Monster Baby
อากาศข้างนอกหนาวจัดจนทำให้กระจกเป็นฝ้า
ผิดกับภายในห้องที่มีอุณหภูมิอบอุ่นเพราะฮีตเตอร์รุ่นล่าสุดกำลังทำงานอย่างหนัก
อากาศพอดิบพอดีนั้นทำให้คนอยู่อาศัยใช้ชีวิตได้ตามปกติและหลังจากที่ยืนชงกาแฟจนมันส่งกลิ่นหอมกรุ่น
เจ้าของร่างบางก็หมุนตัวกลับ
ไม่ลืมจับหูหิ้วแก้วกาแฟติดมือมาด้วยก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากมือใหญ่ที่สอดเข้าประคองแก้วแล้วตอบรับความมีน้ำใจของสาวเสิร์ฟจำเป็นด้วยการขอบคุณครับ
ชายหนุ่มรีบพับหนังสือพิมพ์ลงกับหน้าตัก
เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างเมื่อหญิงสาวลดตัวลงนั่งเคียงข้างวางมือบนหน้าขา
ด้วยท่วงท่าที่รู้ว่าคงจะมีเรื่องให้ต้องอ้อน ระหว่างจิบกาแฟชายหนุ่มผู้ซึ่งรู้ไต๋เลยช้อนตามองไปพลางทำท่าทางแสนใจดีและมีความใจกว้างอย่างที่ทำให้หญิงสาวตกหลุมรักได้อีกหลายๆรอบ
“คือ… คุณจำแบคฮยอนได้ไหมคะ?
นายชายฉันที่เคยเล่าให้ฟังบ่อยๆ”
“น้องชายต่างแม่ของคุณน่ะเหรอ?” พอจิบกาแฟได้สักประมาณหนึ่งจึงลดมือลงแล้วเลื่อนไปวางบนโต๊ะแก้ว
แล้วก็หันหน้าเข้าหาหญิงสาวอย่างจริงจัง นั่งรอฟังขณะรั้งเอวบางเข้ามากอด
“ค่ะ คือพอดีช่วงนี้แบคฮยอนกำลังปิดเทอม
แกเลยจะแวะมาเที่ยวโซลสักหน่อย คุณคงจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าแกจะมาพักอยู่กับเราสักอาทิตย์สองอาทิตย์”
“ทำไมผมจะต้องว่าด้วย นั่นน้องคุณเชียวนะ”
เห็นสีหน้าคาตาเกรงใจแล้วก็อดหยิกปลายจมูกมนไม่ได้ “ห้องนี้ไม่ใช่ของผมคนเดียวสักหน่อย”
เพราะหลังจากเกี้ยวก้อยตกลงจะคบหาดูใจกันและแม้จะยังไม่ถึงขั้นแต่งงาน
แต่ทั้งสองก็เริ่มสร้างรากฐานด้วยการหารเงินซื้อคอนโดคนละครึ่ง
ดังนั้นห้องนี้จึงไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งมาตั้งแต่แรก
ต่างคนต่างมีสิทธิใช้สอยและขอแค่คอยบอกกันบ้างว่าจะทำอะไร อีกอย่างชายหนุ่มก็ไม่ใช่คนใจคับแคบแต่เป็นผู้ชายแบบอบอุ่น
“ขอบคุณนะคะ”
เมื่อได้รับคำอนุญาตกลายๆฝ่ายหญิงเลยยิ้มกว้างแล้วลดหัวหนุนบริเวณต้นแขนหนา
ส่วนฝ่ายชายซึ่งเป็นแฟนก็ยกมือขึ้นสางผมยาวเล่นพอเห็นขมับขาวเลยก้มลงหอมสักหน่อย
เพราะนี่ก็เพิ่งจะเช้าจึงอยากค่อยเป็นค่อยไป
ร่างกายใหญ่เข้าล้อมกอดร่างกายเล็กไว้ก่อนจะมีเสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นขัดจังหวะ
หญิงสาวผละตัวออกทันทีอย่างตื่นเต้น
“สงสัยแบคฮยอนจะมาแล้ว!” การที่เพิ่งขออนุญาตปุบอีกคนก็มาปับทำเอาชายหนุ่มที่นั่งรอบนโซฟาอยู่คนเดียวหลุดขำ
จับได้แล้วว่าที่แท้ฝ่ายหญิงคงเตรียมการไว้ล่วงหน้าและที่มาทำทีขอก่อนก็เป็นแค่ละครฉากนึง
เพราะสุดท้ายไม่ว่าจะยอมหรือไม่ยอม น้องชายก็ต้องมาถึงที่นี้อยู่ดี
“เจ้าเล่ห์นักนะ…” ต่อว่าแบบขอไปทีที่มุมปากยังยิ้มเหมือนไม่ถือสา
แต่เพราะเห็นว่าเงียบไปทำไมไร้สุ่มเสียงอยู่นาน คนนั่งเพียงลำพังเลยตัดสินใจลุกขึ้นแล้วก้าวขา
อวดความสง่างามของโครงสร้างร่างกายสูงใหญ่ โดยที่ใช้เวลาเดินช่วงสั้นๆก่อนหยุดยืนพิงผนังห้องคอยมองอยู่ห่างๆ
ไม่อยากรบกวนเวลาพี่น้องที่ยืนกอดกันกลม
กอดกันจนกลุ่มผมแทบจะพันกันและทำให้ชายหนุ่มมองเห็นไม่ค่อยชัดว่าหน้าตาน้องชายที่มีความสูงเทียบเท่าพี่สาวเป็นแบบไหน
ขนาดสรีระก็กะไม่ได้ว่าตัวเล็กหรือใหญ่เพราะดันใส่เสื้อโค้ท
จนเมื่อผละออกจากกันนั่นแหละถึงได้เห็นเต็มตา
เห็นเต็มสองตาขณะเผลอยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแล้วลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว
“เดินทางเป็นยังไงบ้าง?
ข้างนอกหนาวมากรึเปล่า?”
“หนาวมากเลยฮะ”
เหมือนจะรู้ตัวว่าถูกจ้องเลยลองมองกลับไปยังคนที่ยืนจ้อง
ก่อนจะเห็นคนยืนไม่ใกล้ไม่ไกลหลบสายตาอย่างรวดเร็วประหนึ่งเป็นพวกขี้คลาดตาขาว “คือ…”
พอดีเห็นอาการอึกอักของน้องชาย พี่สาวต่างแม่จึงเริ่มสนใจว่าดวงตาเรียวกำลังมองอะไรอยู่
จนได้รู้ว่าที่แท้กำลังมองบุคคลที่สามหลังจากหันมองตามและเธอก็ไม่ลืมรีบแนะนำ
เดินกลับมาลากชายร่างสูงให้เดินเข้ามาใกล้ๆกับคนเป็นน้องแล้วยืนคล้องแขนแสดงความเป็นคู่รัก
“นี่ปาร์คชานยอล เรียกพี่ชานยอลก็ได้ เขาเป็นแฟนที่เอง”
พี่สาวฉีกยิ้มอย่างภาคภูมิใจจนน้องชายต้องขยับปากวาดยิ้มตามระหว่างที่ยามนั้นก็ช้อนนัยน์ตามองคนตรงหน้าไปด้วยนิดๆ
แล้วแม้จะยิ้มให้อย่างเป็นมิตรและสุดแสนจะจริงใจแต่ร่างสูงกลับไม่ยอมยิ้มตอบ
หนำซ้ำยังทำทีเหมือนไม่ชอบอะไรบางอย่างหรือจะรังเกียจอะไรเข้า
ใบหน้าสมสัดส่วนถึงได้ตึงถนัด ปกติใบหน้าหล่อเหล้าที่จะต้องยิ้มกว้างอย่างต้อนรับ
เหลือแค่การมองแบบผ่านๆมองแบบขอไปที
ในขณะที่คนเป็นพี่อาจจะยังไม่รู้ตัวแต่คนเป็นน้องกลับรู้แล้ว
ร่างเล็กจึงคิดทำอะไรสักอย่างเพื่อผูกความสัมพันธ์เริ่มจากการแนะนำตัวอย่างสดใส “ผมพยอนแบคฮยอน ยินดีที่ได้รู้จักฮะ”
“ยินดีที่ได้รู้จัก” ทักทายกลับพอเป็นพิธีแล้วเดินหนีไปที่อื่นเลยจนสองพี่น้องได้แต่ยืนงง
หญิงสาวต้องช่วยแก้ต่างว่าคงอยากเข้าห้องน้ำระหว่างน้องชายเริ่มทำหน้าเศร้ากระซิบถามเบาๆว่าเขาไม่ชอบผมรึเปล่าก่อนจะได้รับการปฏิเสธเป็นการส่ายหน้า
คนเป็นพี่บอกว่าชานยอลใจดีและใจกว้าง
เห็นหน้านิ่งอาจจะดูน่ากลัวแต่เป็นคนหัวเราะเก่งแล้วก็อ่อนโยนมากๆด้วย
“เขาไม่ได้เกลียดผมแน่เหรอฮะ”
“อย่ากังวลเรื่องนี้เลยน่า ไปดูห้องพักกันดีกว่า พี่เตรียมห้องรับรองไว้ให้นายแล้ว”
“ไม่เห็นจะต้องลำบากเลยนี่ฮะ” อ้าปากพูดระหว่างถูกคล้องแขน
แบคฮยอนกึ่งถูกจูงให้เดินไปด้วยกันขณะต้องฟังเสียงพี่สาวอธิบายส่วนต่างๆภายในห้องชุด
มีการหยุดดูโน่นดูนี่ตรงหน้าต่างกระจกที่ขึ้นฝ้าพลางมองตามการชี้ของหญิงสาวว่าต้องเข้าไปในห้องนี้นี่คือห้องของนาย
ก่อนแบคฮยอนจะอุทานว่าใช่ผมลืมกระเป๋าเดินทาง
ริมฝีปากบางขยับบอกให้พี่สาวเข้าไปรอในห้องก่อนส่วนตนจะไปขนกระเป๋ามาเอง
แต่ตอนที่เกือบจะเข้าใกล้กระเป๋าร่างเล็กก็แทบเบรกตัวเองไม่ทันดันเห็นว่ามีคนกำลังช่วยยก
แฟนพี่ที่ว่าน่ากลัวกำลังช่วยยกกระเป๋าเดินผ่านหน้าไป
เรียกว่าไม่สนใจการมีอยู่เลยสักนิดจนแบคฮยอนได้แต่คิดว่าคงถูกเกลียดขี้หน้า
แต่ว่าก็ต้องลองพยายามตื้อกันดูสักตั้งหลังจากนอนจินตนาการทั้งคืนว่าควรจะทำตัวอย่างไรให้เข้ากับแฟนของพี่สาวได้
ในช่วงสายของอีกวันแบคฮยอนก็มายืนหั่นผักออกปากว่าผมจะโชว์ฝีมือการทำอาหาร
มีการอวดอ้างให้พี่สาวฟังว่าถึงผมจะอายุแค่สิบเจ็ดแต่ก็ทำแกงเผ็ดได้สบาย
ร่างเล็กยักย้ายขะมักเขม้นเห็นหยิบจับทุกอย่างคล่องแคล่วแต่แล้วก็ต้องมีอันชะงักเล็กน้อยคอยหยุดมองคนร่างสูงที่มายืนชงกาแฟข้างๆ
ริมฝีปากบางเผลอยิ้มตามยามได้กลิ่นกาแฟหอมและเกือบหลุดปากอยากถามว่าเมือคืนนอนหลับสบายดีไหมแต่สุดท้ายอีกคนก็หมุนตัวเดินไปซะก่อน
แม้แต่ตอนนั่งกินข้าวกลางวันด้วยกันยังแทบนับคำได้
แบคฮยอนแอบหงอยที่พี่ชายแฟนไม่ค่อยให้ความสนใจและเมินจะตอบคำถามบ้างบางครั้ง
นี่ยังถือว่าเล็กน้อยตอนนิ้วก้อยดันชนกัน
ชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามรีบชักมือกลับราวกับต้องของร้อนจนร่างเล็กเริ่มงอนว่ารังเกียจอะไรตนนักหนา
ขนาดเวลาจะผลัดกันใช้ห้องน้ำห้องท่าหากเจอกันตรงข้างหน้าห้องน้ำรวมโดยมิได้นัดหมาย
ฝ่ายชายตัวสูงจะยืนหลบเลี่ยงเบี่ยงทางให้ร่างเล็กเดินไปก่อนจนแบคฮยอนได้แต่มองค้อนเมื่อประตูห้องน้ำถูกปิดลงคงจะไม่ชอบกันมากเลยสินะและหลายครั้งก็แลบลิ้นปลิ้นตาคืนกลับไป
ไม่อยากคุยก็ไม่ต้องคุย… แบคฮยอนจะคุยก็แต่กับคนที่อยากคุยด้วยเท่านั้น
อีกวันให้หลังพอกลับมาจากออกไปช้อปปิ้ง ภายในห้องชุดก็เกิดเสียงดังซึ่งแหล่งต้นเสียงก็เป็นริมฝีปากบางที่อ้าหัวเราะเพราะความตลก
ตามประสาพี่น้องที่กำลังนั่งดูหนังด้วยการตรงโซฟา ร่างเล็กยังดีดแข้งดีขาเมื่อหนังที่ฉายมันตลกสิ้นดี
จนชายกางเกงขาสั้นที่ใส่มันหล่นจนเห็นโคนขา
แล้วคนเป็นพี่สาวก็ต้องรีบหาอะไรมาปิดเพราะอุจาดตา
มีการล้อว่าใส่สั้นแบบนี้ไม่หนาวเหรอไง แบคฮยอนเลยโต้กลับคืนว่าแล้วทำไมพี่ยังใส่เสื้อสายเดี่ยวเลย
จนกลายเป็นสงครามน้ำลายเพราะต่างคนต่างก็ไม่ยอม เถียงกันประหนึ่งไม่ชอบแต่กลับยิ้มอย่างมีความสุข
จนต่างฝ่ายต่างลุกขึ้นมาต่อสู้กัน
หมอนคืออาวุธชีวภาพที่ทั้งคู่ใช้โจมตีกัน ผลักกันดันผลัดกันตีจนสุดท้ายหนังก็ไม่มีคนดู
เหลือแต่การต่อสู้อันดุเดือดจนโซฟาที่ตั้งอยู่เดี่ยวๆขยับเลื่อนและเมื่อหญิงสาวพลาดท่าจนนอนล้มกับโซฟา
ผู้ชนะจึงยืนขึ้นบนโซฟาพร้อมส่งเสียงร้องอย่างดีใจ
ด้วยวัยที่อ่อนเยาว์กว่าถ้าเอาแรงไปสู้กับคนอายุเยอะยังไงก็มีสิทธิชนะ
แล้วแบคฮยอนก็ดูจะภาคภูมิใจกับการรังแกพี่สาวต่างแม่สำเร็จ ยังคงยืนหัวเราะเอิ้กอ้ากปากไม่มีทีท่าว่าจะหุบ
กระทั้งเห็นบุคคลที่สามยืนกอดอกมองอยู่ไม่ไกลก่อนปากแดงจะหุบลงขณะเริ่มสนใจว่าร่างสูงมองใคร
ระหว่างตนที่ยืนหัวโด่หรือเป็นพี่สาวที่ค่อยๆพยายามลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาอย่างเก่า
นัยน์ตาวาบวับสีดำคู่นั้นกำลังมองอะไรกันแน่ …แบคฮยอนก็แค่เริ่มสงสัยเลยมองไล่ตามลงต่ำจนหาจุดที่ลูกตาสีดำโฟกัสได้และใบหน้าแสนฉงนก็แทบเปลี่ยนเป็นคนละคนในวินาทีที่พอจะเข้าใจ
จากที่ยิ้มสนุกสนานก็เปลี่ยนเป็นไปยิ้มบางเบาระหว่างคิดว่าจับเค้าลางได้ถึงบางอย่าง
เพียงแต่มันยังไม่ชัดเจนขณะเรื่องเดียวที่แน่นอนก็คือชายหนุ่มไม่ได้มองทั้งตนและคนเป็นพี่สาว
ซึ่งในเมื่อจะกล่าวหาคนอื่นก็ต้องมีหลักฐาน เพื่อที่จะพิสูจน์ความเป็นไปได้อาศัยบวกความบ้าบิ่นลงไปจนเกิดความมั่นใจ
ตอนนั้นเองมือที่กำชายกางเกงตัวเองเอาไว้จึงลองเลิกขึ้นอีกนิด
ซึ่งมันผิดจากที่คาดตรงไหน… เป็นไปตามคาดที่อีกคนรีบวางท่าเคร่งครึมทันทีแล้วรีบเลื่อนนัยน์ตาหนีหันไปมองที่ฝาผนังดั่งราวกับไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะชิงหนีในที่สุด
ชานยอลดูเหมือนบุรุษที่กำลังต้องหลบซ่อนตัวเองก็ไม่ปานและการลอบกลืนน้ำลายบ่อยครั้งมันเหมือนว่ากำลังอดกลั้นอะไรอยู่
อดกลั้นที่จะอยู่กับบางอย่างให้ได้แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามสักแค่ไหน
ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองคงทำได้สบายถ้าเพียงแต่จะได้รับความร่วมมือจากอีกคน
ไม่ใช่บางเวลาก็เข้ามาจับมือถือแขนทั้งที่อีกข้างมีแฟนนั่งซบ
ชานยอลต้องรบรากับความรู้สึกก่อนทะลึ่งพรวดยืนขึ้นจากโซฟา
อ้างว่าจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำยามที่หนังกำลังเข้าสู่ช่วยคลายแม็กและกลายเป็นตัวตลกให้แบคฮยอนหัวเราะไล่หลังแปลกๆจนพี่สาวต้องหันมาถามว่ามีอะไรแล้วน้องชายก็ส่ายหน้าปฏิเสธ
เหตุเพราะร่างเล็กเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้
โจทย์ข้อนี้ง่ายจะตายและเป็นตนที่หลงผิดประเด็นตั้งแต่ทีแรก เมื่อพอมานั่งแยกแยะดีๆบางทีคงไม่ใช่ความรังเกียจที่ทำให้พยายามหลีกหนี
การหลบเลี่ยงของแฟนพี่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเกลียดขี้หน้า
ยิ่งได้พิสูจน์ก็ยิ่งกล้าฟันธง
คงเพราะความเป็นเด็กที่ทำให้ยังเหลือเลือดของความคึกคะนอง
อาศัยว่ายังเป็นวัยรุ่นที่ชอบลองมองบางเรื่องเป็นเรื่องท้าทาย
ใครบอกว่าแบคฮยอนเป็นคนขี้อายสไตล์ชอบหลบหลังคุณแม่ ก็แค่ไม่เปิดเผยก็เท่านั้น
เรียกว่าเลือกที่จะแสดงตัวตนกับใคร
ซึ่งไม่ใช่กับพี่สาวแน่… แต่ถ้าเป็นกับอีกคนที่อาศัยร่วมชายคาก็น่าสน
ลืมบอกไปว่าแบคฮยอนเป็นประเภทชอบทดสอบความอดทนคน แค่พี่สาวเดินพ้นไล่หลังไปก็เหมือนพฤติกรรมวายร้ายที่ชอบลอบมองดูลาดเลาก่อนจะขยับเข้าใกล้เป้าหมายที่นั่งกางหนังสือพิมพ์อ่านอยู่ข้างๆ
มีการแกล้งหยิบนิตยสารแบบข้ามหน้าข้ามตาขณะฝ่ามือเฉียดหน้าขาหนาแล้วรีบชักมือกลับ
แบคฮยอนขยับปากเป็นคำว่าขอโทษ ส่วนคนโดนสัมผัสก็แค่บอกปัดว่าไม่เป็นไรแล้วค่อยลุกขึ้นเหมือนไม่อยากจะใช้เวลาอ่านหนังสือพิมพ์ในยามเช้าอีกแล้ว
ชานยอลปล่อยให้แบคฮยอนนั่งแกล้วคนเดียวแต่แทนที่จะเสียใจ
ร่างเล็กกลับขยายมุมปากอย่างกับคนเจ้าเล่ห์
แถมเพทุบายกลายเป็นเด็กชอบโกหกในยามที่คนสองคนผลุบหายเข้าไปในห้องตอนกลางวัน
ซึ่งดูแล้วก็คงเพื่อที่จะพลอดรักกันตามประสาคู่รักที่มันก็ต้องมีเรื่องมักมากเข้ามาเกี่ยวและขณะที่อีกเดี๋ยวเดียวก็จะได้เข้าด้ายเข้าเข็มแต่ก็กลายเป็นว่ามีเสียงเคาะประตูขัดจังหวะ
คือร่างเล็กที่เคาะประตูร้องเรียกพี่สาวว่าอยากได้กระเป๋าใบใหม่ช่วยไปเลือกซื้อเป็นเพื่อนหน่อยฮะ
คนด้านในต่างฝ่ายต่างหน้าเสียและเป็นหญิงสาวที่รีบขานรับระหว่างจับกระโปรงให้เข้าที่ข้างทาง
ทิ้งความค้างเติ้งไว้กับชายหนุ่มร่างสูงผู้ที่กำลังปรากฏแววหงุดหงิดเสียจริตความเป็นคนดี
แล้วนับตั้งแต่นั้นมาชานยอลก็ยังปรากฏใบหน้าอารมณ์เสียอยู่หลายครั้ง
พักๆหลังเริ่มยิ้มน้อยลงและคงทำตัวน่าสงสัยจนหญิงสาวเอ่ยปากถามอยู่บ่อยครั้ง
ขนาดระหว่างนั่งกินข้าวเย็นด้วยกันยังทำตัวอยู่ไม่สุข
ต้องซุกต้องซ่อนความลับภายใต้หน้ากากที่กำลังยิ้มอ่อน
กระทั่งเมื่อตอนหญิงสาวอาสาขนจานข้าวไปเก็บ
รอยยิ้มอ่อนโยนถูกเก็บลงและคงอยู่แค่คนกำลังอารมณ์เสียเล็กๆ ใบหน้าราวกับเซ็งจัด
ชานยอลแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายชัดเจนพลางยอมเล่นเกมจ้องตากับคนฝ่ายตรงข้ามที่ยังทำอุกอาจวาดปลายเท้าเขี่ยหัวแม่โป้งไปตามหน้าแข้งตน
ก็คนเดิมนั่นแหละแต่คราวนี้มีความมั่นใจเกินร้อย
แบคฮยอนยิ้มน้อยๆเมื่อตกดึกเดินออกมาจากห้องแล้วเจอคนนั่งจ้องทีวีอยู่ก่อน
โดยที่ก็ไม่เคยรู้สึกอยากดูบอลเท่านี้พร้อมตัดสินใจปรี่เข้าหาเห็นว่านั่งคนเดียว
แต่พอนั่งลงได้แค่แป๊บเดียว ชายหนุ่มร่างสูงก็ลุกหนีไปเหมือนรำคาญ
ไม่รู้เพราะว่ารำคาญความเป็นเด็กของอีกคน
รำคาญพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือรำคาญตัวเองที่เริ่มข่มความรู้สึกไว้ไม่ไหวกันแน่ ความอดทนที่กักเก็บมันคล้ายจะระเบิดรอมร่อและใบหน้าหล่อยิ่งหงิกงอเมื่อกิจกรรมที่เคยทำแค่สองต้องเพิ่มเป็นสามอยู่ร่ำไป
เนื่องจากยามใดคู่รักนั่งดูหนังรักด้วยกันอย่างเป็นสุข
ก็จะมีน้องชายต่างแม่ของคนรักพุ่งเข้ามาตรงกลางโถมน้ำหนักตัวลงนั่งตรงช่องว่างเบียดจนชายหนุ่มต้องยอมขยับก้นออก
ปล่อยให้น้องเล็กนั่งซบไหล่พี่สาวโชว์สภาพขาขาวที่ดูจะเหยียดกินอาณาเขตชนเข้ากับขาคนหน้านิ่งนิดๆ
เป็นสิ่งที่ซึ่งก็รู้ว่าร่างเล็กจงใจอย่างรุนแรงขณะแปลกที่รอบนี้ชานยอลไม่ตัดสินใจหนี
เพราะเริ่มคิดได้ว่าไม่มีความจำเป็น เห็นทีว่าการทำตัวเป็นคนขี้ขลาดจะทำให้อีกคนย่ามใจเกินไป
ดังนั้นวินาทีนี้ร่างสูงจึงเลือกปักหลักนั่งหลังตรง
คงอยากบอกน้องแฟนกลายๆว่าตนก็ไม่สะทกสะท้าน
ถ้าคิดว่าการเย้าแหย่แบบเด็กๆจะใช้ได้ผล …อีกคนคงประเมินตนต่ำไป
“น้องพี่มีแฟนเหรอยัง หืม?” จะว่าตอนแรกไม่ได้สนใจก็ได้แต่เพราะอยู่ใกล้สองพี่น้อง
ชายหนุ่มถึงต้องนั่งฟังอย่างไม่มีปากไม่มีเสียงและเพียงก้มลงมองท่าทางรุกล่ำความเป็นส่วนตัว
“ผู้หญิงที่ไหนจะกล้าคบผม” ยั่วกันในที่ลับจับผิวสากผ่านตะเข็บข้างกางเกง
เด็กเล็กไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างทั้งที่ปากตอบพี่สาวด้วยน้ำเสียงสดใสแต่ในใจยิ้มร้ายกลายเป็นเดวิลมีเขา
“น้องพี่ก็ออกจะน่ารักนี่นา”
สาวเจ้าช่างน่าสงสารและทั้งที่รักจนอยากให้อยู่ด้วยกันเป็นสิบๆวันแต่ความสัมพันธ์นั้นต้องขาดสะบั้นแน่ถ้าเผอิญเห็นว่าจากที่แค่เขี่ยตะเข็บตอนนี้เล็บน้องชายจิกบนหน้าขาแฟนหนุ่ม “หิวอะไรกันรึเปล่า?”
และราวกับไม่มีอะไรเมื่อหันมองหน้าทั้งคน
จนน้องชายพยักหน้าหงึกหงักระหว่างมือทั้งสองข้างอยู่บนหน้าตักปกติ “เมื่อวานพี่ซื้อผลไม้มา งั้นเดี๋ยวไปจัดใส่จานให้นะ”
“ฝากด้วยนะฮะ”
เรียกว่าส่งลาไล่หลังเสียงหวานแล้วแบคฮยอนก็กลับมานั่งตัวตรงทันทีในยามที่เลือกได้ว่าควรถึงเวลาเปิดอกไม่อยากยกยอดไปวันอื่นอีกแล้ว “ผมเห็นนะว่าพี่มองอะไร…”
ตอนแรกนั้นเหมือนแค่ได้นั่งคุยกับอากาศแต่พอทำท่าจะขยับเข้าใกล้
ชายร่างสูงก็ยอมตอบคำถามแถมข่มด้วยน้ำเสียงดุคล้ายกับจะห้ามไม่ให้ร่างเล็กเขยิบเข้ามา “…ฉันเปล่า”
“อย่าหลบตาผมสิ” เริ่มได้คืบจะเอาศอกพอเขายอมตอบก็หันหน้าเข้าหาพร้อมเสริมบริการนวดต้นขาที่ทำให้ชานยอลชักเลือดขึ้นหน้า
คนมีศักดิ์เป็นแฟนพี่แอบฉุนมันกรุ่นทั้งโมโหทั้งโกรธาขณะอีกคนทำสีหน้าไม่กลัวตายคิดย้ายฝ่ามือตามใจชอบ
“พยอนแบคฮยอน” จนมือใหญ่ต้องคอยตามประกบและจบด้วยการปัดมือร่างเล็กออกอย่างไม่มีการทะนุถนอมใดๆ
เพราะตนไม่ใช่ตัวตลกที่จะให้ใครปั่นหัวและเกลียดนักการยั่วยวนที่มันช่างแก่แดดแก่ลม
ชานยอลพยายามข่มใจระหว่างใช้สายตาดุจ้องเจ้าของชื่อกลับ
“แต่พี่มอง”
ถ้าลองได้เริ่มมันก็ยากจะหยุดเลยยิ่งรุกหนักรุดเดินหน้า จะบอกว่าเพราะแอบชอบเพิ่มขึ้นมากทุกวันก็ได้
แบคฮยอนถูกใจท่าทีต่อต้านที่แฟนพี่ทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันและในขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อว่าอีกคนจะปฏิเสธถ้าเกิดว่ามีของเซ่นไหว้มาประเคนถึงปากขนาดนี้
ผีเห็นผี
เหมือนคนไม่ดีเจอพวกเดียวกัน… “ใช่ ฉันมอง” ปกปิดไปคงไม่มีประโยชน์แถมจะเป็นโทษให้ตนดังนั้นคนร่างสูงจึงยอมรับกันตรงๆ “และฉันไม่ชอบ
อย่าทำแบบนี้อีก” ดีเหมือนกันที่ได้พูดแต่ก็ต้องรีบหยุดพูดยามถูกคุกคาม
น้องแฟนชักลามปามโถมเข้าใส่ใช้ปากจูบลำคอ
“แล้วพี่ชอบแบบไหน? ชอบแบบไร้เดียงสาแบบพี่สาวผมเหรอ?”
“แบคฮยอน”
กัดฟันจนกร่อนระหว่างย้อนมองว่าหญิงสาวที่ยืนหันหลังอยู่ตรงเคาน์เตอร์ครัวจะเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่รึเปล่า
ก่อนชานยอลจะรีบเข้าขัดขวางกระชากข้อแขนเล็กและปัดทั้งสิบนิ้วกระเด็น
พลางเค้นน้ำเสียงในลำคอบอกว่าพออย่าให้ฉันต้องอารมณ์เสียไปมากกว่านี้
“แต่ผมคิดว่าผมรู้ว่าพี่ชอบแบบไหน …แบบผมไง”
“นายไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน” นอกจากจะไวไฟยังมั่นใจในตัวเองอย่างร้ายกาจ
จนชานยอลหลุดหัวเราะเหอะนึงประหนึ่งขบขันและไม่ทันหนีก็มีริมฝีปากแดงยื่นเข้ามาใกล้หวังจะจูบท่าเดียวซะให้ได้
ทั้งที่ชายหนุ่มยังทำสายตาขวางแต่ร่างเล็กก็ทั้งยึดตัวไว้ทั้งคว้าไหล่ให้อยู่นิ่งแบคฮยอนกำลังประพฤติในสิ่งที่น่าอาย
สุดท้ายก็ได้เสียงตวาดเป็นรางวัลแล้วถูกรั้งให้ลุกขึ้นยืน
ร่างเล็กไม่ขัดขืนเมื่อแฟนพี่คว้าข้อแขนออกแรงฉุดกระชากลากเดินกันไปให้พ้นจากรัศมีการมองเห็นของพี่สาว
ก่อนที่แบคฮยอนซึ่งรู้เรื่องรู้ราวเกินเด็กจะรีบกอดเอวหนาพร้อมล็อคเป้าหมายด้วยการช้อนนัยน์ตามองอย่างออดอ้อน
ส่วนชานยอลนั้นหลังจากพยายามแกะสิ่งที่เกาะร่างกายอย่างสุดความสามารถ
แต่เมื่อไม่อาจต่อสู้กับความเหนียวแน่นได้ ท้ายที่สุดจึงแค่ถอนหายใจตามประสาคนเหนื่อยหน่ายเต็มทน
“นายคิดจะทำอะไร?”
“ทำในที่สิ่งที่พี่คงอยากทำตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน”
“ฉันไม่ได้อยากทำอะไร”
“ปากแข็ง อยากรู้จังว่าข้างล่างจะแข็งเหมือนปากด้วยรึเปล่า”
“นายพูดจาก้าวร้าวเกินไปแล้วนะ”
“ทำเหมือนตัวเองยังเด็กไปได้”
“ใช่ นายยังเด็ก”
“ผมอายุสิบเจ็ด แล้วผมก็รู้วิธีการxxxแล้วด้วย”
“พยอนแบคฮยอน”
“เสียงดังอีกสิฮะ” พูดจาร้ายกาจได้ไม่มีคำว่าสะท้าน
อาการเด็กแก่แดดยังพบเห็นได้ทั่วไป จะเพิ่มเติมก็คือการยิ้มร้ายราวกับคนเพิ่งมีแผนใหม่ผลุดขึ้นในหัวเมื่อกี้ “อยากให้พี่จับได้เหรอ?
เธอคงจะสงสัยน่าดูว่าเรามายืนหลบคุยอะไรกันตรงนี้”
“นายคิดจะขู่” ชานยอลเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นกระซิบระหว่างบีบต้นแขนร่างเล็กกว่า
“ผมจะบอกว่าพี่คิดคบชู้ อยากได้น้องแฟนเป็นเมียอีกคน”
“เพ้อเจ้อ”
“เดี๋ยวก็รู้ พี่ฮะ…!”
อ้าปากยังไม่ทันได้หุบก็ดันถูกอีกความหยุ่นอุดเข้ามาอย่างรวดเร็วจนของเหลวที่เรียกว่าน้ำลายแตกตัว
ขณะหัวถูกล็อคด้วยสองมือใหญ่ทันทีจนใบหูเล็กแทบบี๋บุบพลางโดนขยุ้มผมอย่างรุนแรง เป็นคนเคยต่อต้านที่บังคับให้ร่างเล็กแหงนหน้าทั้งที่สองริมฝีปากยังบดเบียดคาราคาซัง
ชานยอลเป็นฝ่ายเอาหลังชนผนังและรั้งแบคฮยอนเข้าหา
กิริยาไม่ต่างจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ลิ้นยาวถือวิสาสะเข้าผ่านรอยแยกที่เผยอจนเจอกับลิ้นเล็กที่ไม่ได้เด็กดั่งคำโฆษณา
เพราะยามต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน
ลิ้นเล็กรู้จักดันลิ้นยาวคืนและยื่นออกจากปากเหมือนต้องการหลอกล่อ
แล้วพอเหยื่อตกหลุมพรางก็ใช้ขอบปากงับและทำการรูดตั้งแต่โคนจรดปลายปุ่มรับรส
พอๆกับอีกคนที่ไม่รู้ไปอดอยากมาจากไหนสงสัยจะเริ่มชอบความอ่อนเยาว์เข้าประกบจูบอย่างประชิดกัดกินริมฝีปากล่างอย่างอิ่มหนำงับริมฝีปากบนจนอีกคนประท้วงก่อนล่วงล่ำทำน่าเกลียดต่อ
เป็นท่ออากาศให้กันและกันระหว่างฟันกระทบดังกึกลิ้นยาวชักจะหย่อนลึกจนแบคฮยอนแทบสำลัก
ร่างเล็กยกกำปั้นทุบอกกว้างแต่เพราะอีกใจก็ยังอยากเลยเปลี่ยนเป็นกระชากปกเสื้อ
เอื้อความสะดวกด้วยการเขย่งเท้าเอาปลายคางให้ปากหนางับ
ส่วนตัวเองก็งับปลายจมูกโด่งบ้าง
ก่อนจะต่างฝ่ายต่างกลับมาเอาปากบดกันลิ้นพันและแน่นหนึบได้เพราะน้ำเหนียวๆ
เกี่ยวตวัดรัดซะกลายเป็นเถาวัลย์ขณะปากยื่นปากยาวสาวรสชาติด้วยความหุนหัน
มันเหมือนกับว่าใกล้จะถึงเวลาแยกจากหากไม่อยากเสียดายทีหลังก็ต้องยอมหลั่งน้ำตาเรียกหาน้ำลายอยู่อย่างนี้
‘ชานยอลคะว่างรึเปล่า…’ แล้วนาทีที่ระฆังดังสั่งให้เลิกก็มาถึง แต่คนทั้งคู่ก็ไม่ได้ตื่นตูมหรือตกใจแค่หยุดไว้ทั้งที่ยังหายใจหนัก
ปากแบคฮยอนปลั่งไปด้วยสีแดงและเปล่งเหมือนบวมน้ำ
ขณะชานยอลยังย่ามใจเข้าเม้มขอบปากบางไปตั้งหลายครั้งแล้วคอยพักช่วงด้วยการจ้องตา
สื่อความหมายยากจะคาดเดาเอาซะร่างเล็กยกยิ้มเขินแบบแปลกๆและก่อนวินาทีจะแยกย้าย
เพื่อให้ไม่เป็นที่น่าสงสัย ชายหนุ่มเลยตะโกนตอบกลับด้วยน้ำเสียใจเย็น “…ผมว่างครับ”
เห็นนิ่งๆที่แท้ก็ร้ายลึก ปากขยับตอบอีกคนนึงแต่ตาจ้องมองอีกคนนึง
‘มาช่วยยกจานหน่อยสิคะ’
“ได้ครับ” ไม่ลืมงับปากน้องแฟนอีกสักที
หรี่ตามองอย่างประเมินแล้วค่อยผละออกไป
“ว่าแล้วว่าพี่ต้องยังไม่นอน” ตอนร่างเล็กเดินนวยหนายออกมาจากอีกประตู
ชานยอลรีบหันหลังกลับไปดูทันทีว่าประตูห้องตัวเองยังปิดสนิทอยู่รึเปล่า เพราะชายหนุ่มไม่อยากให้สาวเจ้าออกมาเจาะเจอ
แค่อยากปล่อยให้เธอเข้าใจต่อไปว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างตนกับน้องชาย
ส่วนเจ้าตัวร้ายพอเห็นแฟนพี่เผลอเข้าหน่อยก็ไม่วายรีบวิ่งเข้ามานั่งเบียด
ทำเหมือนโซฟาช่างแคบแนบสีข้างติดกับสีข้างพลางช้อนตามองคนที่หันกลับมาสนใจหน้าจอโทรทัศน์ซึ่งฉายบอลนัดพิเศษอย่างเฉยชา
ชานยอลเพิกเฉยต่อแบคฮยอนทั้งที่เมื่อตอนกลางวันยังดูดดื่มกันแทบตาย
ทำให้เด็กน้อยรู้สึกงวยงงแต่ก็ยังคงเกาะแกะไม่ปล่อย
ระหว่างค่อยถามว่าพี่เป็นอะไรก็ใช้แขนคล้องแขน
ทำตัวเหมือนแฟนแนบแน่นไปทุกส่วนก่อนจะใช้ปลายนิ้วข่วนเกี่ยวบนผ้าบริเวณแผงอกกว้างและเมื่อเรียกร้องความสนใจจากด้านบนไม่ได้ผล
คนตัวเล็กเลยเปลี่ยนเป็นด้านล่าง
วางมือทาบหน้าขาใหญ่แล้วนวดเบาๆเคล้าด้วยการขย้ำน้อยๆ
ยิ่งเห็นอีกคนไม่ปฏิเสธหรือไล่ตะเพิดก็ยิ่งเกิดความนึกสนุกเข้าไปใหญ่
มือเล็กไล้รอบนอกจนวนเข้าถึงโคนขาด้านใน ความสากของกางเกงยีนส์ทำให้ตื่นเต้นก่อนจะครางเสียงเบาเมื่อถูกมือใหญ่ตะครุบข้อแขนเข้าจนได้
ซึ่งล้วนเป็นมารยาที่ชานยอลไม่คิดว่าจะเจอกับเด็กตัวเท่านี้
ช่างแตกต่างกับคนพี่ลิบลับและต้องยอมรับว่าความแก่แดดของแบคฮยอนทำให้คนอย่างตนตื่นตัวได้
ไม่ได้หมายความแค่อวัยวะด้านล่างแต่ยังหมายถึงตัวตนที่เหมือนถูกปลุกขึ้นมา
ทั้งที่ว่ามันตายไปแล้วนับตั้งแต่มีคนรัก
ด้านหยาบโลนซึ่งถูกกลบด้วยความสุขุมนุ่มและแสนอ่อนโยน
น้อยคนจะดูออกว่าความจริงตนเป็นประเภทไหน
แม้แต่หญิงสาวที่อยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลายังคิดว่าตนเป็นชายสุภาพบุรุษ
จะมีก็แต่คนที่นั่งลอยหน้าลอยตาเนี่ยแหละที่ดูเหมือนจะเข้าใจตนมากที่สุดซะอย่างนั้น
แปลก… “เป็นเด็กไม่ควรนอนดึก”
“แต่ผมยังไม่ง่วง”
ลืมบรรยายว่าร่างเล็กอยู่ในสภาพใดแค่ใส่เสื้อยืดตัวโคล่งยาวคุมเข่าและพอนั่งความยาวก็หดขึ้นเสมอหน้าขา “ขอผมดูบอลด้วยคนสิ
ดูคนเดียวคงเหงาแย่”
“ฉันไม่เคยเหงา”
”โกหก” สวนทันควันและมีการหรี่ตาคล้ายจับผิด
ก่อนแบคฮยอนจะค่อยๆเบียดเข้าชิดเอาหัวซบบ่ากว้าง
ในเมื่ออ้างอยากดูทีวีจึงทำทีหันหน้าตรงคงสภาพนิ่งๆไว้สักพัก
นั่งดูอย่างเงียบๆจนเมื่อการแข่งฟุตบอลลูกหนังถึงเวลาพักครึ่ง
มือน้อยซึ่งทะลึ่งตึงตังจากอยู่บนหน้าขาก็ย้ายหาเป้า
“มีผมมาอยู่ด้วยอึดอัดรึเปล่า” ทำเอาเกือบเศร้าไปด้วยอยู่แล้วเชียวถ้าชานยอลไม่เหลียวสายตากลับมามอง “พี่อึดอัดไหม…”
น้องแฟนนี่ท่าจะเป็นคนชอบพูดความหมายแฝงและน่าแปลกที่ชานยอลเข้าใจ
หรือส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะฝ่ามือน้อยที่ค่อยๆไล้เบาๆอยู่เหนือเป้ากางเกง
แบบที่ปราศจากความเกรงใจขั้นสุดและแน่นอนว่าพฤติกรรมแบบนี้ร้อยทั้งร้อยก็ใช้อ่อยฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ
จนชานยอลนึกชื่นชมความใจเด็ด
เห็นคนอย่าประเมินแค่ที่ภายนอกนี่ถ้าไม่บอกก็คงคิดว่าใสใส
ซึ่งไม่ใช่เลยแบคฮยอนไม่เคยเฉียดเข้าใกล้คำนั้น
“เดี๋ยวพี่เธอออกมาเห็น”
ปากบอกเหมือนปฏิเสธแต่ขอโทษเถอะ
พูดว่าร่างเล็กไม่ใสแต่ตัวเองนั่นแหละที่ก็ร้ายและเป็นฝ่ายทำให้มือเล็กล้วงลึก
มือใหญ่เป็นฝ่ายบังคับมือเล็กให้คลึงกับเป้า
แม้จะยังไม่ถึงขั้นยัดมือเข้าไปในซิปแต่การยอมให้บีบจับขยับขย้ำแค่ภายนอกพลางบอกว่าพอใจแค่นี้ก็น่าเกลียดจะตาย
แล้วยิ่งน่าเกลียดเข้าไปอีกเมื่อแบคฮยอนตัดสินใจปลดซิปแอบรีบร้อนเบาๆ
ก่อนจับเข้ากับของสงวนด่วนดีใจประหนึ่งไม่เคยเจอความใหญ่
เด็กน้อยขี้สงสัยพยายามจดจ้องสิ่งที่ซ่อนอยู่หลังสีกางเกงชั้นในแล้วค่อยช้อนนัยน์ตาใสเป็นการอ้อนและตอนนั้นชานยอลก็พยักหน้าสบายๆ
กลายเป็นคุณชายที่วาดแขนทั้งสองข้างวางบนพนักโซฟา
ดื่มด่ำกับรสชาติที่นานแล้วไม่มีคนทำให้หรือความจริงก็ได้รับการปรนนิบัติแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง
เพียงแต่คราวนี้มันเปลี่ยนคนเปลี่ยนระบบการดำเนิน
เกิดรู้สึกชอบยุทธวิธีที่ตอนแรกเหมือนเชื่องช้าแต่ไปๆมาๆมือที่กอบกุมก็เกิดคึก
รูดลงซะลึกถึงโคนแล้วรูดขึ้นจนเกือบหลุดปลาย
แบคฮยอนขย้ำแก่นกายเหมือนได้ของเล่นสำหรับเด็กอ่อน
เข้าสู่ขั้นตอนสอนวิวัฒนาการการขยับจับอวัยวะที่ขยายสู้มือให้มั่น
ทั้งคั้นทั้งบีบขณะจีบปากกัดฟันประหนึ่งอยากใช้ฟันขบของตรงหน้ามากกว่าใช้มือเปล่าๆ
ร่างเล็กเร่งสาวมือไม่หยุดรูดขึ้นรูดลงจนของร้อนสามารถคงสภาพตั้งเก้าสิบองศากลางอากาศ
ทุกคนอาจจะคิดว่าที่ทำมายังบ้าไม่พออีกเหรอ …แน่นอนสิว่ายังไม่พอ
ในเมื่อเป็นก่อร่างสร้างให้แข็ง
แบคฮยอนก็ต้องรับผิดชอบทำให้มันอ่อนยวบจนเสียงดวบดังพร้อมๆกับเสียงคำราม
พอดีกับมีเสียงที่สามก็คือเสียงประตูห้องนอนที่เปิดออกกว้าง
ปรากฏร่างหญิงสาวยืนขัดรอยประตูในสภาพชุดพร้อมเตรียมนอน “ชานยอลคะ อย่านอนดึกมากนะ”
น้ำเสียงห่วงใยบอกคนที่นั่งบนโซฟา
ก่อนชายหนุ่มจะหันหลังมายิ้มจนเมื่อพอใจหญิงสาวเลยได้ถอยเข้าประตูและปิด
สงสัยใช่ไหมล่ะว่าทำไมคนเป็นพี่ถึงยังไม่รู้เรื่องอะไร
…เพราะความสูงของโซฟาช่วยไว้ยังไงล่ะ
อย่างมากหญิงสาวที่ยืนมองจากด้านหลังโซฟาและห่างออกไปก็เห็นได้แค่หน้าถึงคอของคนรัก
โดยที่ไม่รู้เลยว่าขณะชายหนุ่มหันกลับมายิ้มให้และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ปากนึงยังเขยื้อนขึ้นลงคงเป็นทักษะพิเศษของพวกชอบกินขโมยกินระหว่างกลัวพี่สาวจะเห็นเลยหมอบต่ำบนโซฟา
แบคฮยอนถอยหน้าออกมาเหมือนตั้งหลักแล้วเข้างับฮอตด็อกราวกับลูกหมาน้อยผู้กระหาย
ลืมอายไปเลยและลืมไปว่าแก่นกายนี่ก็คือของของพี่
ก็ใครใช้ให้แฟนพี่เปิดทางขนาดนี้แถมมีท่าทีถูกใจ
ร่างเล็กได้เสียงเครือเป็นคำชมเลยยิ่งอมซะมิดและต่อให้คิดถอยก็คงไม่ได้เพราะฝ่ามือใหญ่ที่ตอนแรกเคยใช้กดแผ่นหลังเล็กบัดนี้เปลี่ยนมากดหัวกลมจนใบหน้าใสจมอยู่กับหว่างขา
เรียกว่าลืมตาอ้าปากไม่หุบเพราะมีของใหญ่คล้ำ
แบคฮยอนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงแสนเชื่องที่ยอมขยับตามการบังคับของเจ้านาย
ผลุบหัวขึ้นผลุบหัวลงตามมือที่ดึงผมอมของร้อนจนคับขอบปาก
พยายามจะแลบลิ้นลากไปกลับจบด้วยการงับพร้อมเอามือเข้าช่วยและด้วยแรงกดดันจากหลายๆทาง
ชานยอลเม้มปากแน่นและมือที่ขย้ำผมร่างเล็กก็เกร็งขึ้นมา
หน้าชายหนุ่มนี่เสียขณะที่แบคฮยอนก็พยายามทำให้ของแข็งอ่อนเปี้ยะเพลียแรง
ขบก็แล้วงับก็เข้าเอาฟันขูดเบาๆก็มี จนวินาทีที่เป็นอิสระจากการถูกกดอดโชว์ลีลาปลายลิ้นไม่ได้
แค่ใช้เวลาไม่นานด้วยซ้ำน้ำซอสก็กระเด็นเปื้อนลิ้น
กลิ่นคาวคลุ้งขณะน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเบาๆร่างเล็กเอาปากรับ
ทำเหมือนไม่เคยกินน้ำ
เอามือจับๆแตะๆและมีบางส่วนกระเด็นเลอะใบหน้า
แบคฮยอนกลับมานั่งหลังตรงคงสภาพเลอะเทอะจนต้องเป็นชายหนุ่มที่เพิ่งหลุดจากอารมณ์พิศวงคงรู้สึกผิดมั้งที่ทำให้น้องชายแฟนสกปรกเลยถกชายเสื้อของน้องชายแฟนเองนั่นแหละขึ้นเช็ดปากให้
เป็นการจงใจเพราะอยากเห็นตับไตไส้พุงของคนร่างเล็ก
แล้วเมื่อได้เห็นจึงยิ่งหยุดไม่ได้ใช้ริมฝีปากหนาช่วยทำความสะอาดบนใบหน้าซะเลย
เนื่องจากก็เคยจูบจึงเริ่มจากดูดดื่มตั้งแต่แรกและแลกลิ้นกลางอากาศแบบไม่กลัวใครออกมาเห็น
จนน้ำลายกระเด็นก็ไม่ยอมหยุด
เพราะมันสุดจะทนต่างคนต่างทำปุ่มยับยั้งอารมณ์เสีย
อย่างน้อยก็ขอแค่ได้เลียมุมปากแล้วงับเบาๆ
ชานยอลเย้าด้วยการงับปากล่างบางแล้วดึงระหว่างสงสายตาทะลึ่งมองคนสบตาตอบ
“บอกหน่อยสิว่าใครเป็นคนสอน”
“ของแบบนี้ต้องมีคนสอนด้วยเหรอ”
แบคฮยอนแกล้งตีหน้าฉงนย่นคิ้วใส่คนที่วันนี้ระบายยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์เป็นครั้งแรกและยิ่งแยกเขี้ยวเมื่อได้ฟังประโยคถัดไปของร่างเล็ก “ผมทำเป็นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้วนะ…อยากลองพิสูจน์ดูไหมล่ะ”
“โรงเรียนนายเขาสอนอะไรกันแน่”
“สอนว่าด้านได้อายอด
ถ้ามัวแต่อายก็อดกันพอดี”
“นายนี่มันเป็นเด็กที่ร้ายจริงๆ”
“พี่อายุเท่าไหร่?”
“ถามทำไม”
“เท่าไหร่?”
“ยี่สิบเก้า”
“งั้นเอาแบบนี้ไหม พี่เป็นพ่อ
ผมเป็นลูก …พี่อยากลองข่มขืนลูกตัวเองดูไหมล่ะ”
“นายนี่มัน”
“จะปฏิเสธเหรอ?”
“อย่าบอกให้พ่อคนนี้หยุดก็แล้วกัน…”
ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กช่างทำให้ผู้ใหญ่ตื่นเต้นน่าเร้าใจจนเลือดในกายเดือดปุดๆ
ชานยอลฉุดร่างเล็กจากโซฟาด้วยการอุ้มพาดบ่าพาเข้าห้องรับรองที่อีกคนใช้นอนเดียวดายอยู่ทุกวัน
แต่วันนี้ท่าจะมีเรื่องเมามันเกิดขึ้นจนทำให้ไม่ได้หลับนอน
แล้วมือใหญ่ก็ไม่ลืมลงกลอนเมื่อเข้ามาก่อนจัดการทุ่มแบคฮยอนลงกับเตียงเสียงร่างกายกระทบฟูกยิ่งทำให้รู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้สวมบทเป็นคุณพ่อแค่ผิวเผินเกิดอาการอินจริงๆและนั่นเป็นเหตุที่ทำให้คนลุกซึ่งกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงเริ่มลนลาน
อาการเด็กขี้กลัวจนตัวสั่นเข้าสิงเหมือนกัน
ทำเป็นหน้าซีดปากสั่นขณะขบฟันกับริมฝีปาก
ท่าทางอาจหลอกคนได้แต่นัยน์ตาไม่ใช่อย่างนั้น
แววตาใสวิบวับยามแฟนพี่ยืนปลดกระดุมเสื้อและเผื่อมือแกะถึงกระดุมกางเกงยีนส์
รวมถึงชั้นในที่ถูกระเห็จออกจากร่างกายสูงใหญ่เผยอะไรต่อมิอะไรที่ใครเห็นก็ต้องอยากจ้องมอง
มีของดีแบบนี้นี่เองถึงมัดใจพี่สาวตนได้ …แบคฮยอนเพิ่งจะเข้าใจความโชคดีของพี่สาวระหว่างทำเป็นถดเท้าหนีจะปรี่คลานไปหัวเตียง
มันเหมือนฉากในละครสวรรค์เบี่ยงที่พอนางเอกพยายามเลี่ยงหลบแทบตายแต่สุดท้ายก็ถูกลากกลับมาขณะเสียงอ่อนแอร้องว่าอย่า
อย่าทำหนู
เด็กน้อยด้อยการปกป้องตัวเองหาเลยจะรู้ว่ากำลังสู้อยู่กับหัวหน้าฝูงหมาป่าที่ตัดสินใจฉีกเสื้อยืดตัวโคล่งจากทางด้านหลัง
ทึ้งกระชากจนปรากฏแนวกระดูกสันหลัง
เสื้อผ่ากลางแบ่งเป็นสองและยังไม่ทันร้องให้คนช่วย
ด้วยความเสียเปรียบทางสรีระชั้นในเลยถูกปลดลงติดตรงหน้าขา
ร่างกายเล็กถูกจับพลิกให้กลับมานอนหงายและคนล่อนจ้อนก็มุดเข้าหาร่างกายใหญ่คาตรงหว่างขา
เข้ามาแบบดีๆไม่ชอบชักตอบไม่ถูกว่าใครกันแน่ที่ร้าย ดูชานยอลจะถูกใจบทบาทข่มเหงเป็นพิเศษยามดึงเศษเสื้อออกจากตัวคนใต้ร่างที่ต้องกางขาอัตโนมัติจนชั้นในล่นลงสู่ข้อเท้า
ก่อนจะรีบเกรงปลายนิ้วเท้าจิกกับผ้าปูเตียงเสียงสั่นเครือเต็มไปด้วยคำปฏิเสธขณะลิ้นร้อนทำทุเรศกับร่างกาย
ใจแบคฮยอนนี่เต้นตุบตับเมื่อความยวบยาบขยับเคลื่อนไปส่ายทีขวาที
อยากเขยื้อนอกหนีก็เหมือนจะทำผิดวิธีไปหน่อย
สุดท้ายเลยไม่ต่างจากคอยแอ่นอกหาปากที่อ้าอยู่ตลอด
ไม่รู้ว่าขัดขืนอีท่าไหนแต่จากทุบช่วงไหล่หนักๆพักหลังๆชักกลายเป็นการกอดหลวมๆ
โดยที่รอบบริเวณอกเริ่มท่วมไปด้วยน้ำลาย
แบคฮยอนหายใจแรงมากระหว่างซอกคอถูกซุกไซร้และใช้ปากที่เผยออ้าเป็นตัวส่งสำเนียง
ร่างเล็กได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของคุณพ่อใจร้ายอยู่ข้างกกหู
ประโยคบอกว่าอย่าทำหนูเกิดขึ้นเบาๆในความเงียบอีกครั้งและทั้งที่กำลังขอร้องแท้ๆ
ถ้าแม่มาเห็นเข้าคงอกแตกตายเพราะพ่อใจร้ายเข้าปลุกปล้ำขยับผิวลูกชายเต็มสองมือถือว่าแรงเยอะเลยบีบแข้งบีบขา
ยิ่งกว่ามือปลาหมึกก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ได้จูบลูกรักผู้แสนน่ารัก
ปาร์คชานยอลจับหมับเข้าที่คางแล้วบังคับให้ร่างเล็กค้างท่าหน้าตรง
คงจะพอจินตนาการภาพความรุนแรงระหว่างคนในครอบครัวออก
การที่ปากหนาโถมเข้าใส่ทำน้ำลายในปากบางกระฉอกออกเลอะมุมปากไม่น้อยและคอยเอารัดเอาเปรียบเอาเปรียบลิ้นเรียบลื่นอย่างกับปลาไหล
ส่วนลูกชายก็ใช่ย่อยอ่อยด้วยสายตาหยาดเยิ้มเริ่มสวมบทบาทเป็นคล้อยตาม
ก็จะทำลีลาท่ามากอยู่ทำไมเอาแค่พอเร้าใจและไหนๆในเมื่อคืนนี้ก็ต้องเสร็จคนเป็นพ่อเลยขอกอบโกยความหรรษาดีกว่าพลางภาวนาว่าอย่าให้คนเป็นแม่มาเจออย่าให้มีคนเข้ามาตนจากค่ำคืนนี้ช่วยเด็ดขาด
แบคฮยอนน่ะป่วยการที่จะสอนให้เรียบร้อยหรือรู้จักเขินอายและจะไม่บอกด้วยว่าทำไมถึงเป็นคนอย่างนี้
ในระหว่างที่ขยับปากรับจูบหื่นกระหาย มือไม้เล็กนั้นก็ลูบคลำตามร่างกายใหญ่เริ่มจากช่วงไหล่ไปกล้ามเนื้อด้านหลัง
กลับมาลูบสีข้างแล้วลากฝ่ามือลงถึงช่วงก้นและไม่พ้นบีบขย้ำ
ทำเพื่อระบายอารมณ์อัดอั้น
คั้นเนื้อสากเน้นๆขณะนอนเล่นลิ้นสลับกินกันไปกันมา
ก่อนมือเล็กจะล้วงหาบางอย่างเจอเผลอหน่อยเป็นไม่ได้
ไม่รู้ติดใจอะไรนักหนาถึงชอบคว้าของสงวนและข่วนเบาๆด้วยสัมผัสมือ แค่นอนถือไม่พอยังขออนุญาตเสียงรอดไรฟันว่าผมทำให้นะ
แล้วมีหรือที่ว่าชานยอลจะปฏิเสธ
เกิดอยากเป็นคนสบายบ้างเลยพลิกตัวลงนอนแล้วช้อนตัวร่างเล็กขึ้นมานั่งทับ
หลังจากนั้นจึงปล่อยให้คนบนร่างขยับพฤติกรรมตามใจชอบ
แบคฮยอนรีบปลดกางเกงชั้นในที่ติดอยู่ตรงข้อเท้าตัวเองออกพลางถอยหลังลงและหมอบอยู่กับหว่างขายาว
เลือกเอาปากอมในคราวเดียวเกี่ยวตวัดลิ้นเพราะไม่อยากรอ
อยากทำด้วยปากแค่พอแก้กระษัยเพราะร่างกายเริ่มกระสันเต็มแก่
แบคฮยอนแค่ชโลมน้ำลายให้ทั่วแก่นกายที่ตั้งฉากและดูดจนแก้มตอบทำให้คนนอนชอบแถมพึงพอใจให้คำชื่นชมไม่ขาดปากอยากอยู่อย่างนี้ไปตลอด
ชานยอลอ้อนด้วยสายตาทรงเสน่ห์ตอนร่างเล็กหยุดขยับผงกหัวหยุดเคลื่อนปากเข้าออกและไม่บอกก็เข้าใจว่าที่แท้เด็กแก่แดดกำลังรอให้ของร้อนผองขยายเต็มที่
ส่วนตัวเองก็หนีขึ้นมาคร่อมเข่าระหว่างเอวสอบลอบคว้ามือใหญ่คลายนิ้วยาวทั้งห้าเหมือนมีเรื่องราวอยากให้ช่วย
ซึ่งชายหนุ่มก็เข้าช่วยทันทีที่รู้ความหมาย
การจะสอดใส่ของจริงถ้าไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ในช่องว่างก็คงจะเป็นเรื่องลำบาก ถ้าไม่อยากให้กิจกรรมสะดุดก็ต้องรู้จักกระตุ้นกันก่อนและในตอนที่มือใหญ่ยอมให้ความร่วมมือยอมให้บังคับ
แบคฮยอนเป็นคนจับนิ้วยาวค่อยยัดเข้าตรงหว่างขาเอง
ทั้งที่พยายามใจเย็นแต่ก็อดผวาเองไม่ได้
พยายามหายใจให้เป็นปกติเมื่อทำทีจะเอานิ้วที่สองยัดเข้าตามและพยายามยัดนิ้วที่แอบยากเย็น
ชานยอลเห็นท่าไม่ดีเลยช่วยดันนิ้วแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยก่อนขยับเพื่อขยายช่องว่าง
จนร่างเล็กแทบเข่าอ่อนตอนนั้นจิกเล็บกับแขนที่เอื้อมมาจับเอว
เพราะมันทั้งรวดเร็วและรุนแรง
แค่นิ้วสามนิ้วยังแทบแยกร่างออกเป็นสอง เสียงพร่าหลุดร้องคลออย่างที่ไม่รู้ว่ากำลังทรมานหรือมีความสุข
แต่ที่รู้ก็คือไม่มีการขอหรือบอกให้ชายหนุ่มหยุด
ดังนั้นนิ้วยาวจึงรีบผุดเข้าผุดออกตลอดระหว่างถูกผนังอุ่นตอดเป็นจังหวะแน่นๆ
จนต่างคนต่างฝ่ายต่างหน้าเสียและชักไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไปแล้ว
แค่พอได้มองตาแค่พอชานยอลชักฝ่ามือกลับ แบคฮยอนก็ขยับตัวถอยหลังจนหว่างขาจ่อกับบางอย่างพอดีและวินาทีนั้นร่างเล็กก็เป็นคนดันตัวลงมาเองอย่างเชื่องช้าขณะเริ่มบูดเพราะความอึดอัด
ขัดใจแทนที่จะได้สวมใส่รวดเรียวแต่ต้องยึกยักชะงักแล้วค่อยเคลื่อนต่อ
ก็เพราะร่างกายยังเป็นเด็กในวัยยังไม่โตเต็มที่ถ้าผลีผลามคงมีเลือดอาบ
หลังจากช่องว่างแคบๆกลืนกินของร้อนที่ขยายใหญ่จนมิด
นั่งนิ่งแค่แป๊บเดียวแบคฮยอนที่จับเอวสอบไว้ก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างเนิบนาบ
ขยับแอ่นหน้าและเอนหลังระหว่างที่คิ้วยังย่นไม่เลิก
ไม่ต่างจากชานยอลที่หน้ากระตุกประหนึ่งคนอารมณ์เสีย ชานหนุ่มแสดงความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
เพราะความกลัดมันมันอดทนกันได้ที่ไหนและเมื่อรู้สึกว่าความค่อยเป็นค่อยไปสมควรพอ
ชายหนุ่มขอทำหน้าที่เป็นผู้นำ
มือใหญ่เอื้อมขย้ำแก้มก้นนิ่มเต็มแรงขณะเปลี่ยนเป็นฝ่ายขยับสะโพกขึ้นลงตรงจังหวะพอดีกับที่แบคฮยอนเคลื่อนตัวลงมาจนโดนแก่นกายที่กำลังตั้งฉากทิ่มแทง
แรงเสียดทานสูงพาลทำให้ร้องคราง มือขาวรีบยกมือปิดปากตัวเองอย่างรวดเร็วระหว่างสิ้นแล้วซึ่งความทุกข์ทรมาน
กลายเป็นชักเมามันดันสะโพกคืนกันไปคืนกันมา
ร่างเล็กขย่มหน้าขาคนนอนเกร็งจนเรียกได้ว่าแทบกลายเป็นความรุนแรงแฝงความชักช้าไว้เล็กๆเป็นเด็กที่ยั่วยวนเก่งน่าดูจนถูกขู่ถูกเตือนไปหลายรอบ
ร่างเล็กชอบเวลาสะโพกสอบสวนกระแทกขึ้นมาแล้วตัวเองก็อ้าขารับอย่างแม่นยำ
จนเกรงว่าคงได้มีชำในกันบ้างร่างแบคฮยอนสั่นคลอนเหมือนตอนโดนเขย่า
ผมเพล้ารุงรังปิดหน้าปิดตาจนชานยอลที่อยากเห็นหน้าคาตาร่างเล็กระหว่างมีอารมณ์รีบลุกขึ้นนั่งว่องไวโดยที่การสอดใส่ไม่มีหลุด
อาจสะดุดแต่สุดท้ายก็ต่อจังหวะติด นั่งแบบนี้ทุกอวัยวะยิ่งชิดเข้าไปอีก
เรียกว่าตุ่มไตบนหน้าอกขาวละเอียดลอยอยู่ใกล้หน้าจึงอ้าปากงับเต็มๆคำ
ทำทั้งที่ช่วงล่างก็ยังขยับสองมือใหญ่เคลื่อนจับแก้มก้นนิ่มอัดกับหน้าขา
กะไม่ให้หายใจหายคอ
ร่างเล็กที่ยกแขนคล้องคอแข็งฝืนแรงไม่ไหวเลยได้แต่ปล่อยความเวรตามกรรมปล่อยตัวตามแรงโน้มถ่วงของโลก
แบคฮยอนยกหน้าที่ให้ชายหนุ่มเป็นผู้กระทำ
ส่วนตนก็ทำตามความพอใจซุกไซร้หน้ากับสันกรามเม้มปากตามแก้มกร้าน
ลากลิ้นจนดันมาเจอเข้ากับลิ้นใหญ่และหลงแวะทักทายอยู่นาน
ก่อนความกระสันและผลจากการบากบั่นขยันสอยช่วงล่างจะยิ่งทำให้ทั้งคู่หูอือตาลาย
งับอะไรได้ก็งับ
แล้วตามด้วยถ้อยคำสบถของคนอายุเยอะกว่า
ส่วนเด็กน้อยที่เรียกว่าใช้ของร่วมกับพี่สาวก็ครางยาวพยายามกระท่อนกระแท่น
ยิ่งกอดแฟนพี่ตอนที่รู้สึกได้ว่ามีสายน้ำฉีดอัดเข้าในร่างอย่างจัง
ผนังร้อนเจอน้ำร้อนพ่นใส่จนร่างเล็กสะดุ้งกรายๆระหว่างชายหนุมกระตุกพร้อมครวญคำราม
ค่ำคืนนี้ท่าจะห้ามกันได้ยากเพราะต่างฝ่ายยังไม่ทันหายหอบดีก็รีบรื้อฟื้นวิธีร่วมรักตามมาตรฐาน
ร่างเล็กลงนอนกับเตียงและกางขาออกกว้างพลางรับบางอย่างเข้ามาเน้นๆ เห็นว่าเคยชานยอลจึงไม่กังวลมาก
อีกอย่างก็เป็นความประสงค์ร่วมกันเลยกลับเข้าสู่โหมดกระแทกกระทัน
แบคฮยอนรีบคว้าขอบเตียงกันตกเพราะแรงส่งจากสะโพกของอีกคนทำเอาเนื้อตัวไถลย้ายเขยื้อนบนเตียง
เสียงแหลมกรีดร้องเล็กๆยามคนอยู่ร่วมเตียงเร่งจังหวะพาอารมณ์ขึ้นสูงเหมือนรถไฟเหาะ
แก่นกายเจาะทะลุทะลวงเข้ามาอย่างป่าเถื่อน เล่นซะร่างเคลื่อนเสมือนมนุษย์ไร้กระดูก
ถูกปลุกปล้ำโดยขย้ำบริเวณหน้าท้อง
ต้องยกมือปิดปากอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มดันชักของร้อนออกจากช่องว่างจนสุดแล้วพามุดกลับเข้ามาใหม่รวดเดียว
ทำเอาเสียวสะท้านและส่งผลให้ใบหน้าบิดเบี้ยว
ท้องน้อยร่างเล็กบิดเป็นเกลียวจะร้องว่าเดี๋ยวก็กลายเป็นบอกโต่งๆว่าอย่าหยุด
แต่ซึ่งถึงจะบอกให้หยุดเดี๋ยวนั้นคิดว่าชานยอลที่กำลังกัดฟันอดทนจะฟังไหมล่ะ
ต่อให้เอาประธานาธิบดีมาห้ามหรือถูกตำรวจแจ้งจับข้อหาพรากผู้เยาว์เอาเด็กต่ำกว่าสิบแปด
บางที่ถ้าเป็นแฟนสาวมายืนร้องห่มร้องไห้ตนก็อาจจะไม่หยุดด้วยซ้ำ …จนกว่าจะขยำเนื้อเด็กให้แหลกล่ะมั้ง
อยากรู้เหมือนกันว่าเรี่ยวแรงของเด็กวัยรุ่นจะทนทานได้สักแค่ไหน
แบคฮยอนเด็กแก่แดดจะอดทนได้สี่น้ำ
ถ้าทำแบบไม่ทะนุถนอมคนชอบลองดีจะเข็ดไหมหรือจะร้องไห้ขี้มูกโป้งรึเปล่าถ้าตนอัดแรงใส่ขนาดนี้รุนแรงขนาดที่เสียงแหลมขาดหายกลางอากาศเพราะเกิดอาการร้องไม่ออก
ชานยอลไม่รอให้ร่างเล็กละล้าละล่ำบอกความในใจ
วิญญาณคุณพ่อใจร้ายยังคงอยู่เสมอหรือเผลอๆจะฝังอยู่ในนิสัย
มือใหญ่พลิกให้แบคฮยอนที่อ่อนเรี่ยวอ่อนแรงนอนคว่ำและดันให้ลุกจนอยู่ในท่าคลานสี่ขา
หลังจ่อหาจังหวะและได้โอกาสยัดเหยียดแก่นกายเข้าข้างหลังภายในคราวเดียว
ยังใจดีกลัวว่าจะล้มเลยช่วยโอบหน้าท้องขาวไว้ขณะใช้ทักษะควบม้าโยกหน้าโยกหลังเร็วๆ
เอวสอบเขยื้อนและเกรงจนเกิดกล้ามหน้าท้อง
ชายหนุ่มร้องเบาๆเพราะพอใจเป็นเวลาเดียวกับที่ใช้ฝามือข้างที่ว่างตบแก้มก้นนิ่มเข้าฉาดใหญ่
ตบซ้ำๆจนเนื้อละเอียดปรากฏรอยแดงแบคฮยอนได้รอยนิ้วทั้งห้าเป็นตราประทับขณะพยายามกักเก็บเสียงและจิกผ้าปูเตียงแทบขาด
เพราะหนึ่งอาจจะกลัวคนเป็นพี่ได้ยินหรือสองกลัวแฟนพี่รู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายชอบรองรับอารมณ์รุนแรง
…ถ้าไม่รู้น่ะสิแปลก
ชานยอลรู้เลยยิ่งพยายามทำคลำเจอของสงวนของร่างเล็กก็ช่วยรูดแผ่วเบาเอาความอัดอั้นออกซะบ้างระหว่างยัดเหยียดความรุนแรงอัดชนสะโพกขาวติดๆ
จนความพุ่งพล่านกลับมาประชิดรู้สึกอยากปลดปล่อยน้ำอมฤทธิ์อีกครั้ง
ชานยอลจึงยิ่งเร่งความเคลื่อนไหวยักย้ายสะโพกเรียกว่าโขกสับร่างเล็กที่พยายามเกร็งขาสู้ระหว่างหน้าลดลงไปซบอยู่กับหมอนและเกิดเสียงห่อนในห้องเมื่อช่องว่างปริ่มน้ำถูกพายุลูกสุดท้ายซัดจนน้ำกระฉอก
น้ำสีขาวขุ่นไหลออกจากช่องทางด้านหลังทันทีเมื่อชานยอลที่ถึงจุดสุดยอดถอนแก่นกายก่อนเป็นฝ่ายเดินเข่าเข้าหาแบคฮยอนที่พยายามยันตัวขึ้นจากเตียงและแค่เพียงหันมาเจอของร้อนซึ่งเยิ้มไปด้วยหยดน้ำกำลังชี้หน้า
ระดับนี้ไม่มีคำว่าน่าเกลียดแล้ว แววตาใสวาบวาบขยับปากอม
ร่างเล็กถ่มน้ำลายรดแก่นกายใหญ่พลางช้อนนัยน์ตายั่วยวนจ้อง
ชายหนุ่มก็มองสบตามองหน้าคนที่ไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นเด็กอยู่ตลอดก่อนแย้มยิ้มหวานที่ทำเอาคนเห็นนึกหวั่น
แบคฮยอนตัดสินใจบ้วนสิ่งที่ขยายใหญ่คับปากออกอย่างเชื่องช้าก็พอดีกับตอนที่ร่างกายสูงใหญ่โถมใส่
บอกเลยว่าถ้าให้บรรยายต่อก็คงมีเหนื่อยกันไปข้าง
เอาเป็นว่าหลังจากปลดปล่อยหนึ่งครั้ง ทุกอย่างก็จะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ แฟนพี่เป็นฝ่ายสอดใส่
ส่วนน้องชายแฟนสาวเป็นฝ่ายอ้าขา
มีสลับท่าบ้างพอให้คลายเมื่อย ช่วยกันทำให้ฟูกเตียงยิ่งยุบตรงกลางแทบกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ
เกิดเงาตะคุ่มบนฝาผนังสองร่างขึ้นทับกันแล้วเคลื่อนเป็นจังหวะเดียว วงแขนยาวเกี่ยวเอวขาวไว้ตลอดในเงายังปรากฏภาพกอดกันแน่นแขนเล็กคล้องคอคนตัวสูงยืนดูดดึงริมฝีปากหนา
ดูท่าคงอีกนานกว่าจะทำใจข่มตาหลับ
จะหลับได้ก็คงเพราะเหนื่อยกายสลบไปเอง…
“ชานยอลคะ ชานยอล…”
เจ้าของชื่อซึ่งกำลังถูกปลุกครางรับในลำคอแล้วงัวเงียลืมตา “ทำไมไม่เข้าไปนอนในห้องล่ะคะ” หญิงสาวแอบบ่นคนเป็นแฟนเข้าให้เมื่อเดินออกมาจากห้องในตอนเช้าแล้วเจอชายหนุ่มนอนสลบสไลบนโซฟาที่ว่าขนาดเล็กกว่าตัวและคงนอนไม่สบายเท่าเตียง
“เมื่อคืนผมดูบอลจนเผลอหลับไปน่ะ”
ชายหนุ่มยิ้มบางๆขณะเอียงข้างแก้มซบฝ่ามือที่เอื้อมมาลูบหน้าเบาๆ “แล้วนี่คุณจะออกไปไหนตั้งแต่เช้า” คนกึ่งๆยังไม่ตื่นเต็มตาทำหน้าฉงน
“มีนัดกับเพื่อนค่ะ กว่าจะกลับคงเย็นๆ
ฉันฝากคุณดูแบคฮยอนด้วยนะ”
“คงยังไม่ตื่นมั้ง” ชานยอลพูดน้ำเสียงราบเรียบยามหันไปมองประตูซึ่งยังปิดตายและไร้ปฏิกิริยาจากคนข้างใน “ถ้าอีกชั่วโมงฉันฝากคุณปลุกน้องจะเป็นอะไรไหมคะ” สาวเจ้าอ้อมแอ้มพลางคิดว่าขอร้องมากไปรึเปล่า
เนื่องจากก็รู้ว่าทั้งแฟนและน้องชายเหมือนจะไม่ค่อยลงรอยกัน
กลัวจะเป็นการทำให้แฟนหนุ่มลำบากใจซะเปล่าๆ “ได้สิ อีกครั้งชั่วโมงใช่ไหม”
แต่ประโยคตกลงพร้อมรอยยิ้มอ่อนก็ทำให้เบาใจไปได้เปราะหนึ่งและก่อนจากไปก็ไม่ลืมหอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาคนหลับตาพริ้มรอให้หอมอย่างน่ารัก
ชานยอลโบกมือบายบายคนรักไล่หลัง รอจนกระทั่งประตูคอนโดปิดลงและมีเสียงลงกลอนอัตโนมัติร่างใหญ่ถึงได้ลุกขึ้นมานั่งดีๆ
ชายหนุ่มถอนหายใจหนึ่งทีขณะวอร์มร่างกายที่แสนล้าให้ตื่นจากความง่วง
จนเมื่อลุกขึ้นยืนก็มีเศษผ้าอะไรไม่รู้ร่วงจากตัก ชายหนุ่มค่อยๆก้มหลังลงเก็บมันอย่างเชื่องช้า
ซึ่งดูท่าก็ไม่ได้ตื่นเต้นหรือสงสัยใดๆ ออกจะรู้ต้นสายปลายเหตุด้วยซ้ำทำแค่ถือแล้วเดินเอาไปทิ้งถึงถังขยะ
“พี่ไปแล้วเหรอฮะ…”
“ก็อย่างที่เห็น”
“เย็นชาจัง” แบคฮยอนที่เดินเข้ามากอดแผ่นหลังกว้างพึมพำอย่างแง่งอน
อุตส่าห์ตื่นก่อนเวลาเพราะอยากเห็นหน้าอีกคนทั้งที่ล้าแทบตายแต่สุดท้ายก็ถูกเมินทำห่างเหินเหมือนตนเป็นตอ
“พ่อฮะ…”
“อย่าเรียกฉันแบบนี้” ชานยอลที่มีสีหน้าคล้ายหงุดหงิดหมุนตัวกลับมาและเจอเข้ากับสภาพคนร่างเล็กซึ่งยืนห่มตัวแค่ผ้าขนหนู “…พ่ออย่าทำหนูเลยนะ” ริมฝีปากแดงว่าเบาๆ
ดวงตาเรียวยังเฝ้ามองดวงตากลมโตที่ฉายความน่าดึงดูดก่อนถอยหลังออกห่างน้อยนิด
ทั้งที่เห็นกับตาว่าเป็นคนลงมือปลดผ้าขนหนูซึ่งติดอยู่บนร่างเองแต่ร่างเล็กก็แสร้งเหมือนตกใจ “อุ้ย”
เป็นการยั่วกันหน้าด้านๆที่ทำให้ชานยอลยกมือขึ้นปรบชื่นชมแล้วจบด้วยความเงียบ
จะเหลือก็แค่เสียงคล้ายเหมือนเสียงรูดซิปกางเกงที่ดังขึ้นแว่วๆแล้วฝ่ามือใหญ่ข้างนึงก็กวักมือเรียก
“หนูยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยหนิ” ส่วนมืออีกข้างก็งัดบางอย่างออกมา “…มาหาพ่อมา”
***ตุ๊กติ๊กทอร์ค
เนื่องในวันเกิดพี่ชานยอลเลยอัพซะเลยหนิ ไม่ได้แต่งncนาน ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัย5555555555555
55. อ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบ ยังไงแท็กบอกกันหน่อยนะจ๊ะ
ไว้จะหาโอกาสมาฟิคสั้นอีก ฮี่ฮี่ฮี่