fcuncenfic  เลย รออ่านอยู่จ้า
 

วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

ทงจี (๒)





ปาร์คชานยอลถูกคำบอกเล่าของเพื่อนหลอกหลอนตลอดเจ็ดสิบสองชั่วโมงที่ผ่านมา ขนาดอาบน้ำสระผม พรมหัวจนเปียกโชกแต่ประโยคเหล่านั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะไหลไปตามน้ำ พอ ๆ กับที่ภาพของเด็ก แบคฮยอนยังติดตาและได้กลิ่นกายหอมหวนติดอยู่ที่ปลายจมูก ฟุ้งซ่านทั้งยามหลับยามตื่น เด็กตัวเล็ก ๆ มีอำนาจมากพอที่จะยึดพื้นที่ความคิดจนไม่เป็นอันทำอะไร
            ตัวนั่งประจำที่โต๊ะทำงาน แต่ใจนั้นลอยไปไกลแสนไกล
กาแฟที่เลขาสาวชงมาให้กลายเป็นหมั่น มันเย็นชืดเกินกว่าใครจะกล้ากลืนลงคอ นิ้วกร้านเอาแต่เคาะกับโต๊ะกระจกระหว่างคิดไม่ตกว่าจะจัดการกับความข้องใจที่กลายเป็นส่วนเดียวกับเลือดในร่างกายนี้อย่างไร
สาบานได้ว่าไม่มีเจตนาจะปรักปำสหายว่าพูดปดมดเท็จ แต่เพราะตัวเองก็ไม่ได้แค่เห็นแต่มือยังต้อง ได้สัมผัสเนื้อหนังมังสาของเด็กชายที่ถูกระบุว่าตายไปแล้วเองกับมือ
แล้วเท่าที่รู้มาวิญญาณก็เป็นแค่มวลสาร เบาบางเหมือนอากาศ ถ้าอย่างนั้นจะอธิบายความหนักบนหน้าตักตอนร่างเล็กนั่งทับอย่างไร จะมีอาจารย์คณะไสยศาสตร์คนไหนอธิบายให้เข้าใจได้บ้าง แถมคืนนั้นก็ไม่ได้แตะเหล้าสักหยด จะโทษว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ไม่ได้
พี้ยาจนหลอนยิ่งไม่ใช่ใหญ่และมั่นใจว่าไม่ได้เผลอกินมั่วซั้วก่อนนอนแน่นอน    
สุดท้ายกำปั้นหนาก็ทุบกับโต๊ะกระจกอย่างแรงเมื่อทนแบกรับความสงสัยอีกต่อไปไม่ไหว พอกันทีกับความกระวนกระวายที่เป็นฝ่ายเผชิญเพียงลำพัง ในเมื่อการนั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ช่วยอะไร มือใหญ่จึงคว้าข้าวของแค่ที่จำเป็นเสร็จก็ระเห็จออกจากห้องทำงาน ตอนแรกเดินผ่านหน้าโต๊ะเลขาไป ก่อนจะเดินถอยหลังกลับมาใหม่เพื่อเอ่ยถามในเรื่องที่ตัวเองใคร่รู้
ท่านประธานเข้ามาหรือยัง
ประชุมกับฝ่ายจัดซื้ออยู่ค่ะ 
นัยน์ตาดำด้านหันไปทางตำแหน่งของห้องประชุมหลักซึ่งบุรอบข้างด้วยกระจกใสจนสามารถเห็นใบหน้าของคิมจงอินที่นั่งวางหมาดท่านประธานได้ถนัด หลังจากที่ไปหาวันนั้น เช้าวันมาต่อมาสหายก็ยอมตกลงรับงานผู้บริหารอย่างไม่อิดออด จนชานยอลยังอดแปลกใจไม่ได้
แต่แทนที่จะมามัวสงสัยให้เสียเวลา ถ้าผลลัพธ์เป็นไปตามเป้าหมายก็คือจบกัน
หลายพันชีวิตรอดตายถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของที่ปรึกษาเลยก็ว่าได้เชียวล่ะ     
ช่วงบ่ายฉันจะไม่เข้ามาแล้ว ถ้าใครถามว่าไปไหนให้บอกว่าไปทำธุระส่วนตัว
กลัวมีคนมาถามหาจึงวางเส้นเรื่องให้เลขาพูดตามเสร็จสรรพ
คนโดดงานขับยานพาหนะคู่ใจออกจากลานจอดรถของตึกสูงระฟ้า บังคับพวงมาลัยไปตามเส้นทางที่เริ่มร้างตึกรามบ้านช่องทุกขณะ เป็นระยะหลายสิบกี่โลกว่าจะถึงที่หมาย
จากถนนเส้นใหญ่กลายเป็นแคบแทบพอดีกับคันรถ ต้นไม้บริเวณสองข้างทางให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบีบเข้ามา ป่าเขียวชอุ่มทำให้รู้สึกอึดอัด กลุ่มเมฆไล่ตามหลังมาดูท่าอีกไม่นานไอน้ำคงกลั่นเป็นห่าฝน  
ชานยอลขับรถมาตามทางราบที่เลียบไปกับแม่น้ำสายเล็ก ๆ ก่อนจะสังเกตเห็นบางอย่างผ่านกระจกข้าง เหลือบเห็นแผ่นหลังที่ทำเอาใจเต้นแรง ใครบางคนนั่งแกว่งเท้าอยู่ตรงท่าน้ำและแค่มองปราดเดียวก็จำได้แม่นยำ จนตัดสินใจจอดรถมันกลางทางทั้งที่อีกร้อยเมตรกว่า ๆ ก็จะถึงตัวบ้าน หนุ่มใหญ่ทำอะไรรวดเร็วทันใจเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นใจร้อนอีกครั้ง
พร้อมเข้าสู่ชั่วโมงล่าท้าความจริงอย่างไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น ค่อย ๆ เดินเข้าใกล้เด็กชายที่กำลังปาหินลงน้ำ แต่ยิ่งระวังฝีเท้ามากเท่าไหร่ยิ่งกลายเป็นทำเสียงอึกทึกครึกโครม ดันเหยียบกิ่งไม้แห้งจนมันหักและร่างเล็กก็หันขวับกลับมามองด้วยสีหน้าตกใจ
ฉันเอง ฉันไง จำได้ไหม”  รีบออกตัวก่อนยืนหน้าสลอนให้มองชัด ๆ 
พูดกระตุ้นความทรงจำหลังจากที่กลับไปไม่ทันล่ำลา หวังว่าจะยังไม่ลืมหน้าชายโฉดที่เคยปล้นสะดมน้ำหวานไปและกลับมาให้ดอกไม้เห็นหน้าอีกทีในสามวันให้หลัง
ร่างเล็กเอียงหน้ามอง ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะพยักหน้าแทนการตอบว่าจำได้ ก่อนใบหน้าจะปรากฏสัญลักษณ์ของความเขินอาย เหมือนมีจิตกรสะบัดสีแดงใส่โหนกแก้มอย่างไรอย่างนั้น แบคฮยอนรีบหยัดกายลุกขึ้นยืน ตั้งท่าจะเดินไปทางอื่นทั้งที่ยังอมยิ้ม  
เดี๋ยวสิ จะไปไหนน่ะ”  ปากถามขาก็ขยับตามอัตโนมัติ
ชานยอลถอดสูทตัวนอกออกเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว แล้วรีบเคลื่อนเท้าตามเด็กชายให้ทันและดันพลาดจับมือเล็กที่แกว่งอยู่ข้างลำตัวไปอย่างน่าเสียดาย
แต่หนุ่มใหญ่ก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ แค่อยากสัมผัสให้แน่ใจว่าเด็กชายยังตัวอุ่นเฉกเช่นมนุษย์ หาใช่วิญญาณอาฆาตที่ยังไม่ยอมไปผุดไปเกิดเสียที จด ๆ จ้อง ๆ มองมือที่ลูบไล้ใบไม้ละสองข้างทางตาไม่กะพริบในขณะร่างเล็กยังเดินหน้าต่อไปอย่างไม่รีบร้อน กินลมชมวิวและสูดอากาศบริสุทธิ์จนชุ่มปอด เด็กน้อยกำลังสอนให้ผู้ใหญ่รู้จักใจเย็นเมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
ซึ่งชานยอลก็เดินช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
จากปกติที่เดินเร็วเป็นกิจวัตร ต้องเร่งรีบเพราะเดี๋ยวไม่ทันตารางงานที่แน่นขนัดพอ ๆ กับปมเนกไท คนมีภาระที่ต้องรับผิดชอบแทบจะลืมไปแล้วว่าเดินเล่นจริง ๆ จัง ๆ ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อาจเป็นช่วงมัธยมปลายไม่ก็มหาลัย แต่รวม ๆ แล้วมันก็หลายปีที่ขายวิญญาณให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ทำตามสูตรและไม่เคยหลุดกรอบจารีตประเพณี คลุกคลีกับสารเคมีจนผิวหนังชินไปเองและไม่เคยเล็งเห็นความงดงามที่ปราศจากสิ่งปรุงแต่ง
แบคฮยอนพาอีกคนเดินตัดผ่านใจกลางป่า ก่อนจะแวะเด็ดบางอย่างออกจากต้น
ผลของมันขนาดเท่าลูกปัด นอกจากจะกินเองยังหันกลับมายื่นให้ผู้ใหญ่
ให้ฉัน…? มันกินได้เหรอ”  กลัวสิ่งแปลกปลอมแต่ก็ยอมกินเมื่อร่างเล็กเป็นฝ่ายป้อนให้ ฟันคมลองเคี้ยวจนรสชาติแปลกใหม่เคลือบไปบนเกลียวลิ้น  หวานดีแฮะ
ร่างเล็กที่ยืนรอดูปฏิกิริยายกยิ้มกว้างพลางพยักเพยิดหน้าเห็นด้วย แล้วค่อยชวนชานยอลออกวิ่ง เรียกว่ากึ่งลากกึ่งจูงดีกว่า ฝ่ายที่ถูกกุมข้อแขนรีบประกบมือกับหลังมือเล็กไว้ขณะก้าวเดินผ่านต้นไม้ที่บดบังทัศนียภาพจนมาพบกับลำธารที่น้ำใสสะอาดขนาดเห็นตัวปลา
แบคฮยอนกระโดดลงน้ำที่มีความสูงเท่าเข่าและเดินฝ่ากระแสน้ำอย่างชำนาญในระหว่างที่คนมาด้วยกันรีบถอดรองเท้าหนังออกแล้ววางมันกองไว้กับเสื้อสูทสีดำ ทั้งคู่ข้ามไปยังอีกฝั่งโดยสวัสดิ์ภาพแล้วเดินย้อนไปทางต้นน้ำที่เห็นอยู่ไม่ไกล  
ไม่ยักรู้ว่าที่แบบนี้ ด้วย 
พึมพำไม่ทันขาดตอน เผลอกลืนน้ำลายลงคอเพราะเห็นคนที่วิ่งล่วงหน้าไปก่อนถอดชุดจนเนื้อตัวล่อนจ้อน แสงแดดสะท้อนกับผิวกระเบื้องเคลือบจนเกือบทำคนจ้องตาบอด 
ชานยอลตัดสินใจถอดเข็มขัดในไม่กี่วินาทีต่อมา ปลดตะขอกางเกงอย่างรีบร้อนระหว่างมองร่างเล็กไม่คลาดสายตา แก้ผ้าแก้ผ่อนตอนบ่ายกว่าอย่างไม่อายเจ้าป่าเจ้าเขาแล้วเดินเท้าเปล่าลงน้ำที่เพิ่มระดับความสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเสมออก
อุณหภูมิที่เย็นของน้ำทำให้สมองโล่งจนคิดอะไรดี ๆ ออก  
นัยน์ตาดำด้านมองอีกคนที่ดำผุดดำว่ายแล้วค่อยมุดตัวลงใต้น้ำอย่างเงียบเชียบ  
ตอนนั้นเองที่แบคฮยอนหันกลับมากวาดสายตาแล้วเจอเพียงความว่างเปล่า หันหัวไปทางไหนก็ไร้เงาสูงใหญ่จนใบหน้าเริ่มถอดสี ถึงจะมีพัฒนาการหลาย ๆ ด้านช้ากว่าเด็กรุ่นเดียวกันหลายเท่า แต่ก็เข้าใจคำว่าหวาดกลัวอย่างถ่องแท้
นอกจากในท้องแม่ก็ไม่มีที่ไหนแล้วที่ปลอดภัย
แต่ในระหว่างที่กำลังรู้สึกเคว้งคว้าง จู่ ๆ ก็มีพรายหนุ่มรูปงามโผล่พรวดขึ้นมาจากน้ำและพยายามล่อหลอกด้วยความเจ้าเล่ห์ โปรยเสน่ห์อันร้ายกาจผ่านแววตาเป็นประกาย เสยผมไปด้านหลังขณะอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี แต่ดูเหมือนว่าจะมีแค่คนเล่นพิเรนทร์ที่สนุก
ผิดกับคนถูกแกล้งที่ขวัญหนีดีฟ่อจนน้ำตาคลอเบ้า แบคฮยอนตกอยู่ในอาการซึมเศร้าและน้ำตาไหลราวกับสั่งได้ ร่างเล็กอยากหลบไปอยู่คนเดียวไม่ขอข้องเกี่ยวกับคนขี้แกล้งสักพัก แต่ก็ยังช้ากว่าช่วงแขนยาวที่ตวัดรัดเอวคอดในน้ำและรั้งกลับเข้าหาตัวจนหน้าท้องแบนราบเบียดเสียดกับลอนกล้ามจำนวนมาตรฐาน   
ฉันขอโทษ”  เอ่ยอย่างลนลานพานรู้สึกผิดมหันต์  
ชานยอลพยายามโน้มใบหน้าที่เบือนหนีให้หันกลับมา ปลอบประโลมด้วยสัมผัสท่ามกลางการขัดขืนเล็กน้อย ฝ่ามือใหญ่กุมพวงแก้มร้อนฉ่าไว้ คอยรองรับน้ำตาแห่งความเสียใจ ให้ร่างเล็กยืมมือเป็นที่พักพิงอิงแอบ เอาแก้มซบแล้วหลับตาร้องไห้เงียบ ๆ   

หลานชาย เสียไปเมื่อสองปีก่อน

คำพูดของเพื่อนเตือนความจำได้ถูกเวลา
พอดีกับที่ชานยอลประจักษ์แล้วว่าร่างเล็กนั้นมีตัวตนจริง ๆ
หยดน้ำที่กลิ้งบนความขาวเนียนถูกเช็ดออกไปด้วยปลายนิ้วโป้ง กร้านนิ้วยาวเกลี่ยผิวหมดจด ขจัดสิ่งที่บดบังสายตาออกไปไม่มีเหลือก็เพื่อจะยลโฉม  ผีทุกตนจะสวยเหมือนเธอไหม”  ถามด้วยความสงสัยระหว่างแบคฮยอนช้อนนัยน์ตาแดงก่ำมองอย่างเว้าวอน  ถ้าบอกว่าเป็นนางฟ้าฉันยังจะเชื่อมากกว่า”  ละเมอพูดคนเดียวตอนที่นิ้วเกี่ยวกับมุมปากบาง
ร่างเล็กงับปลายหัวแม่โป้งอย่างแผ่วเบา
เอาฟันขูด ใช้ปากรูดตามความยาวราวกับหิว ดูดนิ้วหนุ่มใหญ่เล่นเหมือนเด็กแรกเกิด 
เธอเป็นใครกันแน่นะ  เกือบจะหลงไปกับสิ่งยั่วยุ แต่ก่อนสงครามอารมณ์จะอุบัติ ร่างเล็กกลับหยุดมันด้วยการสวมกอดแล้วออดอ้อนเสียงเครือว่า  หนาว…”    
แบคฮยอนถูกอุ้มขึ้นฝั่งก่อน ส่วนชานยอลยังลอยคอในน้ำ กำลังจะปีนขึ้นตามแต่กลับมีเหตุให้ต้องชะงัก หลังจากสบสายตาเข้ากับรอยช้ำบริเวณข้อเท้าขาว เรื่องน่าสงสัยก็เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่ง ก่อนจะเป็นร่างเล็กที่ชักขากลับ ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งหนีทั้งสภาพชีเปลือย
เดือดร้อนให้ผู้ใหญ่ช่างสังเกตต้องรีบขึ้นจากน้ำและตามเก็บชุดให้ทั้งที่ตัวเองก็ยังใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย เสื้อค่อยระหว่างทาง ใส่แต่กางเกงไปก่อน ชานยอลเดินอาด ๆ จนตามทันและกอดรัดฟัดเหวี่ยงเพียงเพื่อให้แบคฮยอนใส่เสื้อผ้าก่อนจะเป็นปอดบวมตายหรือมีไข้ถามหา
ผู้ใหญ่เดินนำบ้างและส่งมือให้ร่างเล็กจับยามต้องข้ามลำธารเพื่อกลับไปทางเก่า สละรองเท้าให้สวม ถึงจะหลวมแต่คนได้ใส่ก็ยังชอบใจ ส่วนตัวเองยอมเดินเท้าเปล่าไปตลอดทาง   
ร่างเล็กขอเสื้อสูทตัวโคล่งไปใส่ สยายเสื้อเป็นปีกแล้วออกวิ่งเป็นวงกลมวนรอบตัวคนอายุมากกว่า เดี๋ยวก็ล้มหรอกบอกไม่ทันขาดคำ เกือบหน้าคะมำดีที่จับตัวไว้ได้และเพื่อตอบแทนแก่ความมีน้ำใจให้เลือกทำได้หนึ่งอย่าง แน่นอนว่าหนุ่มใหญ่ไม่ลังเลที่จูบอย่างมูมมามจัดให้ตามประสงค์ ส่วนการถลกชายกระโปรงขึ้นนั้น เป็นคำบัญชาจากสัญชาตญาณดิบล้วน ๆ







ว่ากันว่าช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ พอเจอกับตัวถึงเข้าใจ 
แต่มันก็ไม่ได้เร็วจนถึงขนาดไล่เก็บความความทรงจำไม่ทัน ชานยอลเก็บได้กระบุงใหญ่และมีกำลังวังชาแบกข้ามภูเขาได้เป็นลูก ๆ จิตใจกระโดดโลดเต้นเหมือนถูกล็อตตารี่รางวัลที่หนึ่ง รู้สึกเหมือนได้ย้อนวันวานกลับไปในช่วงแตกเนื้อหนุ่ม กระชุ่มกระชวยขึ้นมากหลังจากที่สองสามเดือนก่อนเอาแต่ใช้ชีวิตผ่อนส่งไปวัน ๆ  
ชายผู้ให้คำสัตย์สาบานว่าจะมีเมียเดียวจวบจวนสิ้นอายุขัยยอมรับว่าแอบเข็ดขยาดกับความรักและตั้งใจจะครองโสดไปจนวันตาย เคยเหน็บแหนมอดีตภรรยาว่าหาสามีใหม่ได้เร็วดีนะ แต่กลายเป็นว่าตัวเองก็ไม่ต่างกันและอาจจะหลงเด็กมากกว่า เรียกได้ว่าเข้าขั้นหัวปักหัวปำ
ตามติดยิ่งกว่าเงาตามตัวเพราะกลัวจะซนจนเลือดตกยางออก  
พนักงานบริษัทผันตัวเป็นพี่เลี้ยงเด็ก พาร่างเล็กมาล้างหน้าล้างตาที่ท่าน้ำแถวบ้านและอนุญาตให้เอาขาจุ่มน้ำได้ แบคฮยอนนั่งแกว่งขาสบายใจเฉิบตอนอีกคนกวักน้ำขึ้นมาลูบตามแขนตามขา ที่มีคราบดินติดตามร่างกายก็เพราะว่าหกคะล้ม ตอนจับกบเพราะรีบวิ่งหนีมันก็น่าสงสารอยู่หรอก แต่ผู้ใหญ่ก็อาศัยช่วงนั้นแอบมองข้างใต้ร่มผ้าจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน  
           ดวงตาสุกสกาวเห็นดอกไม้ลอยมากับกระแสน้ำกำลังจะผ่านเลยไปจึงชี้จะเอา ชานยอลที่แขนยาวแต่ไม่มากพอให้คว้าจึงหย่อนตัวลงน้ำไวเท่าความคิด เดินลุยทั้งกางเกงเพื่อหยิบสิ่งที่ร่างเล็กปรารถนามาให้ มือน้อยรับดอกไม้ไว้ด้วยความยินดีก่อนจะยกขึ้นดมฟุดฟิด
            ได้กลิ่นทีก็ยิ้มกว้าง อ้าปากงับทำท่าจะแทะกลีบสีอ่อนจนชานยอลต้องรีบห้ามว่าไม่ได้ มันไม่ใช่อาหาร โดยหารู้ไม่ว่าเมื่อวานร่างเล็กแอบกินไปแล้วตอนอยู่ตามลำพังและมีวีรกรรมอีกมากมายที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เช่นการทำให้ผู้ชายอีกคนตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ชอบเหรอ”  ชานยอลที่เห็นว่าไหน ๆ ก็เปียกแล้วเลยยืนในน้ำมันซะเลยเอ่ยปากถามเด็กชายตรงหน้าที่ไม่ได้ยึดแค่ท่าน้ำไว้คนเดียวแต่ยังยึดหัวใจที่เคยแห้งเหี่ยวไว้ได้ซะอยู่หมัด
หางตาเหลือบเห็นอีกดอกลอยอยู่ไม่ไกลจึงเก็บขึ้นมาทัดข้างใบหูขาว แต่ที่ทำไม่ใช่เพื่อพยายามเอาใจ แค่รู้สึกว่าดอกไม้เป็นสัญลักษณ์ของความงดงามที่จับต้องได้และไม่มีอะไรเหมาะกับร่างเล็กกว่านี้อีกแล้วก็เท่านั้น
สวย  แบคฮยอนยกมือคลำดอกไม้ที่กกหูแล้วชมตัวเองหน้าตาเฉย ตามด้วยการเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวานหันนิ้วชี้เข้าหาคนยืนต้านกระแสน้ำเอื่อย ๆ  หล่อ
ฮ่า ๆ”  เดินทางมาไกลได้หัวเราะแค่สักครั้งสองครั้งก็ยังถือว่าคุ้มกับค่าน้ำมันและถือโอกาสแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ  “ฉันชื่อชานยอล”  ช้าไปหน่อยแต่อย่างน้อยก็บอก ไม่อยากให้ร่างเล็กมองว่าไม่จริงใจและแน่นอนว่าในอนาคตจะบอกมากกว่านี้
หวังว่าอีกคนก็จะทำเหมือนกัน อาจต้องใช้เวลาแต่ก็จะรอ 
ไหนลองเรียกฉันว่าชานยอลซิ
หล่อ
ไม่ ฉันชื่อชานยอล
หล่อ”  จีบปากจีบคอตะเบ็งเสียงสู้  
หล่อก็หล่อ  ผู้ใหญ่ยอมแพ้ ดีกว่าต้องวิ่งหายาแก้อักเสบให้เด็กกิน  เห็นแบบนี้ฉันก็อายเป็นนะ”  หน้าบางเพราะคำชม แต่อมยิ้มเขินไม่ทันไรก็หลุดขำอีกหนเมื่อร่างเล็กเอาดอกไม้ที่เหลือทัดหูคืนและออกปากชมเปราะว่า  สวย
พูดกลับไปกลับมาจนหนุ่มใหญ่อยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วในสายตาร่างเล็กตัวเองดูเป็นยังไง
ตกลงฉันสวยหรือหล่อ เลือกมาสักอย่างสิ แบคฮยอน
เจ้าของชื่อชะงักไปเผยนัยน์ตาเลิ่กลั่ก หนึ่งในสิ่งที่รู้ก็คือชื่อของตัวเองแต่ร่างเล็กส่ายหน้าปฏิเสธ เหมือนไม่ชอบมันและไม่ต้องการให้อีกคนเอ่ยถึงชื่อนั้นอีกเด็ดขาด มีอาการลนลานและตื่นตระหนกจนชานยอลรีบกอดปลอบและกล่าวประโยคเดิมซ้ำ ๆ พูดว่าไม่เป็นไรนับครั้งไม่ถ้วน  ไม่อยากเลือก”  เสียงหวานพึมพำกับอก ท่าทางซึมลงถนัดตา
ไม่เป็นไร”  ไม่อยากเลือกก็ไม่ต้องเลือก กะอีแค่สวยหรือหล่อมันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่จะต้องมาบังคับให้ตอบกันอยู่แล้ว ความรู้สึกผิดสะท้านอยู่ในอกซ้ายของชายวัยกลางคน คนทำให้บรรยากาศกร่อยก็หน้าเดิม ๆ แต่ข้อดีของมันก็คือการเริ่มจับทางได้ว่าควรระวังคำพูด   
สุดท้ายแล้วแบคฮยอนอาจปฏิเสธการเลือกในครั้งนี้ได้ แต่ยังไงซะวันหนึ่งที่ต้องเลือกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จะมาถึงอยู่ดี  
เอาดอกไม้อีกไหม ให้ฉันทำอะไรไถ่โทษดี” 
มือใหญ่ดันไหล่แคบออกห่างตัว ใช้หัวโขกเบา ๆ เอาหน้าผากดันหน้าผาก เล่นด้วยเพราะอยากให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีกลับมามีชีวิตชีวา อุตส่าห์จุมพิตหน้าผากเสียงดังหวังว่าร่างเล็กจะให้ความสนใจแต่ก็ไม่ จูบตามไรผมก็แล้ว หอมตามแนวขมับลามลงแก้มอย่างไว ๆ กลีบปากหนาแนบกับปลายจมูกมน กดจูบริมฝีปากแดงก่ำแค่ภายนอก รวมถึงคาง ซอกคอ ไห้ปลาร้า หอมหัวไหล่ผ่านผ้าอย่างอ้อยอิ่ง ดูสิว่าจะนั่งนิ่งได้อีกนานแค่ไหน  
            ไม่รู้ว่าการบุกรุกร่างกายถูกบัญญัติว่าเป็นการละเล่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจเป็นเพียงความคิดของชายชอบฉวยโอกาสที่สรรหาเหตุผลมาอ้างเพื่อหักลบกลบความจริงที่ว่าตัวเองฝักใฝ่ในราคะและปรารถนาจะกระทำชำเราเด็กน้อยตั้งแต่อยู่ในป่าแล้ว
            แววตาร้ายกาจหลุบมองกำปั้นเล็กที่แสดงออกถึงความเกร็งจัด ชานยอลนวดจนสองมือนั้นยอมคลายออก แบคฮยอนนั่งมองการแสดงมายากลชิดติดขอบเวที เหมือนมีไฟเผากายทั้งที่ไม่เห็นแม้แต่เขม่าควัน ชายเบื้องหน้าบันดาลให้มวนท้องทั้งที่ไม่มีไม้กายสิทธิ์
มีเพียงริมฝีปากที่ตามติดผิวกายไปทุกหนทุกแห่ง ประกบปากกับท้องแขนทุกระยะ เคลื่อนมาจูบหน้าท้องแบนราบที่มีชุดเป็นกำบัง ก้มหน้างับตามผ้าที่ปกคลุมขาเล็กทั้งสองข้างอย่างเชื่องช้าและหยุดการกระทำหวาดเสียวไว้ที่หัวเข่าซึ่งปรากฏปื้นแดง ก่อนจะจูบร่องรอยจากการหกล้มแผ่วเบาแต่เข่านั้นแอบกระตุกนิดหน่อยเพราะความเจ็บที่ยังไม่หายไป
ใช้ปลายฟันกัดชายกระโปรงแล้วเลิกขึ้นเหนือหัวเข่าเข้าไปถึงโคนขา ลิ้นร้อนไล่เลียผิวละเอียดย้อนไปย้อนมาจนเด็กน้อยใจคอไม่ดี หายใจถี่ขึ้นทุกขณะ เผยอปากแต่ไม่กว้างมากเท่าขาที่ถูกจับแยกออก ผู้ใหญ่มุดหัวเข้าใต้กระโปรงเพื่อครอบครองพวงสวรรค์ขนาดกะทัดรัดด้วยปาก ทำอะไรประเจิดประเจ้ออย่างไม่กลัวใครจะเดินมาเจอฉากอัศจรรย์เข้า
ระหว่างเล้าโลมก็แอบงัดจรวดตัวเองออกมาขัดให้มันวาบ สาวด้วยมือจนแก่นกายแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ที่ถ้าฟาดกับก้นคงทำให้สะดุ้งไม่น้อย หนุ่มใหญ่ยอมวางมือจากของกระจุ๋มกระจิ๋ม โผล่หน้าออกจากกระโปรงแล้วยกมือเช็ดริมฝีปากที่เลอะคราบใส ๆ
เจ้าของนัยน์ตาดำด้านไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่ายืดตัวตรงแล้วตามด้วยการปลดกางเกงลง เป็นร่างเล็กที่กางขาออกอย่างรู้งาน เปิดสัญญาณไฟเขียวด้วยการโกยชายผ้าขึ้นและยอมให้คนยืนในน้ำลำเลียงท่อนไม้ผ่านเส้นทางลับแลได้สะดวก   
            การล่วงเกินครั้งแรกอาจอ้างได้ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ครั้งที่สองศาลก็อาจจะยังพอรับฟังเหตุผล แต่ถ้ามีหนที่สามเมื่อไหร่นั่นหมายถึงโทษประหารโดยไม่รอลงอาญา  
เพราะการเสพสังวาสกับเด็กอายุต่ำกว่าสิบห้าถือเป็นการกระทำนอกรีดและเป็นเรื่องที่คนในสังคมส่วนใหญ่พยายามปกปิดในขณะคนที่ส่วนน้อยมองว่าผิดมหันต์และหากดึงดันจะแสดงพฤติกรรมลบลู่กฎหมายก็ต้องเตรียมใจถูกตรวนในสักวัน
ชานยอลยอมรับโดยดุษฎีหากจะมีการลงโทษ คิดว่าความรู้สึกคงไม่ต่างกันเท่าไหร่เพราะยังไงทุกวันนี้ก็โดนล่ามด้วยโซ่ที่เรียกว่าจริยธรรมจนชิน มีความผิดอีกสักกระทงคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาหนักอกหนักใจในตอนนี้คือจะควบคุมผีร้ายในกายอย่างไร
กลายเป็นตัวเองที่ถูกตามใจ แม้จะรุนแรงด้วยแค่ไหนแบคฮยอนก็ไม่ปริปากบ่นสักคำ ทำแค่คล้องแขนกับคอแกร่ง ตัวโยนเพราะแรงกระแทกที่แบ่งช่วงเป็นช้าสลับเร็ว สองขาที่ห้อยต่องแต่งยกขึ้นเกี่ยวเอวสอบเป็นลูกลิง เอนตัวพิงตอนนั่งหมิ่นเหม่บนท่าน้ำ ไม่ค่อยถนัดแต่ก็พอทำเนา ก่อนจะตัดสินใจอุ้มเข้าเอวแล้วขยับช่วงล่าง ได้ทดสอบทั้งพลังกำลังขาและแขนไปด้วย ท่านี้ช่วยให้ความสัมพันธ์ยิ่งแน่นแฟ้น แน่นขนัดจนเด็กน้อยหวีดร้องไม่ขาดปาก
            ฝังหน้ากับบ่ากว้างด้วยความกระดากอาย หายใจกระท่อนกระแท่นระหว่างอีกคนแหงนหน้าซูดปาก กำลังเข้าสู่ช่วงกลางถ้ารักษาจังหวะสม่ำเสมอไว้ได้อีกไม่นานคงพิชิตเส้นชัย
รางวัลสำหรับผู้ชนะคือน้ำดื่มแก้กระหาย หลังจากได้เสียเป็นผัวเมียกันทั้งยืน ชานยอลก็ปล่อยร่างเล็กลงสู่พื้นราบ ให้นอนแผ่กับท่าน้ำแล้วจับสองขาขาวตั้งฉาก เหมือนสุตินารีแพทย์กำลังทำคลอดสอดนิ้วเพื่อวัดระยะห่างของหัวเด็กโดยมีร่างเล็กคอยส่งเสียงครางบอกทางให้กับหมอที่เริ่มคลำมั่วซั่ว แล้วมุดหัวเข้าใต้กระโปรงอีกครั้งและเลียตามโคนขาด้านในเสียงดัง
สร้างความขัดเขินให้กับแบคฮยอนที่นอนไม่เป็นสุข แถมยังถูกพลิกร่างเหมือนปลาหมึกย่างบนเตาถ่าน ร่างเล็กนอนคว่ำบนไม้กระดานแล้วค่อย ๆ คลานถอยหลัง หย่อนขาลงน้ำแต่ไม่ถึงกับยืนเหยียบพื้น ทั้งที่เท่าหัวเข่าแต่จู่ ๆ ก็มีคลื่นยักษ์ซัดเข้าอย่างจังจนกระเทือนทั้งร่าง
เพราะเอวสอบที่เคลื่อนไหวไม่บั้นยะบั้น ร่างเล็กถึงได้ตกอยู่ในสภาพสั่นเป็นเจ้าเข้าและต้องรีบเอามือเท้ากับขอบไม้ จิตใจร้อนรนเหมือนคนที่กำลังตกนรกมกไหม้ อเวจีสีชมพูเปิดประตูต้อนรับทั้งคู่ทุกเวลาและให้ความรู้สึกคล้ายกับว่ากำลังเดินอยู่บนสรวงสวรรค์  
ชานยอลยัดแก่นกายที่หลุดกลับเข้าไปใหม่แล้วดันเข้าข้างในสุดแรง แกล้งเว้นจังหวะ ทำช้าลงระหว่างที่ก้นงอนกระดกรับอัตโนมัติ หน้าขากับแก้มก้นบดเบียดกันไปมา ขยับเขยื้อนด้วยจังหวะจะโคนที่เริ่มพร้อมเพรียงและส่อสำเนียงถูกอกถูกใจเป็นพัก ๆ
เจ้าโลกถูกชักออกจากช่องทางคับแคบอย่างไว ก่อนจะพลิกร่างกายเล็กนอนหงายและให้กระเทิบขึ้นไปนอนดี ๆ มือใหญ่ประคองแก่นกายป้วนเปี้ยนส่วนปลายอยู่แถวทางเข้าสีแดงก่ำและเสียงทุ้มต่ำคำรามเสียงดังเมื่อสอดใส่แล้วผนังร้อนต้อนรับด้วยการตอดอย่างแรง
แบคฮยอนนอนมองสีหน้าทรมานนั้นด้วยความสนอกสนใจ เด็กน้อยรู้จักที่จะชายตามอง แต่ก็ต้องรีบหลับตาเพราะแดดแยง เพียงเอนตัวรับแรงกระแทกกระทั้นที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเสมือนเป็นโอกาสสุดท้ายในชีวิตแสนสั้น ชานยอลกดฝ่ามือกับโคนขาขาวในช่วงโค้งสุดท้ายระหว่างเคลื่อนสะโพกไม่ยั้งจนกระทั่งเกิดขีดสุด รับรู้ได้ถึงสิ่งที่พุ่งกระฉูดออกไป แค่อึดใจเดียวความเสียวก็ช็อตไปทั้งร่างจนได้กลิ่นไหม้จากผิว
ต่างฝ่ายต่างหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อจรวดติดล็อกไม่มีสารคัดหลั่งได้กระเด็นออกมาข้างนอกสักหยดและต้องรอจนกว่าอาการดูดจะทุเลา ผู้ใหญ่ใช้เวลานั้นทิ้งตัวราวกับอยู่บนเตียงนอน ล้มทับคนที่อ่อนเพลียพอกัน ทั้งยังรู้สึกอึดอัดด้วย แต่ท่าทางออดอ้อนนอนเกลือกแก้มกับอกแคบไปมาก็พอจะช่วยบรรเทาอาการครั้นเนื้อครั้นตัวไปได้มาก ร่างเล็กหันมาหัวเราะเพราะรู้จักจั๊กจี้แทน   
คุณหนูแบคฮยอนคะคุณหนู’ 
เสียงตามสายลมทำให้ฉากที่ควรจะจบด้วยความโรแมนติกกลายเป็นยิ่งกว่าละครแอคชั่น ตอนที่ป้าแม่บ้านค่อย ๆ เดินผ่านท่าน้ำไปทั้งคู่ก็อาศัยใต้ไม้กระดานเป็นที่ซ่อน
แบคฮยอนหัวเราะคิกคักที่หญิงอายุห้าสิบตอนปลายจับไม่ได้ไล่ไม่ทันแล้วค่อยหันตัวที่นั่งแช่ในน้ำไปมากกว่าครึ่งกลับมาหาชานยอลที่กอดซ้อนหลังไว้
แล้วรถใครมาจอดตรงนี้ล่ะเนี่ย        
ผู้ใหญ่ยักคิ้วหลิ่วตาให้เด็กน้อยที่ลอยคอในน้ำและกำลังเล่นเป่าฟอง
คุณหนูคะได้เวลาทานข้าวเย็นแล้วนะ
แสงตะวันลอดมาตามร่องไม้ตอนที่ฝ่ายอายุเยอะกว่าร่วมเล่นเป่าปาก สร้างฟองได้มหาศาลจนร่างเล็กตื่นตาตื่นใจ เอามือไล่ตะครุบฟองอากาศเป็นพัลวัน แต่ก่อนที่เสียงหัวเราะจะกลายเป็นปัญหา ราชสีห์ที่วันนี้ยอมลดตัวลงน้ำก็ได้คาบริมฝีปากบางมากินได้ทันท่วงที
            ปล่อยให้ผู้หญิงที่หันกลับมามองแล้วพบเพียงความว่างเปล่าเข้าใจว่าตัวเองหูฝาด
ป้าแม่บ้านส่งเสียงเรียกคุณหนูต่อไป ภาวนาให้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัยด้วยเถอะ   










แท็ก #ทงจีชานแบค กลับไปที่บทความ  https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1657465&chapter=3

วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560

[OS15+/CHANBAEK] ชื่อเรื่องช่างมันเถอะ





          คนเป็นปริปักษ์กับผี ยกเว้นเฉพาะวันที่ 31 เดือนสิบของทุก ๆ ปีเท่านั้น  
            เป็นวันที่มนุษย์สมานฉันท์กับสิ่งลี้ลับ ซ้ำยังแต่งตัวเลียนแบบ ถอดพิมพ์มาทุกกระเบียดนิ้วจนเหมือนอย่างกับแกะ 
ความหมายที่แท้จริงของวันฮาโลวีนถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา กลายเป็นเพียงเทศกาลปล่อยผีที่ไม่ว่าใครหรือช่วงอายุไหนก็สามารถเข้าร่วมได้และไม่มีกฎตายตัวให้ปฏิบัติตาม ร่วมสนุกเพื่อความบันเทิง จะแต่งกายเลียนแบบคาแรคเตอร์ตัวละครตัวโปรดก็ย่อมได้ ขอแค่ไม่ไล่ฆ่าคนตามบทบาทฆาตกร หลอกหลอนเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแต่พอดีและมีขอบเขต   
ปาร์คชานยอลกับโอเซฮุนก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมแต่งคอสเพลย์และเดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนนโดยที่ไม่มีใครสักคนจำได้ว่าเป็นคนดัง ทั้งคู่ได้หน้ากากยอดมนุษย์ช่วยไว้และมันก็ทำให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้นกว่าเดิมเป็นกอง พอไม่ต้องเป็นตัวเองแล้วก็สนุกดี มีอิสรเสรีที่จะกระทำอะไรก็ได้ 
เดดพูลตัวสูงใหญ่ในชุดยูนิฟอร์มเต็มยศกับสไปเดอร์แมนไหล่กว้างที่สวมชุดรัดจนเห็นสัดส่วนชวนกันบุกเมืองที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คนอย่างสันติ เดินไปตามทางที่คับคั่งด้วยนักท่องเที่ยวและยอมให้คนแปลกหน้าเกี่ยวแขนถ่ายรูปโดยไม่คิดเงินสักวอน ไม่ว่าจะเป็นลูกเด็กเล็กแดง ผู้หญิงหรือผู้ชายต่างก็เดินเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและไม่นึกว่าตัวเองกำลังโชคดีแบบสุด ๆ เรียกว่าทำบุญมาดี แต่ทุกอย่างก็มีเวลาจำกัดของมันเสมอ
ชั่วโมงคืนความสุขให้แก่ประชาชนไม่คงอยู่ตลอดไป
หลังจากตะเวนเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศและเป็นแบบให้คนอื่นลั่นชัตเตอร์ใส่จนผิวกายใต้ร่มผ้าแอบชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อเวลาล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่ก็ตัดสินใจกลับ เพิ่งคิดถึงใจหัวหน้าวงที่คงไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่แอบออกมาเล่นซนในยามวิกาล
ชานยอลขึ้นนั่งประจำตำแหน่งพลขับก่อนแล้วค่อยถอดหน้ากากจนเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลา ส่วนเซฮุนถอดหน้ากากก่อนจะเข้ามานั่งในรถและบ่นว่าร้อนตามประสา อยากจะกลับหอเต็มแก่ คนอายุมากกว่าเลยแหย่ว่าถ้ารีบนักทำไมไม่พ่นหยอกไย่แมงมุมออกมา
ถ้ามันทำได้ผมทำไปแล้วฮยอง  ตลอดทางทั้งสองคนเอาแต่พูดจ้อไม่หยุด เสียงก้องห้องโดยสาร มีแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่กวนประสาทกันไปมา นอกนั้นอะไรก็ฉุดไม่อยู่เมื่อพูดถึงความตื่นเต้นจากการที่กลัวว่าจะมีคนจับได้ ไหนจะเหตุการณ์ประหลาด ๆ ที่เกิดขึ้นภายในสองสามชั่วโมงก่อน ทั้งตลกทั้งชวนพิศวง คงเป็นประสบการณ์ที่อย่างมาก็มีได้แค่ปีละครั้ง   
ฝันดีฮยอง
น้องเล็กเซฮุนที่เดินนำร่องผ่านเข้าประตูห้องก่อนร้องบอกคนเดินตามที่กำลังจะเหยียบธรณีประตู แต่จู่ ๆ ก็เดินถอยหลังออกมาเมื่อหางตาเหลือบเห็นบางอย่างตรงทางประตูบันไดหนีไฟ เห็นข้างหลังของผู้หญิงผมยาวในชุดนอนสีขาวเปื้อนเลือดเป็นดวงด้าง
คนพบเจอกับเหตุการณ์ระทึกขวัญหายจากอาการง่วงเหงาหาวนอนเป็นปลิดทิ้ง ขณะยืนนิ่งงัน ขนอ่อนก็ลุกชันอย่างพร้อมเพียง ความกลัวเข้ามาครอบงำจิตใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และคิดเป็นตุเป็นตะไปแล้วว่านั่นคือวิญญาณเร่ร่อน แต่แล้วชานยอลก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความฉงนเมื่อสิ่งที่ไม่รู้ว่าตกลงเป็นคนหรือผีมีเสี้ยวหน้าด้านข้างคุ้น ๆ ตา คับคล้ายคับคลาว่าจะเป็นคนรู้จัก แม้จะมีเมคอัพบดบังก็ยังพอเห็นเคล้าลางเดิม
ชานยอลตัดสินใจสวมหน้ากากอีกครั้ง ความสงสัยผลักดันให้เริ่มออกเดินอย่างไม่รีบร้อนตอนที่หญิงสาวปริศนาเองก็เคลื่อนไหวเช่นกัน มือเรียวเปิดประตูบันไดหนีไฟและก้าวนำไปหลายวา มือใหญ่ภายใต้ถุงมือคว้าบานประตูที่ใกล้ปิดตัวลงไว้ได้ทันและเดินตามลงบันไดโดยทิ้งระยะห่าง ระหว่างมองด้านหลังที่บอบบางก็นึกชื่อคนที่เคยผ่านตาไปด้วย เจ้าตุ๊กตากระต่ายที่ถูกลากและกระเด้งไปตามขั้นปูนที่ค่อนข้างชันเหมือนจะช่วยเตือนความจำ แต่สุดท้ายก็เก็บงำคำตอบมาจนถึงลานจอดรถที่ปลอดคน อดกลั้นที่จะไม่หัวเราะ ขอยิ้มมุมปากแทนก็แล้วกัน    
            ติดใจการแต่งหญิงแล้วหรือไง พยอนแบคฮยอน 
            ชื่อบุคคลที่สามทำเอาหญิงสาวนิรนามหยุดอยู่กับที่ แล้วแทนที่จะเล่นบทวิญญาณอาฆาตที่ต้องการมาทวงความยุติธรรมต่อไป กลับเฉลยปมง่าย ๆ แถมไม่มีการหักมุมให้พอขวัญผวา  ประเด็นคือร่างบางหลอกล่อให้อีกคนออกมาจากถ้ำได้สำเร็จแล้วต่างหาก 
ว้า ถูกจับได้แล้วเหรอเนี่ย
            แบคฮยอนกลับหลังหัน พอดีกับที่ชานยอลเดินเข้ามาประชิดและถึงจะมีหน้ากากปิดหน้า คนตัวเล็กกว่าก็เชื่อว่าอีกคนกำลังมองหน้าตนอยู่อย่างแน่นอน  ฉันจะเล่นหลอกผีบ้างไม่ได้หรือไง ทีพวกนายสองคนยังแอบหนีไปเที่ยวเล่นข้างนอกเลย” 
            “น้อยใจ…?”
พูดอะไรนะ ฉันได้ยินไม่ถนัด”  รีบทัดผมที่ยาวปะบ่าแล้วหันใบหูเข้าหาอีกคนหวังจะให้ช่วยพูดทวนอีกรอบ ซึ่งเสียงทุ้มก็ยอมเปล่งอีกครั้งแต่เป็นประโยคที่ต่างออกไป 
คิดถึงกันละสิ”  คราวนี้กระซิบชิดใบหู ดูสิว่าจะยังแกล้งไม่ได้ยินอยู่ไหม
ร่างบางที่ถูกจับไต๋ได้และขี้เกียจจะประวิงเวลาต่อไปใช้การกระทำที่แสนอุกอาจตอบแทนว่าคิดถึงแทบขาดใจ ก่อนจะสมมาดนางร้ายผู้กร้านโลก ดึงชุดนอนลงจากไหล่เล็กน้อย กะตำแหน่งของริมฝีปากหนาก่อนจะเขย่งเท้าแล้วค่อยประกบจูบกับผ้าที่แนบเป็นเนื้อเดียวกับรูปหน้าสมสัดส่วนอย่างนาบแน่นและคว้าท่อนแขนยาวมาโอบรอบเอวตัวเอง
ระหว่างละเลงริมฝีปากกับความสากของของเนื้อผ้าจนเสียรูปทรง มีการลงลิ้นอย่างยั่วยวน เชิญชวนอย่างตรงไปตรงมาด้วยการดุนปลายลิ้นกับความนูนที่ขึ้นรูปร่างอย่างชัดเจน
จนอีกคนไม่สามารถทนเฉย เอ่ยเสียงทุ้มต่ำลอดมาตามตะเข็บผ้า    
ถอดหน้ากากให้หน่อย”  บ่อยครั้งการเป็นคนดังก็บังคับให้ต้องสวมหน้ากากเวลาอยู่ต่อหน้าธารกำนัล แต่กับคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ชานยอลไม่จำเป็นต้องหาอะไรมาสวมใส่เพื่อปกปิดตัวตน สามารถเปิดอกและเปลือยกายได้อย่างสนิทใจ ไม่ต้องพยายามเป็นใครที่ไม่อยากเป็น
อยู่ด้วยกันมาจนรู้เช่นเห็นชาติ แค่อ่านสายตาก็รู้ถึงนัยยะสำคัญ   
ขนาดมีผ้าขวาง ก็ยังรู้ว่าแบคฮยอนปรารถนาถึงสิ่งใด
นัยน์ตาวาววับประดับด้วยความซื่อตรงต่อเรื่องทางโลกที่ปกติใครเขาก็ทำกัน พอปาร์คชานยอลอยู่ในชุดสุดเท่แบบนี้ยิ่งใจระส่ำ อยากตกอยู่ในอันตรายเพื่อให้พ่อซุปเปอร์ฮีโร่ปกป้อง แค่ลองวาดภาพกล้ามเนื้อที่ซ่อนอยู่ภายใต้ร่มผ้าแล้วหน้าแก้มก็เห่อร้อน ใจจริงอยากช่วยถอดมากกว่าหน้ากาก แต่ก็ยังพยายามสงวนท่าทีไว้จนวินาทีสุดท้าย
ร่างบางเลิกหน้ากากขึ้นจนเผยให้เห็นริมฝีปากที่กำลังเคลื่อนไหว  
ไปขโมยลิปสติกสีแดงใครที่ไหนมาทา
จิ๊กมาจากโคดี้นูนา”  ลอยหน้าลอยตาตอบอย่างภาคภูมิใจ ชุดนอนที่ใส่กับวิกก็ซื้อต่อมาจากช่างแต่งหน้าประจำวงเหมือนกัน ส่วนสีแดงชานบนชุดเป็นสีน้ำแอบทำอยู่ตั้งนาน    
แล้วนี่แต่งเป็นผีอะไร ให้ทายเป็นผีตายท้องกลมชัวร์
เดี๋ยวเถอะ”  ก่อนจะเจอฤทธิ์เดชของผีตายท้องกลมจัดการ ชานยอลก็ฉวยโอกาสประกบปาก เสียงจุ๊บดังจ๊วบตามด้วยเสียงหัวเราะแผ่วเบา สองกลีบปากต่างขนาดกระเซ้าเย้าแหย่กันไปมา ไล่งับกับกัดตอบระคนทีเล่นทีจริง แต่ถ้าเหลือบมองสิ่งที่สะท้อนอยู่ในแววตาจะรู้ว่าทั้งคู่พร้อมกระโจนใส่กันมากกว่าที่ใครจะจินตนาการภาพออก         
จูบครั้งแรกเป็นแค่การหยอกล้อธรรมดา ครั้งที่สองสิเรียกว่าเอาจริง
อย่างหนึ่งที่เรียนรู้ได้จากการจูบกันบ่อย ๆ คือจะไม่มีใครยอมถอยก่อนเพราะต่างก็ร้อนวิชาจากประสบการณ์คราวที่แล้ว จนแว่วเสียงดังกังวาน ดูดดื่มชนิดที่ว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าโลกจะแตกเลยต้องกอบโกยเสบียงเพื่อกักตุน ถ้ากลีบปากพูดได้มันคงรีบระบายความอัดอั้นผ่านเสียงสั่นเครือว่าพอทีพวกกลัดมัน ฉันเจ็บปวดจากการโดนเสียดสีเหลือเกิน ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อรับแรงบดขยี้ขนาดนี้นะ เพลา ๆ ลงหน่อยเถอะ ถือว่าขอ
แต่เหมือนว่าเสียงอ้อนวอนจะดังไม่พอกลบเสียงครวญคราง แล้วก็กลายเป็นถูกมองข้าม พวกหักห้ามใจไม่เป็นมีหรือที่จะจู่ ๆ ก็เกิดความเห็นใจคนอื่นขึ้นมา มีแต่จะเตลิดไปกันใหญ่เพราะไม่มีใครคิดหยุดใคร ณ วินาทีต่างก็เอาความพึงพอใจเป็นที่ตั้ง 
ชานยอลรีบดึงหน้ากากที่ค้างเติ่งบริเวณสันจมูกออกทางหัวอย่างรวดเร็วแล้วค่อยดันร่างบางเข้าหาเสาปูนเพื่อหลบมุมกล้องวงจรปิด
ก่อนดวงหน้าที่ซีดเพราะแป้งเบอร์ขาวสุดจะเต็มไปด้วยจุดด่างพร้อยสีแดงฉาน ริมฝีปากหนาที่เปื้อนคราบลิปสติกบดกับทุกอณูผิวละเอียดที่เคลื่อนผ่าน ละเลียดรสชาติเนื้อสดที่ควรจะเหม็นคาวแต่กลับหอมชุ่ยราวกับผ่านการปรุงสุกมาอย่างถูกวิธี    
แบคฮยอนไม่ต่างจากเนื้อที่ถูกความร้อนตุ๋นจนเปื่อย เนื้อตัวห้อมล้อมไปด้วยไฟอุณหภูมิหลายสิบองศา ร้อนรนจนใกล้ได้เวลาพร้อมรับประทาน
ชานยอลปอกเปลือกชั้นนอก ค่อย ๆ ลอกคราบจนหัวไหล่ขาวนวลลอยเด่นแตะตาและเกือบจะจับร่างบางแก้ผ้าท้าลมหนาวอยู่แล้วเชียวถ้าไม่มีเสียงร้องเดี๋ยวขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน    
เดินล่อฉันมาตั้งไกลไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอกเหรอ 
ถามด้วยความไม่เข้าใจในขณะที่มือไม้ยังรุงรัง ริมฝีปากเองก็ป้วนเปี้ยนแถวแอ่งชีพจร กอดรัดร่างผอมบางจนกระดูกแทบหักคาวงแขน แน่นพอ ๆ กับตอนที่แก่นกายถูกความอ่อนนุ่มล้อมหน้าล้อมหลัง ส่วนร่างบางก็ดึงเสื้อที่ตกลงจากไหล่ขึ้นมาแล้วรีบเสนออะไรที่มันรุดกุมขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็ดีกว่าการทำในที่โล่งแจ้ง เหยียดแข้งเหยียดขาลำบากก็ยังพอทนไหว           ในรถ…?”
เสียงปลดล็อกดังขึ้นทันทีเหมือนอีกคนรอฟังประโยคนี้มาโดยตลอด
แบคฮยอนได้รับอนุญาตให้ทำเลอะเทอะได้ตามสบายแลกกับการให้เจ้าของรถจับและลูบคลำตามเรือนร่างกึ่งเปลือยนิด ๆ หน่อย ๆ จากน้อยไปมากตามลำดับ แล้วลามไปถึงการซุกไซ้ ผู้ชายสองคนยึดเบาะหลังเป็นเวทีแสดงหนังสด อิงบทหญิงสาวที่ถูกยอดมนุษย์ช่วยไว้จากเหล่าร้ายและกำลังตอบแทนแก่ความมีน้ำใจนั้นด้วยการหันกลับหลัง ก่อนจะนั่งทับดาบขนาดย่อของพ่อเดดพูลที่ปลดยูนิฟอร์มกองไว้กับหัวเข่า     
            หญิงสาวที่มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะทดสอบสมรรถภาพและความอึดของซุปเปอร์ฮีโร่หัวใจพองโตและตื่นเต้นเกิดบรรยายระหว่างยักย้ายสะโพกเล็กน้อย ค่อย ๆ นาบแก้มก้นกับต้นขาหนา กระตุ้นความกำหนัดด้วยการลงน้ำหนักและถูไถ ก่อนจะถูกฟาดเข้าที่บั้นท้ายดังเพี้ยะ
            โทษฐานทำตัวร่านสวาทและน่าหมั่นไส้ ชานยอลไม่ปล่อยให้คนร้ายกาจลอยนวลได้นาน ในนามของผู้ผดุงคุณธรรมจึงจับร่างบางสำเร็จโทษท่ามกลามเสียงโอดครวญไม่เป็นประโยค สะโพกมนถูกดันขึ้นพอให้อวัยวะที่ยื่นออกจากร่างกายได้มีโอกาสตั้งตรง แก่นกายสูดอากาศปลอดโปร่งเข้าไปจนพอง แล้วกระบองนั้นก็ถูกใช้ฟาดก้นกลมกลึงอีกหลายที
หลังจากลีลาอยู่นาทีกว่า เสียงเอะอะโวยวายกลายเป็นเสียงเครือเมื่อค่อย ๆ ทิ้งตัวบนหน้าตักแข็ง แบคฮยอนเสียจริตไปชั่วขณะเพราะขนาดที่ไม่ใช่เล่น ๆ ของอีกคน แก่นกายค่อย ๆ กลืนหายไปตรงหว่างก้น โดนกินจนไม่เหลือหลักฐานและถูกความแน่นตอดรัดจนเส้นประสาทในสมองตึงเครียดไปหมด เสียวซ่านตั้งแต่เส้นผมจรดปลายนิ้วเท้า
ว่ากันว่าถ้าเป็นทั้งนักร้องและนักเต้นจะเก่งการเข้าจังหวะ อาจจะมีคร่อมคีย์บ้างแต่ก็เป็นแค่เฉพาะช่วงที่ยังเพิ่งเริ่มต้น พอพ้นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไป อะไร ๆ ก็ลื่นไหลอย่างกับได้น้ำมันมาหล่อเลี้ยง จังหวะที่เคยสะดุดและติดขัดจนน่าหงุดหงิดใจถูกการเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วเข้าแทนที่ หมดแล้วซึ่งยางอาย วางศักดิ์ศรีไว้นอกรถและเหลือไว้แค่คนร่านรัก
แบคฮยอนขยับสะโพกอย่างเอาเป็นเอาตาย เรียกว่ากำลังเมามันเห็นจะได้
ส่วนชานยอลที่เป็นฝ่ายอยู่เฉยก็เอาแต่เอื้อนเอ่ยไม่เป็นภาษา แหงนหน้ามองเพดานรถตอลอยแล้วค่อยปิดเปลือกตา ดื่มด่ำกับเรื่องอย่างว่าจนหนำใจพลางคิดอะไรพิเรนทร์ ๆ ออก ลืมตามองก้นที่ยักย้ายทำงานสายตัวแทบขาดแล้วฟาดแรง ๆ จนผิวบริเวณนั้นแดงระเรื่อ
มือใหญ่ควานหาหน้ากากแล้วสวมมันอีกครั้งอย่างนึกสนุกและเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกโดยไม่บอกร่างบางสักคำ กลับมานั่งหลังเหยียดตรงแล้วยึดเอวคอดของคนร้องเสียงหลงไว้ เจอสวนคืนเข้าไปถึงกลับน้ำลายฟูมปาก นั่งไม่ติดเบาะเพราะเจ้าของแก่นกายที่ให้ยืมขย่มในตอนแรกจู่ ๆ ก็แย่งอำนาจการควบคุมไปหน้าตาเฉยและลงเอยที่ระบอบเผด็จการ  
แข็งแกร่งไปทุกส่วน แม้แต่หัวจรวดขัดเงาก็ไร้เทียมทานสมคำล่ำลือ  
ฝ่ามือเรียววางบนหัวเข่าด้านเมื่อต้องการที่ยึดเหนี่ยว เหลียวมองหน้ากากเดดพูลด้วยสายตาออดอ้อนยามก้นกลมกลึงกระเด้งไม่หยุดหย่อน แบคฮยอนเอนตัวไปข้างหน้าและคว้าอะไรสะเปะสะปะ แนบฝ่ามือกับหน้าต่างรถบ้าง หาที่วางมืออย่างร้อนรนจนหนัก ๆ เข้าก็ยึดเบาะฝั่งผู้โดยสารกับคนขับไว้แล้วปล่อยร่างกายไปตามธรรมชาติ
ร่างบางไม่อาจฝืนชะตากรรมยามที่ชานยอลล็อกเอวด้วยมือข้างหนึ่งและอีกข้างใช้คลึงบั้นท้ายอวบอิ่ม บีบระคนเค้น แหวกร่องก้นเพราะอยากจะเห็นตอนของสงวนของตัวเองถูกกลืนกินอย่างโหดร้ายต่อหน้าต่อตา นั่นทำให้อารมณ์ยิ่งพุ่งพล่านเกินทานทนจนเผลอปลดปล่อย
แรงกระแทกไม่น้อยทำเอาแบคฮยอนตัวโยน ขนลุกและหวาดผวา ร่างกายพุ่งไปข้างหน้า ดีว่ายังยึดเบาะหนังไว้และร่างบางไม่รู้จะแก้เผ็ดกับความรุนแรงนี้อย่างไรจึงป้ายน้ำลายลงบนเกียร์ ลดหน้าลงเลียมันเสมือนว่ากำลังเลียไอ้นั้น จนชานยอลหลุบมองด้วยสายตาอาฆาต หวงของน่ะก็ใช่และของที่ว่าก็ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ติดมากับรถ แต่เป็นคนช่างยั่วต่างหาก
สะโพกมนถูกดันไปมาอีกครั้งอย่างเนิบนาบ เรือนกายล่อนจ้อนเขยื้อนตามการชักนำ โยวหน้าโยวหลังชั่วครู่แล้วจู่ ๆ แรงผลักนั้นก็หายไป ที่หยุดกลางครันเพราะไม่พอใจเอามาก ๆ  
ดูดเพลินเลยนะ”  น้ำเสียงเหน็บแนมลอยมาแต่ไกล
            จนแบคฮยอนยอมคายเกียร์ที่กำลังอมเล่น  อิจฉาก็บอก”  สวนด้วยเสียงสองที่ดัดมาเพื่อกวนประสาทด้วยเฉพาะ หันกลับมาเห็นอีกคนถอดหน้ากากนั่งหน้างอก็หัวเราะเบา ๆ
ร่างบางค่อย ๆ ลุกขึ้นเพื่อเปลี่ยนท่า ขาที่ถ่างยังหุบไม่ลงทรุดลงตรงที่วางเท้าก่อนจะคว้าเจ้าโลกมาลูบหัวปลอบใจและมองด้วยสายตาเอ็นดู  ขอโทษนะที่ฉันละเลยนายไป”  พูดกับแก่นกายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วเค้นด้วยมือตั้งแต่โคนขึ้นมาอย่างชำนาญ
มีการจูบส่วนปลายด้วยความรักแล้วระหว่างที่ใช้ปากอมจนแก้มตอบก็ช้อนสายตามองสีหน้าชื่นชอบและพออกพอใจของชานยอลไปด้วย การง้อแบบถึงเนื้อถึงตัวช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นอย่างประหลาดและมันดีมาก ๆ ทุกครั้งที่ร่างบางใช้ลิ้นอย่างแพรวพราว
มือสาวแก่นกายแล้วใช้ปากรูด ดูดจนเกิดเสียง เอียงหน้าแทะไอตินโคนอย่างเอร็ดอร่อยแล้วค่อยถุยน้ำลายรดจนชุ่มฉ่ำ ก่อนจะวนกลับไปที่การอมเต็มปากเต็มคำ จนเกือบทำชานยอลหลั่งคาปาก ดีว่าชักออกมาทัน น้ำสีขาวขุ่นจึงแตกกระจัดกระจายบนใบหน้าขาวนวลแทน  
แก่นกายที่ยังรักษาขนาดเดิมไว้ได้เสมอต้นเสมอปลายถูกจับยึดไว้มั่นอีกครั้งหลังเจ้าของมือเขยิบขึ้นมาคุกเข่าคร่อมหน้าตักและต่างคนต่างมองไอ้นั้นโดนเขมือบอย่างเลือดเย็นจนหายไปทั้งแท่ง ความแข็งแรงแยงอยู่ตรงหว่างขา ค้ำจนต้องอ้ากว้าง ๆ แล้วค่อยทิ้งน้ำหนักนั่งลงรวดเดียวอย่างไม่กลัวว่าความเสียวจะเล่นงานจนเกือบเป็นบ้า
แบคฮยอนเริ่มขยับ ให้ความตีบปรับตัวและอยู่ร่วมกับสิ่งแปลกปลอมให้ได้    
ค่อย ๆ ขย่มน้องชายที่ชานยอลรักนักนักหนา จำลองภาพในห้องว่าตัวเองกำลังควบอาชาไนยที่แสนพยศจนนานวันเข้ามันก็ยอมสิโรราบให้กับความมุมานะ ร่างบางเป็นตัวอย่างของคนที่พยายามจนได้ดิบได้ดี หากมีความมุ่งมั่นสักวันก็จะได้รับการตอบแทนที่น่าพึงพอใจ  
เหมือนการที่ได้ปาร์คชานยอลมาครอบครอง ผู้ชายมองโลกในแง่ดีที่ใช้ฟันคมกัดเนื้อติดมันจนจมเขี้ยว ชอบเกี้ยวพาราสีทางสายตาขณะมือไม้ไวอย่าบอกใคร เผลอแป๊บเดียวก็คว้าหัวใจดวงน้อยไปถือ พยอนแบคฮยอนกลายเป็นลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตายจะคลายยิ่งทรมาน
            มือใหญ่จับผมยาวทัดใบหูขาวให้อย่างอ่อนโยน หลังจากจดจ้องเมียงมองกันอยู่เล็กน้อย สองใบหน้าค่อยเคลื่อนเข้าใกล้กันและกระชับความสัมพันธ์ด้วยการใช้ทูตพิเศษ ต้อนรับอย่างเป็นมิตรแล้วหาน้ำหวานให้กินเสร็จสรรพ
ช่วงบนปรากฏบรรยากาศชวนฝันขัดกับช่วงล่างที่ยังประกอบกิจกามอย่างดุเดือด  
ณ ลานจอดรถที่เงียบสงัด มีรถคันหนึ่งกำลังโคลงแคลงราวกับถูกคลื่นลูกใหญ่ซัดอยู่ตลอด ดูจากภาพในกล้องวงจรปิดนึกว่ามีแผ่นดินไหว วิญญาณเฮี้ยนทำรถสั่นสะเทือนไปทั้งคัน 
           ตำนานรถผีสิงจะเป็นที่โจษจัน 
           เช้าวันพรุ่งนี้พวกผีไม่มัวจะต้องได้รับรู้เรื่องนี้กันอย่างทั่วถึง!   












ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
 มัวมาก เรียกว่าไปกันคนละทิศคนละทาง ประเด็นหลักไม่มีอะไร แค่คนแต่งมันอยากแต่งเอ็นซีเท่านั้นจ๊ะ555555555555555555 มาสั้นๆ กรุบกริบ หวังว่าจะถูกใจกันเด้อ 

hashtag #fcuncenfic

วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2560

[OS21+/CHANBAEK] 13-25 (ชื่อชั่วคราว) 150% (อย่าลืมเลื่อนลงอ่านทอร์ค)






ลมอะไรหอบแกมาวะไอ้เสือ
แค่เบื่อ ๆ น่ะ
เลยถ่อสังขารมาถึงบ้านนอก…?”
ก็ไม่เชิง ความจริงแกก็รู้เหตุผลที่ฉันมาดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
บอกตามตรงนะว่าฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น
แต่บริษัทจำเป็นต้องมีผู้สืบทอด
คนพวกนั้นก็เลยส่งที่ปรึกษาผู้เก่งกาจอย่างแกมาเกลี่ยกล่อมฉันสินะ
ปาร์คชานยอลลอบถอนหายใจเหนื่อยหน่ายกับความเป็นเด็กไม่รู้จักโตของเพื่อนรักวัยสามสิบห้าที่ละทิ้งสมบัติพัสถานมากมายของครอบครัวไว้ในเมืองกรุงแล้วมุ่งหน้ามาอาศัยในป่าดงพงไพรโดยให้เหตุผลว่าเบื่อความวุ่นวายและขยะแขยงความไม่เป็นมิตรของผู้คน
จะไม่มีใครสนใจเลยสักนิดหากชีวิตของคนอีกนับพันไม่ได้กำลังขึ้นอยู่กับผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงกันข้าม บริษัทใหญ่ยักษ์จะเดินหน้าลำบากหากขาดผู้นำที่ถูกวางตัวไว้แล้วตั้งแต่ถือกำเนิด ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองเกิดมาพร้อมกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและต้องยอมเห็นแก่ส่วนร่วมมากกว่า กลับกลายเป็นว่าเลือกความสุขส่วนตัว ระหกระเหินเดินทางมาไกลเพื่ออยู่กับต้นไม้ใบหญ้าที่ไม่ได้ให้อะไรมากไปกว่าออกซิเจนบริสุทธิ์ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้มนุษย์อีกหลายชีวิตมีกิน   
ลูกสาวแกเป็นยังไงบ้างวะ
อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง   
ใจคอแกจะไม่คุยเรื่องอื่นกับฉันเลยหรือไง
จนปัญญาจะต่อล้อต่อเถียง ทำได้เพียงไหลไปกับบทสนทนาหัวข้อใหม่  ก็สบายดี
เป็นสาวแล้วล่ะสิท่า
เด็กสมัยนี้โตไวจะตาย”  โดยเฉพาะพวกเด็กในเมืองที่เติบโตแบบก้าวกระโดดและใช้ชีวิตโลดโผนโจนทะยานเกินกว่าวัยในป่าคอนกรีตที่ไม่ได้มีแค่นายพราน ยังมีสิงสาราสัตว์อีกหลายชนิดที่พร้อมเป็นมิตรด้วยหรือพร้อมช่วยเหลือเพื่อลวงหลอกไปฆ่าจ้องจะเขมือบ    
ชานยอลยกแก้วกาแฟจิบไปพลางระหว่างกวาดสายตามองบริเวณบ้านโดยรอบที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ อากาศตรงชานระเบียงเย็นสบายจนหนุ่มใหญ่ค่อย ๆ ปล่อยใจไปกับสายลม ทรงผมที่เซตมาอย่างดีขยับเอื่อย ๆ เป็นจังหวะเดียวกับใบไม้ไหว  
แล้วไม่คิดจะหาแม่ใหม่ให้ลูกบ้างเหรอวะ
จะมีใครอยากแต่งงานกับพ่อหม้ายเมียตายบ้างล่ะ
ในกรณีของแกฉันว่ามีเยอะ” 
คำว่า พ่อหม้ายเมียตายไม่เหมาะกับคนที่บางวันก็รับจ๊อบเป็นนายแบบกิตติมศักดิ์เท่ากับคำว่า พ่อหม้ายพราวเสน่ห์ที่ใครเห็นเป็นอันต้องเหลียวหลังมอง ด้วยความที่หล่อเหลาเอาการจนต้องตาบรรดาช่างกล้องทั้งหลายจนได้ลงปกนิตยสารธุรกิจ บอกเล่าชีวิตส่วนตัวเล็กน้อยแค่พอให้น่าติดตาม อาชีพการงานที่มั่นคงช่วยส่งเสริมความภูมิฐาน จนผู้หญิงหลายคนแทบไม่สนใจประวัติที่ว่าเคยแต่งงานมาก่อน แค่อยากนอนทอดร่างให้ฟรี ๆ เพื่อทดสอบความชำนาญทางการเพศหลังได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างผ่านปากต่อปากว่าเด็ดนักเด็ดหนา   
มีตาก็หัดใช้มองซะบ้างสิวะ ผู้หญิงรอบตัวแกจ้องแต่จะจับแกกันทั้งนั้น
แต่ฉันไม่สนว่ะ”  ชานยอลยักไหล่ไม่ยี่ราระหว่างนั่งไขว้ห้าง ท่าทางเฉยชาขับให้ดูน่าหมั่นไส้ ใครคนอื่นมาเห็นเข้าคงไม่พ้นกลอกตาบนแต่เผอิญว่าอีกคนเป็นถึงสหาย ชินกับนิสัยใจคอเกินกว่าจะเก็บมาถือสาให้เป็นเรื่องเป็นราว ได้แต่ยิ้มเศร้าให้กับตัวเอง  อยากได้คนไหนก็แค่หิ้วขึ้นห้อง ชีวิตที่ไม่ต้องมีข้อผูกมัดคงมีความสุขกว่าเป็นไหน ๆ สินะ ฉันล่ะอิจฉาแกจริง ๆ
ก็หาผู้หญิงดี ๆ สักคนมาอยู่ด้วยกันซะสิ”  คนมีประสบการณ์แนะนำ
แล้วช่วงขยับเปลี่ยนท่านั่ง หางตาก็เหลือบเห็นใครบางคนอยู่ที่ด้านล่างกำลังเขย่งปลายเท้าเปล่าเดินบนยอดหญ้าระหว่างกำชายกระโปรงที่ยกขึ้นสูงถึงต้นขาไว้ ก่อนคนที่ดูอ่อนวัยกว่ามากจะยักย้ายร่างกายเชื่องช้าเสมือนดอกหญ้าต้องลมและเต้นรำท่ามกลางป่าเขียวขจี
ความขาวผ่องของผิวพรรณที่โผล่พ้นชุดสีขาวทำเอานัยน์ตาดำด้านไม่อาจละสายตา สรีระบอบบางช่างน่าหลงใหล ความพลิ้วไหวในการส่ายสะโพกตรึงใจเสือป่าผู้กระหายเนื้อสดได้อยู่หมัด จนชั่ววูบหนึ่งเกิดแรงพิศวาสกับคนที่กะขนาดตัวจากสายตาแล้วก็เข้าใจว่ายังเด็ก
ยามที่รู้สึกตัวว่ามีสายตาอื่นจดจ้อง สองขาเล็กก็หยุดขยับ หลังจากที่เอาแต่หลับตาเงยหน้าสู้แสงตะวันก็ได้ฤกษ์ลืมตาอวดสีเลนส์พร้อมกับเห็นว่ามีผู้ชายแปลกหน้านั่งมองลงมาจากชานระเบียงชั้นสอง นั่นนับเป็นครั้งแรกที่เห็นการมีตัวตนอยู่ของกันและกัน
แต่เพราะชานยอลอยู่สูงกว่าจึงมองดวงหน้าจิ้มลิ่มได้ถนัดถนี่ กลีบปากสีเชอรี่ชวนให้อยากชิมความเปรี้ยวอมหวาน แล้วความกำหนัดก็ถูกปลุกสัญชาตญาณดิบลุกฮือแค่เพราะมือเล็กถกชายกระโปรงขึ้นสูงกว่าเดิมและเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ร่างเล็กสร้างจังหวะขึ้นมาเอง เต้นตามบทเพลงล่องหนเพื่อทำการแสดงต้อนรับแขกที่มองตามความอ่อนเยาว์ตาไม่กะพริบ
ก่อนจะรีบออกปากถามเพื่อนด้วยความสนใจ
ยอมละสายตาออกชั่วคราว  เด็กนั่นใคร
เด็ก…?”  สหายย่นหัวคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ  “ไหน”  แล้วหันใบหน้ามองตามแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ไม่เห็นจะมีเด็กสักคนอย่างที่เพื่อนกล่าวถึงเลย  “แกตาฝาดแล้วละมั้ง
ถึงความว่างเปล่าจะเข้ามาแทนที่ที่ร่างเล็กเคยอยู่ แต่ชานยอลก็เชื่อว่าหูตาตัวเองไม่ได้ฝ้าฝางขนาดเห็นอะไรเป็นตุเป็นตะอยู่ตั้งนานสองนาน 
ฉันเห็นจริง ๆ เด็กผู้หญิงตัดผมสอยสั้นประมาณนี้
แต่ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวจำไม่ได้เหรอเพื่อน…”
ความจริงที่ต่างรู้กันดีทำให้ชานยอลกลายเป็นผู้ชายที่ช่างเพ้อฝันไปโดยปริยาย ประเด็นเห็นเด็กผู้หญิงปริศนาเป็นอันตกไป แต่ก็ไม่วายถูกเพื่อนล้อว่าสงสัยจะเห็นนางไม้ ให้ระวังตอนกลางคืนจะโดนหลอกไปฆ่าในป่า เสียงทุ้มต่ำตอบกลับติดตลกแค่ว่าจะระวังตัวไว้
แล้วหลังจากคุยกับสหายอีกไม่กี่ประโยค หนุ่มใหญ่ที่รู้สึกค้างคาใจก็ขอตัวลงมายังด้านล่าง อ้างว่าอยากสูญอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย ยืนมองซ้ายมองขวาแล้วค่อยนั่งยอง ๆ จ้องที่พื้นดินซึ่งปรากฏรอยเท้าเปล่าของมนุษย์ไม่ผิดแน่
ไอ้เสือ ฉันโทรบอกให้ป้าแม่บ้านเข้ามาจัดห้องให้แล้วนะ
เสียงตะโกนจากชั้นสองเรียกให้คนรีบลุกขึ้นยืนหันมองและพยักหน้าเป็นอันรับรู้
ตอนแรกการค้างคืนไม่ได้อยู่ในกำหนดการที่ชานยอลวางไว้ แต่เมื่อความอยากรู้อยากเห็นเป็นใหญ่กว่าความรู้สึกอะไรทั้งหมด ปกติเป็นคนสงสัยอะไรต้องได้คำตอบจึงยอมเสียงานเสียการหนึ่งวัน ค่อยกลับในวันถัดไปเพื่อแลกกับการที่อาจจะไม่หรือได้เจอกับเด็กผู้หญิงที่วิ่งหนีไปในตอนเที่ยงวันและฝากไว้เพียงรอยเท้าให้ดูต่างหน้า    
คุณพ่อโทรหาลูกสาวเพื่อแจ้งข่าวการเดินทางกลับที่เลื่อนออกไปและบอกฝันดีปิดท้าย ชานยอลที่สวมใส่ชุดนอนของสหายปิดไฟสีส้มพลางล้มตัวลงนอนบนเตียงห้าฟุตที่พอเหยียดขายาวก็สุดขอบเตียงพอดี เข้านอนไวแต่เวลาผ่านไปนับชั่วโมงก็ยังไม่มีวีแววว่าจะง่วง จนเวลาร่วงเลยเข้าสู่ตีหนึ่งก็ยังนอนตาค้าง คงเพราะแปลกที่แปลกทางตกกลางคืนจึงนอนไม่หลับ
ทำแค่ขยับตัวไปมาจนผ้าเสียดสีกันเกิดเสียงสวบสาบ พยายามข่มตาขณะหัวหนุนหมอนนอนตะแคงและเปลี่ยนเป็นนอนหงายเอามือก่ายหน้าผาก หลังจากลองนับแกะและไม่ได้ผล คนตาแจ้งจึงนอนฟังเสียงแมลงร้องในยามค่ำคืน แต่แล้วก็ลืมตาขึ้นอย่างกะทันหันทันทีที่ได้ยินเสียงย่างก้าวท่ามกลางความเงียบสงัด
สำหรับบ้านไม้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูจะส่งเสียงดังไปเสียหมด แล้วคนนอนอยู่ด้านในห้องรับรองก็เหมือนจะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินวนไปวนหน้าอยู่หน้าห้องของตัวเองและพาลคิดไปถึงเด็กผู้หญิงปริศนาแทนที่จะคิดว่าเป็นวิญญาณหรือพวกเหนือธรรมชาติอะไรทำนองนั้น  
ชานยอลไม่ใช่คนขวัญอ่อนแต่ก่อนจะเปิดประตูออกไปเผชิญหน้า หนุ่มใหญ่เสียเวลากับการทำตัวย่องเบาไปไม่น้อย กลัวว่าการบุ่มบ่ามจะทำให้คนอีกด้านของประตูตกใจแล้วเตลิดหนีไป แต่เมื่อลองเปิดประตูจริง ๆ กลับไม่พบแม้แต่มวลสารใด ๆ ไม่มีแต่เงาหรือควันเทาจาง ๆ
เกือบจะคิดว่าคงโดนสิ่งลี้ลับหลอกหลอนเข้าให้อย่างที่สหายกล่าวไว้ ถ้าเผอิญไม่ตาไวเห็นชายกระโปรงลากยาวละพื้นไปตามขั้นบันไดวนอย่างรีบร้อนและตอนถึงขั้นบันไดล่างสุด ร่างเล็กกลับหยุดยืนเฉยแล้วเงยหน้ามองชั่วครู่ ส่วนหนุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่บนบันไดขั้นสูงสุดกำลังลังเลว่าจะเอาอย่างไร แต่พอเห็นอีกคนออกเดินอีกครั้ง ใจก็สั่งให้เดินตามสลับกับวิ่งเป็นระยะ
เมื่อก่อนเคยภูมิใจกับช่วงขายาวของตัวเองแต่มาวันนี้กลับวิ่งตามเด็กไม่ทันเสียอย่างนั้น สงสัยเป็นอิทธิฤทธิ์ของนางไม้ที่ชำนาญการเดินป่ากว่าภูตผีตนไหนละมั้ง หนุ่มใหญ่มัวแต่ไล่ตามไม่หยุดหย่อน กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าอยู่กลางป่าก็ตอนฝ่าเท้าสัมผัสได้ถึงความชื้นของไอดินกับน้ำค้างบนยอดหญ้า ชานยอลหยุดชะงักเมื่อแผ่นหลังเล็กกลืนหายไปกับความมืด มีแค่ตัวเองที่ยืนโดดเด่นเป็นเสมือนต้นไม้อีกต้นท่ามกลางต้นไม้ขนาดสูงใหญ่กว่าหลายเท่า
ชายผู้หลงทางยืนต้านลมหนาว ก่อนแรงลมจะทำให้พวกใบไม้พร้อมใจกันสั่นไหวและโหยหวนราวกับกำลังต้อนรับการมาเยือนของแขกคนสำคัญ แล้วตอนนั้นเองแสงจันทร์ก็ทำให้นัยน์ตาดำด้านเห็นชายกระโปรงขาวปลิวไสวออกมาจากหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง รวมถึงเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างที่โผล่ออกมามองอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ และหวาดระแวง
นัยน์ตาสีเบียร์มองสำรวจคนแปลกหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า      
เดี๋ยวก่อนสิ  และตอนที่ทำท่าจะเดินเข้าใกล้ ร่างเล็กกลับตระหนกแล้วรีบย้ายไปหลบหลังต้นไม้อีกต้น จนชานยอลชักหงุดหงิด คิดเอาเองว่ากำลังโดนเด็กปั่นหัวเล่น  นี่ฉันไม่สนุกด้วยนะ”  ประกาศกร้าวเสียงดัง แถมชักสีหน้าดุ ให้รู้กันไปเลยว่ากำลังหัวเสียไม่น้อย  
แล้วมันก็ได้ผล ร่างเล็กยอมเดินออกจากหลังต้นไม้ แต่ไม่ใช่แค่เดินออกมาธรรมดา ๆ มือขาวค่อย ๆ ปลดชุดตัวยาวลงจากบ่าแคบ เลิกเล่นซ่อนแอบแล้วเปิดเผยตัวตนจนเห็นทรวดทรงองเอวนาฬิกาทราย      
เดี๋ยว…”
เปล่งเสียงห้ามได้ไม่เต็มปากนักเพราะกำลังงุนงง ตกลงร่างเล็กเป็นเด็กผู้ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าผู้หญิงหรอกเหรอ คนประจักษ์แจ้งยืนนิ่งอึ้งไปเพราะได้เห็นอวัยวะเพศเช่นเดียวกับที่ตัวเองมี ต่างกันก็แค่ที่เรื่องของขนาดเท่านั้น  เธอ…”



ต่อ




ชานยอลอึกอัก นึกไม่ออกว่าตัวเองอยากจะพูดอะไรต่อ ยิ่งพอสองขาขาวก้าวข้ามชุดที่หล่นลงแทบเท้าและเดินตัวเปล่าเล่าเปลือยเข้ามาหาโดยมีแสงจันทร์ฉายไฟตามมาติด ๆ ก็อดจะจินตนาการในเชิงอกุศลด้วยไม่ได้ ยอมรับว่าเป็นผู้ชายชอบของสวย ๆ งาม ๆ และเคยร่วมหลับนอนกับคนอายุน้อยกว่ามาบ้างเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคนล้วนเป็นแม่พันธุ์ที่มีเต้านม
แต่เดิมไม่ได้มีรสนิยมชายรักชาย ไม่ได้พิสมัยเพศเดียวกัน
นั่นคงเพราะยังไม่เคยได้พบเจอกับความงดงามที่แท้จริงต่างหาก ยิ่งได้กลิ่นหอมจาง ๆ โชยมาอาการไม่ต่างจากคนมึนเมา หูอือตาลายคล้ายจะมีอาการประสาทหลอนร่วมด้วย เจอความสวยของเห็ดป่าก็อยากจะลองเด็ดมากินโดยไม่ชะล้าใจว่าจะมีพิษหรือเปล่า ชานยอลไม่แน่ใจนักว่ามันคือกลิ่นแป้งหรือดอกไม้ แต่ที่มั่นใจอย่างมากคือกำลังมีอารมณ์กับเด็กคราวลูก
ร่างเล็กที่สูงไม่พ้นช่วงไหล่ยกมือลูบไล้บ่ากว้างอย่างสำรวจ ถือวิสาสะตรวจความแน่นของกล้ามหน้าท้องด้วยการเอาฝ่ามือทาบ จับต้องร่างกายตรงหน้าด้วยความสนอกสนใจราวกับว่าชานยอลเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เพิ่งค้นพบ มีการลองเอาหูแนบอกหนาเพื่อฟังเสียงจังหวะหัวใจเต้นแล้วเอนตัวซบ โน้มตัวและสวมกอดตอนที่คนอายุเยอะกว่ามากไม่ว่าอะไร
ทุกการกระทำแสนอันตรายตกอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอด มือกร้านยังแนบอยู่ที่ตะเข็บกางเกงนอนในยามที่เด็กน้อยคลอเคลียพวงแก้มกับอกซ้ายเพื่อแสวงหาไออุ่น ทั้งที่เลยช่วงวัยว้าวุ่นมาหลายปีดีดัก แต่ก็ยังไม่วายหวั่นไหวกะอีแค่เพราะแก้วตาใสแจ๋วช้อนมอง  
ชานยอลตัดสินใจยกมือแตะหัวไหล่มนแล้วดันคนตัวเล็กกว่าออกห่างอย่างช้า ๆ ตั้งใจว่าจะถามถึงชื่อเสียงเรียงนามและถามหาเหตุผลเพราะใจหนึ่งก็อยากรู้ว่าทำไมถึงได้กล้าเปลือยกายต่อหน้าคนไม่รู้จักมักจี่แบบนี้ แต่อีกใจกลับบอกว่าให้ช่างพิธีรีตองวุ่นวายไปเถอะ อุตส่าห์เจอของดีกลางป่า ถ้าปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปก็ไม่สมควรเรียกตัวเองว่าเสือ
ช่างความถูกต้องแล้วลองพินิจพิจารณา
สุดท้ายแรงตัณหาก็ชนะคำว่าศีลธรรมด้วยคะแนนที่ขาดลอย    
เรื่องราวลงเอยที่ชายอายุมากแพ้ทางและปล่อยให้เด็กเข้ามามีอิทธิพลในความคิด
รวมถึงเริ่มเข้าใจหัวอกพวกกามวิตถารที่ชอบมีเซ็กซ์กับเด็กรุ่นราวคราวหลานมากขึ้นตามลำดับและต่อให้บำเพ็ญเพียรภาวนามานานดั่งเช่นพระสงฆ์องค์เจ้า ก็ไม่มีอะไรรับรองว่าจะไม่ตบะแตกเพราะเรื่องคาวโลกีย์เข้าสักวัน 
ก่อนจิตใจหนุ่มใหญ่จะถูกความไวไฟของคนอายุน้อยกว่าเล่นงานอย่างจัง มัวแต่ยืนชั่งใจจนเปิดโอกาสให้เด็กที่ช่างแก่แดดแก่ลมและใจกล้าเกินวัยเขย่งปลายเท้าจนความสูงเพิ่มขึ้นหลายเซนติเมตรและพอให้กลีบปากสัมผัสกับความหนาที่ห้อยย้อยลงมาอย่างเป็นใจ  
ริมฝีปากที่อวบกว่าของชานยอลเอื้อความสะดวกให้กับคนความสูงน้อยจนพลอยได้ตวัดลิ้นแตะกลีบปากล่าง กระต่ายขาสั้นดันอยากกินผลไม้ที่อยู่สูงเพราะเชื่อว่าเป็นลูกที่หวานที่สุด จึงเหยียดขาสุดความยาว แต่นานเข้าเป้าหมายก็ยิ่งเคลื่อนห่างออกไป เด็กน้อยหารู้ไม่ว่ากำลังถูกผู้ใหญ่กลั่นแกล้ง ทีแรกยอมอ่อนข้อให้แต่แล้วก็เคลื่อนใบหน้าขึ้นทีละนิดจนร่างเล็กหมดสิทธิ์ไล่ตาม ต้องหดตัวกลับอย่างเก่าและยืนก้มหน้ามองปลายเท้าด้วยความเศร้าสร้อย
ไม่บ่อยนักที่ชานยอลจะเกิดความเอ็นดูกับใครสักคนและคน ๆ นั้นก็ดันเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดความปรารถนาอันแรงกล้า หนุ่มใหญ่หลุบตามองสองมือเล็กที่กำชายเสื้อตนไว้ด้วยสายตายากจะคาดเดาเจือความเจ้าชู้ระหว่างรับรู้ได้ถึงการบีบตัวของแก่นกาย
อวัยวะเพศเกิดการขยับขยายภายใต้ความเงียบงัน ดันกางเกงชั้นในราวกับกำลังมีใครเติมลมให้กับลูกโป่งแฟนซี ความหน่วงถ่วงสมองให้จดจ่อแต่กับเรื่องใต้สะดื้อจนผลีผลามสอดสองมือกร้านเข้ากุมแก้มเนียน บังคับให้เชิดคางแล้วบดเบียดกลีบปากกับอวัยวะอย่างเดียวกันอย่างแนบแน่นจนมันผิดรูปผิดร่าง
การจูบอย่างลึกซึ้งนำพาเกลียวลิ้นมาพบกันครึ่งทาง เพื่อนใหม่ทำความรู้จักกันและพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นคนรู้ใจภายในเวลาไม่กี่วินาที สนิทสนมจนกล้าที่จะกระทำการจาบจวงอย่างหื่นกระหาย ความมืดไม่ช่วยอำพรางท่าทางตะกละตะกลามของชานยอลที่ไล่งับริมผลเชอรี่แดงก่ำ ดูดดุนจนกว่าความหวานอมเปรี้ยวจะหมดไปในขณะที่เด็กน้อยเองก็พยายามจูบตอบอย่างเก้ ๆ กัง ๆ จำวิธีมาจากในคราวก่อน ๆ ถูกสอนมาอย่างไรก็ถ่ายทอดไปอย่างนั้น
แต่ความรุนแรงที่ถาโถมเข้าใส่ก็ทำร่างเล็กเกินจะต้านทานไหว ห่อไหล่หายใจหอบ จากสมยอมเริ่มบ่ายเบี่ยง เอียงหน้าหลบอย่างเอาแต่ใจ แสดงนิสัยแบบเด็กพิเศษที่ใครเห็นคงไม่ชอบนัก แต่สำหรับนักล่าไม่ว่าเหยื่อจะมาในรูปแบบไหนก็รู้วิธีจัดการอย่างแยบยล    
ชานยอลหิวโหยเหมือนคนไม่เคยมีอาหารอะไรตกถึงท้องมาก่อนและตอนนี้ก็พร้อมจะกระโดดลงสู่หลุมพราง ไม่สนหากแม้ทางข้างหน้ามีกับตะปูเรือใบรออยู่ รู้แค่ว่าปัจจุบันมันช่างหอมหวานเพียงไร จมูกโด่งซุกไซ้ดวงหน้าขาวลากยาวถึงช่วงลำคอระหง ป้ายน้ำลายสกปรกบนผิวเนียน ซ้ำยังชักชวนเด็กทำเรื่องน่าเกลียด อย่างการให้จับความเป็นชายที่ซ่อนเร้นอยู่ใต้ร่มผ้า
ยามที่ฝ่ามือเล็กสัมผัสของลับ ฝ่ามือกร้านเองก็ลูบคลำตามผิวกายละเอียดไปด้วย บีบผิวสวยและความเนียนนุ่มที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนอย่างหลงใหล ช่วงแขนยาวเปลี่ยนเป็นไม้เลื้อยพันรอบเอวคอด กอดไว้แล้วยกร่างเล็กขึ้นมายืนบนเท้าด้วยท่อนแขนเดียวอย่างง่ายดาย
ทำลายระยะห่าง ล่นระยะทางแสนไกลให้กลายเป็นใกล้จนหายใจรดกัน   
ชานยอลยอมให้ร่างเล็กนวดคลึงของสงวนแลกกับการลวนลามที่อุกอาจ เสียงหอบหายใจหนัก ๆ เริ่มดังชัดขึ้นระหว่างขยำผิวลื่นเล่น ใช้ฝ่ามือเค้นก้นงอนอย่างหนักหน่วง การล่วงเกินแสนป่าเถื่อนนำมาซึ่งเสียงครางอืออึงอย่างเคลิบเคลิ้มและผู้ใหญ่ก็ได้พบว่าเด็กน้อยมีกล่องเสียงที่ไพเราะแค่ไหน พอติดใจก็อยากได้ยินเสียงที่ดังกว่าเดิม เพิ่มแรงบดที่ง่ามนิ้วจนผิวบางเกิดรอยแดงเป็นปื้น
กลางค่ำกลางคืนมีเสียงของหนักตกลงบนพื้นดินถึงสองครั้ง
เสียงแรกเป็นของร่างเล็กที่ล้มลงนอนหงาย อ้าขาไม่อายฟ้าอายดิน
ส่วนอีกเสียงที่ได้ยินเป็นของหนุ่มใหญ่ที่ทรุดกายลงกว้างหว่างขาขาวโพลน
มือกร้านรีบถอดอาภรณ์ท่อนล่างเพื่อปลดปล่อยแก่นกายให้เป็นอิสระจากความอึดอัดก่อนจะพบว่าขนาดของตัวเองนั้นกำลังจะกลายเป็นปัญหาในอนาคตอันใกล้ คิดเผื่อไปถึงตอนร่วมรัก บวกกับเห็นแววตาใสซื่อของร่างเล็กที่กำลังนอนมองมาแล้วก็เกิดความละอาย
เหมือนจะได้สติกลับคืนมาแต่ว่ามันบางเบายิ่งกว่าเปลวไฟบนก้านไม้ขีดเสียอีก   
ยิ่งถ้าไม่รีบถอยห่างออกจากสิ่งยั่วยุ กิเลสตัณหาที่ซุกตัวอยู่ในสันดานก็พร้อมจะกลับมาทุกเมื่อและเพื่อรักษาความสดใสของเด็กคนหนึ่งไว้ ชานยอลเกิดกลับใจก่อนจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ ขณะร่างเล็กไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก ลุกขึ้นนั่งทับขายกนิ้วแตะระหว่างคิ้วที่ขมวดด้วยความสงสัย แล้วไล่ปลายนิ้วกับสันจมูกโด่งลงผ่านปาก จนถึงคางเรื่อยมายังกลางหว่างอก
ก่อนมือหนึ่งจะฉกฉวยอวัยวะสืบพันธุ์ขนาดใหญ่อย่างไม่มีอาการแตกตื่นใด ๆ แค่นั่งมองมือตัวเองขยับสาวตามความยาวด้วยนัยน์ตาเหม่อลอย แล้วความหม่นในแววตาก็ค่อย ๆ หลบฉากให้ความไร้เดียงสาเข้ามาที่ กลับมามีชีวิตชีวาระหว่างใช้อีกมือเลิกชายเสื้อยืดรัดรูปขึ้นแล้วยื่นปลายลิ้นแตะกับตุ่มไตสีเข้ม ห่อลิ้นยามลิ้มรสชาติความเค็มปะแล่ม ๆ ร่างเล็กแย้มยิ้มหยอดย้อยขณะแทะเล็มความกลมทีละนิดทีละหน่อยแล้วค่อยลองดูดดุนเล่นจนเกิดเป็นความเพลิดเพลิน
เด็กน้อยหัวเราะชอบใจ โดยหารู้ไม่ว่ากำลังทำให้ชายอีกคนเป็นทุกข์จากความสุขของการถูกปรนเปรอ ต้องอดทดอดกลั้นกับความต้องการที่ตีตื้นขึ้นมา ความปรารถนามันเหมือนกรดไหลย้อน มันทำเอาแสบร้อนไปทั้งทรวง 
อยากให้ฉันทำแบบนี้ใช่ไหม…”  จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยถามถึงความสมัครใจพร้อมยื่นมือสัมผัสอกน้อย ๆ โดยไม่ขออนุญาต บีบเนินนมขาวและลอบสังเกตอาการที่ชะงักไปราวกับโดนไฟช็อต ชานยอลเพิ่มน้ำหนักมือเพื่อกระตุ้นให้ร่างเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าจนผมบังตาพูดด้วย 
ตกลงชอบแบบนี้หรือเปล่า
แต่เด็กน้อยทำแค่พยักหน้าแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ผงกหัวน้อย ๆ แทนการตอบว่าชอบ  
หล่อ…” 
คำแรกที่เสียงหวานเลือกเปล่งออกมาทำเอาคนได้ยินประหลาดใจและหลุดหัวเราะ  
เหตุผลแค่เพราะฉันหล่อหรอกเหรอ
หล่อ”  ร่างเล็กย้ำคำเดิมอีกรอบเมื่อเข้าใจว่าคนฟังกำลังชอบใจ
มองรอยยิ้มกว้างด้วยนัยน์ตาเป็นประกายพลางยกมือขึ้นกุมใบหน้าสมสัดส่วนราวกับต้องมนต์สะกด แล้วจรดริมฝีปากกับปลายคางก่อนถอยออกมานั่งหน้าแดงก่ำ เขินอายราวกับคนกำลังมีความรักและยอมเอนตัวลงนอนอีกครั้งขณะมีเงาดำขนาดใหญ่พาดผ่านร่างกาย
ฉันมีดีกว่าหล่อนะรู้ไหม”  แล้วชายที่เคยกลัวโดนตั้งข้อหาก็ตัดสินใจฝ่าฝืนกฎหมาย ชานยอลถอดเสื้อยืดทันทีที่อยากจะแสดงให้ร่างเล็กเห็นว่าตัวเองไม่ได้เด่นแค่เรื่องหน้าตา
ลีลารักก็ไม่เป็นสองรองใคร
สายตาเจ้าเล่ห์ไล่มองร่างขาวผ่องที่หมองไปเล็กน้อยเพราะเศษดินสกปรก แล้วก้มลงจูบแถวกกหูขาว แทนที่จะเลือกจู่โจมอย่างรวดเร็วเหมือนในคราวแรกกลับให้เวลาร่างเล็กได้คุ้นเคยกับความรู้สึกแปลกใหม่ แค่ลดริมฝีปากลงงับตามผิวกาย พ่นลมหายใจเย็นชืดใส่ระหว่างรอไปพลาง ๆ จนร่างเล็กเริ่มนอนหลังไม่ติดพื้น เผลอแอ่นหน้าอกขึ้นทุกครั้งที่รู้สึกใจหายวาบ 
ชานยอลจูบละทาง ตั้งแต่กลางหว่างอกลงต่ำสู่บริเวณหน้าท้องที่ขยับตามจังหวะการหายใจที่ผิดปกติ ถึงจะมีประสบการณ์บนโลกมนุษย์ไม่เท่ากับอีกคนและบ่อยครั้งสับสนกับความรู้สึกตัวเอง แต่ร่างเล็กก็พอรู้อยู่บ้างว่าต้องทำอย่างไรความทรมานพวกนี้ถึงจะอันตรธานหายไป
ใครบางคนชอบพูดว่าความอยากแก้ได้ด้วยการลงมือทำยามที่ของสงวนถูกโพรงปากร้อนชื้นครอบครอง ดวงตาหยาดเยิ้มนอนมองผืนฟ้าที่วันนี้ไม่มีดาวสักดวงด้วยจิตใจที่เต้นระส่ำ กำมือไว้กับอกขณะที่รู้สึกเหมือนมีนกนับพันตัวบินว่อนในท้อง
ชานยอลลอบมองสีหน้าเป็นสุขจากหว่างขาขาว ระหว่างช่วยรีดน้ำออกจากความบวมเป่งก็รับรู้ได้ถึงน้ำหนักมือที่ขยุ้มเส้นผม ดูเหมือนเด็กน้อยจะคล้อยตามการเล้าโลมจนได้และนอนบิดกายไปมา อ้าปากพะงาบ ๆ มีเสียงครางแผ่ว ๆ ลอดมาตามกลีบปากที่เผยอ 
แต่เผลอแป๊บเดียวช่องว่างก็ถูกริมฝีปากหนาอุด ลิ้นใหญ่ดุนปากที่บวมเจ่อจนเปื่อยยุ่ย  
ตอนที่ลมกรรโชกแรงพัดผุยผงของเศษดินให้ปลิวว่อน สองกายล่อนจ้อนนอนกอดกันไว้เพื่อผ่านความเลอะเทอะไปด้วยกัน    
อ๊ะ…”
นิ้วที่ไม่ประสงค์ออกนามรุกล้ำเขตหวงห้ามอย่างค่อยเป็นค่อยไป
สอดใส่นิ้วแรกแล้วแหวกซอกหลืบให้กับนิ้วที่สองและสามตามลำดับ
จนเป็นเหตุให้ร่างเล็กผวา ทำท่าจะดิ้น แต่ติดที่ว่าผู้ใหญ่ควบคุมสถานการณ์ได้ดี    
ชานยอลเอ่ยคำขอโทษและคำสั้น ๆ ก็มีอิทธิพลพอจะทำให้คนหวาดกลัวอยู่ในโอวาท
ที่แตกตื่นก็เพราะไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ไม่เคยถึงขั้นตอนนี้เลยสักครั้ง
เพิ่งจะได้รู้จักกับความปวดร้าวไปทั้งโคนขาเป็นครั้งแรก เด็กน้อยรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกแยกส่วนเป็นสองชิ้น ส่วนผู้ใหญ่ก็ค้นพบว่าภายในช่องทางสีหวานไม่มีพื้นที่ว่างให้แก่นกายได้ดิ้นรนและโดนผนังอุ่นร้อนรุมตอดอย่างบ้าคลั่ง สิ่งแปลกปลอมถูกความหนาแน่นห้อมล้อมไว้จนต้องชะงักไว้กลางทาง พักยกเพื่อช่วยเช็ดหน้าให้กับคนนอนน้ำตาไหล  ชู่ว…”
เจ็บ”  ร่างเล็กฟ้องทั้งน้ำตาแล้วโน้มคอชานยอลลงมากอด  
งั้นเราพอแค่นี้กันดีไหม”  ชายผู้พ่ายแพ้ให้กับน้ำตาเสมอรีบถามและสัมผัสได้ว่าอีกคนกลิ้งคางไปมากับบ่าจนไม่รู้คำตอบแน่ชัดว่าตกลงเลือกอะไร  นี่ ขอฉันมองหน้าหน่อย
วงแขนเล็กยอมปล่อยคนที่กอดให้เป็นอิสระ  ตกลงทำหรือไม่ทำ  ชานยอลเปลี่ยนคำถามใหม่ ลดความซับซ้อนลงให้มากที่สุดเพื่อตัวคนตอบเอง เพราะใช่ว่าจับความเป็นเด็กพิเศษของอีกคนไม่ได้ เด็กชายผู้พิกลพิการทางสติปัญญากำลังจะทำให้ชายสติดีเป็นบ้าในที่สุด
จะให้หยุดหรือทำอะไรต่อก็ไม่เลือกพูดออกมาสักคำ ชานยอลจึงตัดสินใจลงมือทำอะไรโดยพลการ ดันแก่นกายฝ่าความคับแคบอีกครั้งท่ามกลางเสียงครวญครางลากยาว ร่างเล็กกรีดร้องแผ่วเบาคลอไปกับการเขยื้อนเข้าออกอย่างเชื่องช้า จิกเล็บมือกับหน้าดิน จิกเล็บตีนกับหญ้าขณะที่ความใหญ่โตถดถอยออกเพียงช่วงสั้น ๆ แล้วดันกลับเข้าไปใหม่รวดเดียว
ร่างเล็กนอนถ่างขาอยู่กึ่งกลางระหว่างความเสียวซ่านกับความทรมานจับใจ
น้ำตาไหลรินหยดแล้วหยดเล่าจนทำให้ชานยอลรู้สึกว่ากำลังเข้าข่ายขืนใจเด็กไปทุกขณะ แต่จะว่าเห็นแก่ตัวก็ได้ แทนที่จะล้มเลิกการทำผิดศีลธรรมไปซะ เสียงทุ้มต่ำกลับกระซิบกระซาบข้างใบหูเล็กว่าอดทดหน่อยนะ ช่วงแรกอาจจะเจ็บปวดรวดร้าวสักหน่อยแล้วเดี๋ยวทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้น ริมฝีปากหนาจูบซับตามกรอบหน้าที่เริ่มมีเหงื่อชื้นซึมประปราย ส่วนหนึ่งก็เผื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ซึ่งมันก็ได้ผลลัพธ์ดีเกินคาด เด็กน้อยหลงกลอุบายของปีศาจแฝงฝันจนหยาดน้ำตาค่อย ๆ เหือดแห้ง ระหว่างหลับตาแลกน้ำลาย พรหมจรรย์ก็ถูกคร่าอย่างไม่ปรานี
พอลองขยับบ่อย ๆ อะไรต่อมิอะไรก็เริ่มลงล็อก เกิดสภาพคล่องเอื้อต่อการเคลื่อนไหวเข้าออกจนสามารถเพิ่มความเร็วได้ แก่นกายทำลายความฝืนเคืองจนสิ้นซาก ซ้ำยังกระทบกระทั่งกับผนังอ่อนนุ่มอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงขึ้นในทุก ๆ วินาทีที่สติถูกบั่นทอน
ภาพร่างอ้อนแอ้นนอนบิดเร้าทำเอาคนเฝ้ามองแทบคลั่งและยากจะยั้งใจไม่ให้กระทำรุนแรง ท่อนแขนหนารีบช้อนใต้ข้อพับขาที่แหวกออกแล้วล็อกมือเหนือสะโพกผาย บังคับให้ร่างเล็กเขยื้อนกายเข้ามารับแรงกระแทกอย่างพอเหมาะพอเจาะและเพราะว่าความอดทนต่ำกว่า ไม่แปลกที่เด็กจะเกิดการปลดปล่อย แผ่นหลังเลอะกระตุกลอยขึ้นจากพื้นพอดีกับมีมือหนึ่งยื่นมาบีบเนินนมที่ตั้งเต้า ก่อนจะเข้าใจเสียใหม่ว่าเป็นริมฝีปากเมื่อสัมผัสได้ถึงปลายฟัน
ชานยอลฉุดร่างเล็กขึ้นมานั่งบนหน้าขาแล้วละเลงลิ้นลงบนตุ่มไตที่แอ่นให้ดูดอย่างลืมตัว เด็กน้อยเรียนรู้ที่จะมีชีวิตรอดโดยอาศัยสัญชาตญาณเป็นหลัก ปล่อยร่างกายไปตามกลไกที่ถูกวางระบบไว้จนกิริยาไม่ต่างอะไรกับโสเภณีผู้ร่านรัก ยังไม่ประสาเหมือนเดิมแต่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือเสน่ห์อันแพรวพราวที่เกิดขึ้นรวดเร็วราวกับเสกได้
ดอกไม้บานสะพรั่งเพราะได้ทั้งดินและน้ำรินรดอยู่ตลอดเวลา    
น้ำแรกแตกคาช่องทางลับนำพาความฉ่ำเยิ้มมาสู่ซอกหลืบ      
ชานยอลถอนแก่นกายออกในไม่กี่วินาทีถัดมาแล้วช่วยร่างเล็กจัดแจงท่วงท่าใหม่ ๆ กลับไปเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เดินสี่ขาหรือท่าหมาอย่างที่ใครเขาเรียกกัน มือกร้านช่วยปัดเศษดินตามผิวกายละเอียดออกให้แบบขอไปที เพราะไม่มีเวลามากนักจิตใจกำลังเตลิดเกินกว่าจะมานั่งทำอะไรอย่างประณีต ก่อนอวัยวะสืบพันธุ์ที่จ่อประชิดหว่างขาจะมุดหายเข้ากลีบเมฆ
เร่งเครื่องไม่นานรถก็สตาร์ทติดอย่างง่ายดาย ทั้งที่รู้เรื่องกฎหมายการจราจรดีแต่กลับขับขี่ด้วยความเร็วเกินกว่ากำหนด เหมือนรถที่เบรกแตกลงทางลาดชั้น รีบจับต้นขาเล็กไว้มั่น รั้งให้หยัดอยู่กับที่เดิมเมื่อแรงกระแทกกระทั้นเริ่มทำให้ร่างเล็กกระเถิบห่างออกไป  
เด็กน้อยยันหน้าผากไว้กับต้นไม้ยามร่างกายสั่นสะเทือนเกินควบคุม ฝ่ามือเล็กบุ๋มไปกับหน้าดินบ่งบอกว่าการร่วมรักเริ่มกินเวลาเข้าไปเรื่อย ๆ จนเมื่อยไปทั้งแขน หมาบ้านแหงนคอหอนเสียงดังลั่นป่าทั้งที่ไม่ใช่คืนวันพระจันทร์เพ็ญ ยิ่งใกล้เสร็จสมอารมณ์หมายเท่าไหร่ยิ่งได้ยินคำพูดไม่เป็นภาษายากจะถอดความ เสียงคำรามทุ้มต่ำในลำคอผสานกับเสียงหวานจนกลายเป็นท่วงทำนองไพเราะที่ฟังแล้วไม่รู้เบื่อขณะนัยน์ตาเยิ้มเงยมองใบไม้เหนือหัวด้วยความสงสัยว่ามันขยับอยู่ใช่ไหมหรือเป็นเพราะตัวเองถูกแก่นกายชักนำจนเห็นอะไรขยับไปเสียหมด
น้ำสองหลั่งรดบนแก้มก้นซ้ายแล้วไหลลงตามแนวดิ่งทิ้งตัวอย่างเชื่องช้า ส่วนคนไวกว่าไปถึงไหนต่อไหน ชานยอลไม่รอให้ร่างเล็กได้พักหายใจหายคอ ผู้ใหญ่มักมากขอต่อรอบใหม่แต่ก็ไม่ลืมนึกถึงใจเด็กที่เล็กเกินกว่าจะจินตนาการภาพท่าทางสัปดนเองออก      
นัยน์ตาสีเบียร์หันมองใบหน้าด้านข้างของคนช่วยจัดท่าทางอีกครั้งระหว่างยกแขนโอบรอบต้นไม้ ก่อนสองริมฝีปากที่อยู่ใกล้กันเหมือนน้ำมันกับไฟจะแนบสนิทเป็นเนื้อเดียว ชานยอลยันฝ่ามือหนึ่งกับต้นไม้ตอนเล่นน้ำลายเป็นเด็ก ตวัดปลายลิ้นกับลิ้นเล็กอย่างชำนาญแล้วค่อยดันไอ้นั้นเข้าในหว่างก้นและการเดินทางสุดรัญจวนใจก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
ความต้องการไม่ได้เกิดแล้วดับไปเหมือนร่างกายมนุษย์
มันคงอยู่และพร้อมประทุตลอดเวลา
ตัวอย่างก็อยู่ตรงหน้าแล้วนี่ไง  
กลีบปากต่างขนาดคลายความแน่นให้หลวมแล้วคืนอิสระให้กัน ร่างเล็กโอบกอดต้นไม้ไว้แน่นราวกับมันเป็นหมอนข้างแล้วหลับตาลงเพื่อที่จะฝันถึงวันอันแสนยาวนานที่เต็มไปด้วยความโสสมและส่งเสียงละเมอไม่ต่างจากจิ้งหรีดที่ร้องระงมในป่า   
ชานยอลเองก็หลับตาดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนหวาน ฟาดมือกับก้นงอนเป็นบางครั้งระหว่างเคลื่อนสะโพกสอบ เสือกแก่นกายเข้าไม่ออมแรงจนผิวบริเวณรอบช่องทางคับแคบแดงระเรื่อเจือความบอบช้ำ
ท่ามกลางป่าดงพงไพรเสียงลมหายใจกระชั้นชิด
มันดังถี่ขึ้นและถี่ขึ้นจนแม้แต่ตัวเองยังได้ยินเสียงของตัวเองชัดเจน
เสียงกัดฟันกรอดเด่นชัดอยู่ในโสตประสาท
ขนาดเสียงเหงื่อหยดลงบนดินยังดังกังวานได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แล้วเมื่อค่อย ๆ ลืมตา ท้องฟ้าก็ถูกบดบังด้วยเพดานไม้ ตอนนั้นเองที่หนุ่มใหญ่หายเคลิบเคลิ้มกับความสุขแล้วลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งและรีบควานมือหาอีกร่างที่เมื่อคืนจำได้ว่ายังนอนอยู่ตรงนี้ พอดีกับที่มีเสียงเคาะประตูห้องจากด้านนอกเบา ๆ แต่เจ้าของนัยน์ตาดำด้านทำเพียงนั่งมองความว่างเปล่าพลางเสยผมเผ้าที่ยุ่งอย่างลวก ๆ
จนมีเศษดินร่วงกร้าวลงมาจากฝ่ามือ
ถ้าหากไม่มีเศษดินติดตามตัวกับเสื้อผ้ามาก็คงจะนึกว่าเรื่องทุกอย่างเป็นเพียงความฝันของผู้ชายช่างจินตนาการ คราบดินที่แห้งกรังเต็มสองฝ่าเท้าช่วยยืนยันได้อีกแรงว่าเหตุการณ์ทั้งหมดในป่านั้นเป็นความจริง ลองเอามือทาบกับผ้าปูที่นอนก็ยังสัมผัสได้ถึงไอร้อนของอีกคน  
ตื่นได้แล้วไอ้เสือ  ชานยอลกลับคืนสู่ปัจจุบันได้เพราะสหายพยายามปลุกจนคอแห้ง
ตื่นแล้ว ๆ ขออาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวฉันตามลงไป
ตะโกนกลับเพื่อทำให้เพื่อนหายเป็นกังวล รอจนได้ยินเสียงเดินจากไปถึงได้ลุกจากที่นอน ชานยอลเดินถอดเสื้อเข้ามาในห้องน้ำและหันหลังกลับเพื่อเหลือบมองรอยข่วนสดใหม่ผ่านเงาในกระจก มันเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ร่างเล็กฝากไว้ในยกถัดมาและดูท่าคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะจาง แต่ถ้าให้เลือกระหว่างตื่นมาเจอร่องรอยที่เกิดจากการร่วมรักกับมีอีกคนนอนอยู่ข้าง ๆ หนุ่มใหญ่ที่เพิ่งเดินตัวเปียกออกมาสวมชุดใหม่จะเลือกอย่างหลัง
ชานยอลก้าวลงบันไดวนมายังด้านล่างอย่างรีบร้อนและดันเจอเพื่อนกวักมือเรียกจากในห้องทานอาหารเสียก่อน ความตั้งใจที่จะออกไปตามหาร่างเล็กจึงมีอันต้องพับเก็บใส่กระเป๋า
ช่วงขายาวเดินเข้าใกล้โต๊ะทานข้าวทุกขณะ แต่ว่ากว่าจะไปถึงก็ต้องผ่านตู้โชว์ของมากมาย ทั้งที่เมื่อวานเดินผ่านไปแล้วหลายรอบ เพิ่งจะมาสะดุดตากับกรอบรูปบานเล็ก ๆ อันหนึ่งที่วางอยู่กึ่งกลางระหว่างภาพทิวทัศน์ ชานยอลเดินถอยหลังกลับมาที่หน้าตู้กระจกแล้วถือวิสาสะเปิดประตูเพื่อหยิบกรอบรูปบานนั้นมาดูใกล้ ๆ และได้เห็นใบหน้าแสนคุ้นตาทำสีหน้ารีบเฉยขณะในมือกำก้านดอกไม้ ราวกับตากล้องตามเดินถ่ายแล้วอาศัยจังหวะหันกลับมามอง ภาพจึงออกเป็นแนวกำลังเผลอ
ดูอะไรอยู่วะ”  นั่งรอด้วยความหิวจนแสบท้อง แต่เมื่อเพื่อนยังไม่มีท่าจะเดินไปหาสักทีเลยลองเดินมาดู เหมือนรู้ว่าคนยืนนิ่งไปกำลังต้องการใครสักคนที่พอจะสามารถให้คำตอบได้
นี่รูปใคร
ชานยอลถามแล้วมองตามมือที่ฉวยกรอบรูปไปดู พอเห็นหัวแม่โป้งของสหายลูบใบหน้าเล็กผ่านกรอบบาง ๆ ด้วยความทะนุถนอมแล้วยิ่งฉงน ลุ้นคำตอบจนตัวโก่ง ผิดกลับเพื่อนที่มีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด แววตานั้นแสดงออกถึงความห่วงหาอาลัย ก่อนจะเฉลยทั้งชื่อและความจริงที่แสนน่าใจหายให้ฟัง น็อคผู้ชายร่างใหญ่ให้มึนงงและไปไม่เป็นชั่วขณะ              แบคฮยอนน่ะ”  หัวแม่โป้งยังคงลูบอยู่อย่างนั้น  “หลานชาย ตายไปเมื่อสองปีก่อน







































นัยน์ตาเศร้าสลดมองตามท้ายรถที่ขับออกไปจากตัวบ้านผ่านหน้าต่างซึ่งทำมาจากกระจกและยกมือขึ้นลูบความใสเสมือนได้จับยานพาหนะที่กำลังพาความหวังเดียวจากไป
ช่วยด้วย ช่วยแบ้กด้วย” 
เสียงหวานพึมพำท่ามกลางเสียงบางอย่างขูดกับพื้นไม้แผ่วเบา   
โซ่เส้นหนึ่งล่ามระหว่างข้อเท้าเล็กกับขาเตียงนอนไว้ มันเป็นบทลงโทษเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการแอบหนีเข้าไปวิ่งเล่นในป่าแล้วกลับออกมาพร้อมความสกปรกทั้งทางกายและจิตใจ จากชุดขาวก็เลอะเทอะไปด้วยเรื่องคาวโลกีย์ เนื้อผ้าอย่างดีถูกสีน้ำตาลชโลมจนเปรอะเปื้อน
พันธนาการที่แน่นหนาจะทำให้ร่างเล็กไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันไปสักพัก
จึงใช้เวลาว่างทั้งหมดที่มีไปกับสวดภาวนา หวังว่าคนเมืองกรุงจะกลับมาที่นี่อีก
กลับมาพาเจ้าหญิงสติเฟื่องลงจากหอคอย พานกน้อยกลับคืนสู่ความอิสระ
พยอนแบคฮยอนรอคอยที่จะได้โบยบินอีกครั้ง
เคียงข้างกับชายหนุ่มที่สอนให้รู้จักโลกใบใหม่  





ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
 ที่บอกให้อ่านทอร์คด้วยไม่มีอะไรหรอก แค่กลัวจะไม่ได้อ่านฉากเอ็นเครดิต อี้_อี้    
ส่วนเรื่องนี้.... ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว 

แล้วก็ยกมือไหว้เลย อ่านแล้วแท็กให้กันสักอันสองอันก็ยังดีเด้อ 
แค่ลงไป45%แรก เจอยอดวิว900กว่าคนเข้าไปแต่ในแท็กมีไม่ถึงสามสิบอันมันเจ็บปวดดดดดดด 

hashtag #fcuncenfic