วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

[OS/CHANBAEK 18+] Big Dogs Smell Men




     Big Dogs Smell Men




                “มัวโอ้เอ้อยู่ได้ เดินให้มันเร็ว ๆ หน่อยสิวะ!”

                เสียงห้าวตะโกนแข่งกับเสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังมาจากในกรงขัง ระหว่างปล่อยให้พวกเดนคนที่ต้องโทษคดีอาญาทั้งหลายเดินเรียงแถวขึ้นบันไดเจ้าหน้าที่ก็คอยใช้กระบองฟาดกับเสาหลายต่อหลายครั้ง รำคาญพวกปากมากที่ยังแซวนักโทษน้องใหม่อย่างออกรส ในบรรดาคนทั้งสิบที่มาใหม่ คนที่แปดจากในแถวตกเป็นเป้าหมายของกลัดมันทันที

เพราะนานปีดีดักถึงจะมีผู้ชายน่ารักผ่านมาสักคน กับพวกที่วัน ๆ ไม่พ้นคิดถึงแต่เรื่องอย่างว่ามากกว่าอิสรภาพ ไม่แปลกที่ทั้งหมดจะพยายามเรียกร้องความสนใจจากร่างอ้อนแอ้น ต่างก็ยื่นแขนออกมาจากลูกกรงขณะส่งเสียงกวนใจ ดูไปก็เหมือนพวกซอมบี้ที่เห็นเนื้อสดเป็นไม่ได้ ไม่ใช่แค่ทางวาจายังแทะโลมผ่านภาษากาย ทำท่าเด้าลมอย่างหื่นกระหายบ้าง บางคนก็ถึงขนาดถอดกางเกงโชว์ของลับ ก่นดาข้ามหัวกันไปมา ผลัดกันเกทับว่าของใครใหญ่กว่าท่ามกลางสายตาเอือมระอาของผู้คุมที่ยืนรอจนนักโทษใหม่เข้าประจำห้องเรียบร้อยแล้วลูกกรงก็ทยอยปิดเองอัตโนมัติ

นักโทษรหัส E.6145 โยนสัมภาระที่ถือมาลงบนเตียงท่ามกลางเสียงผิวปากไม่หยุดหย่อน ก่อนทั้งเรือนจำจะเงียบสงัดเมื่อคนถูกแซวหันกลับมาปรายตามองผ่านซี่กรง ตรึงสายตาทุกคู่ที่พุ่งตรงมาได้อยู่หมัด หลายคนเผลอกลั้นหายใจลุ้นอยู่ในอกว่าคงต้องโดนด่า แต่จู่ ๆ ร่างบางก็ถลกกางเกงลงเพื่อโชว์บั้นท้าย หันให้ดูก่อนจะชูนิ้วกลางใส่ สร้างเสียงเฮลั่นจากนักโทษชายโดยมิได้นัดหมาย บางรายแกล้งล้มลงไปเหมือนจะตาย ทำให้แต่ละคนคลุ้มคลั่งอย่างที่พร้อมจะแหกลูกกรง

แล้วฉายา นางพญาแห่งทัณฑสถาน ก็ตกเป็นของ พยอนแบคฮยอน ไปโดยปริยาย

นับตั้งแต่การย่างกรายเข้ามาของร่างบาง อัตราการทำร้ายร่างกายในเรือนจำก็เพิ่มขึ้นสูง

ท่ามกลางเสียงเชียร์อย่างสนุกสุดเหวี่ยง ตัวต้นเหตุทำเพียงยืนกอดอกมองผู้ชายสองคนชกต่อยกันเพื่อแย่งตัวเอง ทั้งที่ก็ไม่ได้รับปากว่าคนเก่งกว่าจะได้ตนไปเชยชม แต่พวกบ้าคลั่งก็สมยอมและพร้อมใจจะเลือดตกยางออก ประลองเพื่อหาราชาเคียงข้างนางพญาผู้สูงศักดิ์ แต่การกัดกันอย่างกับหมาก็ต้องมีอันจบลงโดยที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะเหมือนทุกรอบไป แม้ไม่อยากทำเพราะกำลังดูเพลิน ๆ แต่ผู้คุมก็ต้องเดินเข้ามาระงับเหตุหลังจากที่ปล่อยให้พวกเวรตะไลสร้างความวุ่นวาย

โทษสำหรับพวกก่อเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก ถ้าไม่ถูกจับขังเดี่ยวก็ต้องไปดมกลิ่นเยี่ยวด้วยการขัดห้องน้ำ

ส่วนสำหรับแบคฮยอนก็ลอยตัวเหนือปัญหา เดินออกจากวงล้อมหน้าตาเฉย ไม่เคยมีส่วนรับผิดชอบใด ๆ แต่เวลาอาบน้ำรวมก็เหมือนเป็นช่วงคืนกำไรให้แก่ทุกคน แน่นอนว่าก็เป็นนักโทษคนหนึ่งที่ไม่มีสิทธิพิเศษเหนือใคร ก็แก้ผ้าอาบน้ำรวมกับนักโทษชายคนอื่นตามปกติ แต่ที่แตกต่างเห็นจะเป็นบรรยากาศ จำนวนคนแน่นขนัดแล้วต้องนับรวมจำนวนผู้คุมที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะเข้ามาคุมในโรงอาบน้ำ แต่ร่างบางก็พึงพอใจกับการตกเป็นเป้าสายตาของพวกถ้ำมอง ไม่ถือสาถ้าใครจะควักน้องชายออกมาสำเร็จความใคร่ขณะใช้ตนเป็นเครื่องมือทางจินตนาการ ขอแค่ไม่มาสัมผัสโดนตัวก็พอ   

แต่ก็มีนะ คนที่ไม่คิดเข้าตามตรอกออกทางประตู แต่กลับใช้ทางลัด คิดจะรวบหัวรวบหางด้วยการขืนใจ

หารู้ไม่ว่าต้องแลกกับการเป็นไอ้ด้วนตลอดกาล  อ๊ากกกกกกกก  เสียงโอดครวญดังลั่นมุมอับเมื่อบ่ายนี้ จนเรื่องดังถึงหู พัศดี ผู้มีอำนาจเหนือผู้คุมทั้งหมด แบคฮยอนโดนใส่กุญแจมือมาตลอดทางโดยที่ในปากยังอมอะไรสักอย่างไว้ ตามขอบปากเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉาน ไม่ยอมคายบางอย่างทิ้งเพราะอยากทำให้มั่นใจว่ามันจะเอากลับไปต่อไม่ได้อีก

พยายามประวิงเวลา จนเมื่อเดินเข้ามาในห้องห้องหนึ่งถึงยอมบ้วนบางอย่างออกจากปาก มันรูปร่างไม่คล้ายหู ที่แท้เป็นส่วนปลายของกระจู๋ของคนที่พยายามจะข่มขืนตน พอหลอกล่อให้โอนอ่อนหน่อยได้ก็ไม่ลังเลที่จะกัดจนอวัยวะเพศขาดคาปาก คิดว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ถ้าไม่อยากจะเป็นไอ้ด้วนก็ควรถือคติดูแต่ตา มืออย่าต้อง เดี๋ยวของจะเสียหาย  

ระหว่างถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังก็ใช้มือทั้งสองข้างที่ยังถูกพันธนาการควานหาทิชชู่มาเช็ดปากอย่างแรง เพิ่งนึกได้ว่าต้องขยะแขยง แบคฮยอนใช้บานประตูของตู้เก็บเอกสารเป็นกระจกขณะยืนเช็ดคราบสกปรกตรงปลายคาง จนกระทั่งเห็นภาพเลือนรางรูปร่างมันเหมือนคนก็ชะงัก ค่อยปรากฏเงาสะท้อนมีคนยืนซ้อนด้านหลังและเสียงรองเท้าคอมแบทก็กำลังใกล้เข้ามา ก่อนนัยน์ตาใสจะสั่นระริกราวเจอสิ่งถูกใจ อาการแพ้ คนในเครื่องแบบ กำลังกำเริบถูกที่ถูกเวลา   

นายเองเหรอที่คนกำลังพูดถึงกัน…”

ดูเหมือนชื่อของร่างบางจะเป็นที่โจษจัน พัศดีอย่างปาร์คชานยอล ก็ได้ยินชื่อเสียงกระฉ่อนของอีกคนมามากเช่นกัน ส่วนแบคฮยอนก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นคนที่ถูกกล่าวขาน แค่หันกลับมากวาดสายตามองตั้งแต่โครงหน้าจรดเท้า ยิ่งตาลุกวาวเป็นพิเศษตอนเห็นอีกคนเลือกเหยียบและบดชิ้นเนื้อบนพื้นจนป่นปี้ ตอกย้ำภาพลักษณ์พวกพัศดีมือหนักตีนหนัก

ถ้าประเมินจากความสูงใหญ่ อวัยวะส่วนอื่นก็คงยืดยาวพอกัน  

แล้วคนพวกนั้นพูดถึงฉันว่าอะไรเหรอ  ถามกลับเพราะอยากสานบทสนทนาต่อ แต่พอถูกเมินก็ทำแค่ยักไหล่ ท่าทางเย็นชาไม่ทำให้ถอดใจง่าย ๆ เป็นฝ่ายเดินตามมาที่โต๊ะทำงาน แต่แทนที่จะหย่อนบั้นท้ายลงบนเก้าอี้กลับหย่อนลงที่ตักหนา จงใจให้ท่า มัวแต่อ้อมค้อมไปมาเสียเวลาเปล่า ที่เรียกมาเป็นการส่วนตัวก็คงอยากจะพิสูจน์เสียงลือเสียงเล่าอ้าง

แต่ฝันหวานก็ต้องล่มกลางคันเมื่อถูกผลักดันร่างออก จนแบคฮยอนแอบกลอกตาตามประสาคนเริ่มหงุดหงิด

ฉันแค่อยากเตือน ว่าถ้านายยังสร้างความเดือนร้อน นายจะถูกขังเดี่ยวตลอดชีวิต

กลัวจัง แต่มีโทษแรงกว่าขังเดี่ยวไหมนะ

หรืออยากโดนเรียงคิวจนตายล่ะ  คนพูดแสยะยิ้มหยัน ช่างเป็นอารมณ์ขันที่ตลกร้าย แน่นอนว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้ ข้างนอกกฎหมายอาจจะใหญ่คับฟ้า แต่ในทัณฑสถานกฎหมายมีค่าน้อยกว่าวาจาสิทธิ์ของตนเสมอ 

แล้วคุณพัศดีจะมาต่อแถวด้วยไหม จะเป็นคนสุดท้ายหรือเป็นคนเปิด…”  ร่างบางเปลี่ยนมาเดินป้วนเปี้ยนรอบเก้าอี้ไม้หลังแผนแรกใช้ไม่ได้ผลและอาศัยความรวดเร็วในการคล่องแขนกับศีรษะอีกคน ลดมือลงแล้วรั้งโซ่กุญแจมือกับลูกกระเดือกใหญ่ ชานยอลไม่ได้ตื่นตกใจแม้โอกาสเป็นตายเท่ากัน นักโทษสามารถรัดคอพัศดีได้สบาย ๆ แล้วหนีไปอย่างลอยนวล แต่ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพียงการหยอกเอินธรรมดาและด้วยความตาไวแบคฮยอนถึงได้เห็นอาการขนลุกชันของพัศดี ดูเหมือนการประชิดตัวแบบใหม่จะทำให้คนที่แสนเคร่งขรึมเกิดความรู้สึกร่วมขึ้นมา  เป็นแบบนี้เองสินะ  มองออกทะลุปรุโปร่ง แต่ไม่ทำตัวกระโตกกระตาก  “…แนะนำให้เป็นคนเปิดนะ เพราะมันคงจะยังคับอยู่  ปิดท้ายด้วยการแกล้งงับใบหูผะแผ่วแล้วคลายโซ่ที่รัด กระซิบขอโทษที่เสียมารยาทมากไปและเป็นฝ่ายล่าถอย ปล่อยอีกคนเป็นอิสระง่ายดาย 

หลังแนะนำว่าทำไมควรเป็นคนแรก แบคฮยอนก็ยังขายของต่อ ก็อีกคนไม่ห้ามทำแค่มองตามด้วยสายตายากจะคาดเดา เลยเข้าข้างตัวเองว่าเริ่มสนใจโปรโมชั่น รีบงัดท่าไม้ตายเรียกลูกค้า ก้มตัวคุกเข่าเพื่อสาธิต ยื่นลิ้นเลียกระบองไม้ที่เหน็บไว้ข้างเอวสอบอย่างเชื่องช้าขณะนั้นก็เงยมองตาหวานเชื่อม จนท่อนไม้ละเลื่อมไปด้วยน้ำลายก็ได้รับการเปิดใจ

บทจะคลิกก็คลิกกันง่าย ๆ หรือแท้จริงแล้วทั้งคู่อาจมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวกันและกัน

ชานยอลเบื่อกับการครอบครองอำนาจ ลึก ๆ เขาจึงขวนขวายการตกเป็นเบี่ยงล่าง

รสนิยามทางเพศยากจะอธิบายให้เข้าใจ แต่ก็เคยมีคนให้นิยามไว้ว่า เป็นพวกมีความสุขจากการถูกกระทำ  

อย่างกับฉากวิตถารในหนังผู้ใหญ่ เจ้าของร่างกายกำยำถูกจับลอกคราบและมัดแขนขาติดกับเก้าอี้ด้วยเชือกที่หาได้จากในห้อง เพื่อป้องกันเสียงเล็ดลอดออกไปจึงใช้ชั้นในชายใส่แล้วอุดปากและสร้างความตื่นเต้นด้วยการเอาผ้าปิดตา เพราะฉะนั้นพัศดีก็จะไม่รู้เลยว่ากำลังเผชิญกับอะไร สัมผัสทางกายภาพได้แค่ว่าแก่นกายถูกเล้าโลม อมแล้วก็ดูด ได้ยินเสียงซูดปากเหมือนอีกคนกำลังซดน้ำ มือเรียวกำรอบท่อนเนื้อไซส์โตเต็มวัยไว้หลวม ๆ ดูดส่วนปลายดังบวบแล้วคายสลับกับใช้ลิ้นรูดอย่างไว ๆ ระหว่างลุกยืนก็ยังใช้มือสาวตามความยาวก่อนจะก้าวขาคร่อม เขมือบกล้วยหอมจอมซนจนมิดด้าม มันคลำหว่างขาจนต้องอ้ากว้างแล้วเริ่มขยับอย่างอ้อยอิ่ง ทิ้งช่วงอย่างเนิบนาบแล้วปรับเปลี่ยนองศา พอได้ยกขาทั้งสองข้างขึ้นจากพื้นจนเหมือนนั่งยอง ๆ เหนือหน้าตัก ก็เหมือนกับได้นั่งบนบันนาน่าโบ๊ท กระแทกโดนโขดหินอย่างจังขณะแผ่นหลังบางตั้งตรงตลอดเวลา สะเทินน้ำด้วยความหวาดเสียว เดี๋ยววนซ้ายเดี๋ยววนขวา ขย่มจนน่ากลัวว่าจะหักกลาง  

ขณะแบคฮยอนกำลังสนุกสุดเหวี่ยง ชานยอลต้องคำรามเสียงหลงเพราะท่าควงสว่าน ดีว่าได้ชั้นในช่วยกรองความดังอีกที มือที่ถูกมัดไพล่หลังกำเข้าหากันอย่างอดทนเมื่อโดนตบจนหน้าหัน แรงขนาดชั้นในกระเด็นหลุดจากปาก ซ้ำยังถูกกระชากผมด้านหลังให้เงยหน้า แล้วสองลิ้นก็บรรจบกันกลางอากาศ ตวัดโดนผ่าน ๆ พอเป็นกระษัย ยังไม่ทันได้ประกบปากก็โดนบังคับให้ก้มหน้าระยะพอดีกับช่วงตัว หัวนมยื่นเข้าปากจากหน้าอกที่กำลังแอ่นพร้อมแขนที่โอบรอบศีรษะ

ระหว่างที่อีกคนละเลงลิ้นกับยอดอก อีกคนก็กระดกก้นคล่องแคล่ว จนแนวอารมณ์ไต่ระดับขึ้นสูงทั้งคู่

แล้วลาวาก็ประทุออกจากปล่องภูเขาไฟ อัดฉีดอยู่ภายในร่างที่ยังหวาดผวา แต่เพราะกลัวมากกว่าว่าจะขาดช่วงขาดตอน แบคฮยอนที่ยังเปี่ยมล้นไปด้วยความต้องการจะรีบเปลี่ยนท่าหันหน้าออก ทาบสองมือกับต้นขาหนาระหว่างยกบั้นท้ายขึ้นลงอีกครั้ง ขณะตักตวงความสุขจากแก่นกายใหญ่ด้วยความเมามันก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยว่าชานยอลแก้ปมเชือกได้และแอบคลายมันออกทีละนิด ไม่มีอะไรผิดสังเกตนอกจากแรงกระแทกสวนเป็นระลอก ๆ มือหนึ่งค่อยแกะผ้าปิดตาออกจนเผยแววตาของผู้ล่า พัศดีที่เคยเป็นพวกมีความสุขจากการถูกกระทำ ถูกความอัดอั้นผลักดัน จนบางครั้งก็กลายเป็น พวกมีความสุขจากการทารุณกรรมคนอื่น เรียกว่าชอบเอาคืนก็ได้เหมือนกัน

นับเป็นโชคสองชั้นหรืออาจเป็นวิบากกรรมครั้งใหญ่ ลองได้หมายตาต้องใจ ต่อให้พ้นโทษจากคดีไปมีชีวิตนอกคุกก็จะตามไปหาทุกที่และจะเอาทุกครั้งที่มีโอกาส ค่อยรัดเอวคอดด้วยวงแขนจนคิดว่าแน่นหนา เมื่อได้จังหวะก็ล็อกตัวคนบนตักไว้แล้วเคลื่อนไหวช่วงล่างอย่างหนักหน่วง ทำเอาคนอยู่ในห้วงเคลิบเคลิ้มหลุดออกจากภวังค์และครางเสียงแตก ตกใจกับการแทรกแซงอันป่าเถื่อน ร่างสะเทือนไปก็กลั้นลมหายใจไป ก้นลอยในอากาศต้านแรงกระทุ้งถี่ ๆ จนหนีไม่พ้นการปลดปล่อย อีกคนก็พลอยกระตุกตามอัดฉีดน้ำเชื้อข้นคลั่กให้ชุ่ม ก่อนนักโทษจะฟุบลงไปนอนสะท้านกับพื้น

ชานยอลยืนขึ้นเต็มความสูงหลังแก้เชือกที่ผูกได้หมด ก่อนใช้คอมแบทเขี่ยคนนอนคว่ำให้กลับมานอนแผ่ แบคฮยอนยังสวมกุญแจมืออยู่ตลอดและเปลือยแค่ท่อนล่างเท่านั้น ต่างจากพัศดีที่พอเป็นอิสระก็ทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ แล้วคว้ากระบองไม้ที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาควงเล่น มันมีเหตุผลอยู่แล้วที่ทำอย่างนั้น  “…ถ้าลองให้ฉันเปิดก็อย่าหวังว่าใครจะได้ปิด   

นอกจากฉัน ก็มีเจ้านี่ที่มีสิทธิ์ในตัวนาย  เผยรอยยิ้มร้ายกาจ เสมือนปีศาจมาจุติ ส่วน เจ้านี่ที่ว่าหมายถึงไม้กระบองที่ถือ สื่อได้ชัดเจนว่านอกจากเอาไว้ฟาดหัวพวกเดนคน มันมีประโยชน์อื่นแอบซ่อนไว้ ใช้แทนแก่นกายได้สบาย ๆ ขนาดก็ใหญ่จุใจ เติมเต็มพวกร่านได้ตามต้องการ  นายชอบมัน ฉันรู้  เข้าใจว่าขู่ไปอย่างนั้นเพราะสุดท้ายก็ลดมันลง

แล้วเปลี่ยนมาบรรจงสอดใส่ แบคฮยอนปรือตามองจนมั่นใจว่านั่นคือแก่นกาย ชานยอลแหย่ส่วนปลายเข้าในกายหลอกให้ตายใจอย่างช้า ๆ ก่อนจะเกิดการสลับชั่วพริบตา แทนที่จะเป็นท่อนเอ็นกลับเป็นกระบองไม้ มันสวนเข้าไปในช่องทางลับแล้วคนบังคับการเคลื่อนไหวก็มองตามการเสือกเข้าออกของอาวุธด้วยสายตาเหี้ยมโหดท่ามกลางการนอนทุรนทุราย ใจรับไม่ได้แต่กายเด้งรับรัว ๆ ได้ผัวเป็นไม้กระบองจนกรีดร้องเสียงหลง นึกว่าเป็นโรงฆ่าสัตว์ เสียงโหยหวนด้วยความทรมานดังลั่นออกมาจากห้องเชือดลามถึงเรือนจำ ซ้ำยังให้ครางใส่ไมค์ ประกาศทางเสียงตามสายในเวลาเดียวกันว่านางพญาแห่งทัณฑสถาน ตกเป็นของพัศดีแต่เพียงผู้เดียว















ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
ตอนแต่งไม่รู้ตัวเลยว่าแต่งอะไร 555555555555555 55 จนจบแล้วก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลย
เอาเป็นว่าอ่านขำๆ มีความรู้สึกยังไง ระบายได้ที่ hashtag #fcuncenfic  เหมือนเดิมจ้ะ
หวังว่าจะพอทำให้คืนนี้เป็นคืนที่ดีของทุกคนน้า 

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

[OS/CHANBAEK 18+] Role Play




    Role Play 


น้ำเปล่าจากขวดถูกเทพรวดเดียวลงหม้อต้มขนาดกลางแล้วตามด้วยการตั้งไฟ

ระหว่างรอให้น้ำเดือดเจ้าของร่างเพรียวบางก็เคลื่อนตัวไปหั่นผักบริเวณเคาน์เตอร์ด้านข้าง เขาในร่างเธอคอยระมัดระวังคมมีดอยู่ตลอดก่อนเส้นผมที่คลอเคลียข้างพวงแก้มจะทำให้รู้สึกรำคาญ จึงวางมือจากงานครัวชั่วคราวแล้วรวบผมยาวสลวยไว้ด้านหลัง มัดผมที่ผ่านการทักทออย่างดีเป็นหางม้าและกลับมาเตรียมส่วนผสมต่อ  

                เพราะสวมกระโปรงคงไม่แปลกถ้าแทนสรรพนามว่าเป็นหญิงสาว เธอจดจ่อกับการทำกับข้าวใส่ใจเข้าไป โดยไม่นึกว่าคนที่จะได้ชิมฝีมือจะกลับมาเร็วกว่าทุกวัน เสียงกุกกักจากด้านนอกทำให้หลุดปากถามออกไปตามความเคยชิน ด้วยน้ำเสียงติดหวานผ่านการดัด  กลับมาแล้วเหรอคะที่รัก  จินตนาการว่าอีกคนคงกำลังถอดรองเท้าแล้วเดินเอากระเป๋าเอกสารไปเก็บไว้ในห้องทำงานถึงไม่ได้ยินที่เธอถามและไม่ตอบกลับ  ฉันกำลังทำของโปรดของคุณอยู่ แต่ถ้าหิวมีเค้กลูกอยู่ในตู้เย็นนะคะ คุณกินรองท้องก่อนได้  เธอก้มหน้าก้มตาหั่นแครอทตลอดการพูดเจื้อยแจ้ว แล้วเสียงเปิดปิดตู้เย็นใกล้ ๆ ก็ทำให้หายกดดัน อย่างน้อยสามีเธอก็ได้ของหวานกินรอระหว่างเธอทำมื้อเย็น

                คนเป็นภรรยายิ้มรับเมื่อรู้สึกได้ถึงมัดกล้ามที่กำลังรัดเอวคอดของตน แอบหดคอตอนโดนจูบท้ายทอย เธอปล่อยให้คนที่คิดว่าเป็นสามีกอดหอมตามสบาย จนการสัมผัสเรือนร่างอย่างจงใจเริ่มทำลายสมาธิในการทำครัว เธอเอี่ยวตัวหลบการเล้าโลมที่เอาแต่ใจกว่าทุกวันแต่ไม่ได้ปัดป้อง ความจริงก็ออกอาการเคอะเขิน แม้จะให้กำเนิดลูกน้อยไปแล้วถึงสองคนก็ยังอดเหนียมอายกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ไม่ได้ ใบหน้าใสร้อนผ่าวเมื่อมือใหญ่ล้วงเข้าในเสื้อเพื่อขยำเนินนมเล็ก ๆ

เธอเลิกทำอาหารไปเองโดยอัตโนมัติแล้วเลือกดื่มด่ำกับความรู้สึกวาบหวาม หลับตาฝันและขานรับการเฟ้นฟอด จนเมื่อมือใหญ่อีกข้างสอดเข้าในกระโปรงเพื่อถลกกางเกงชั้นในลายลูกไม้ลงในคราวเดียว แสดงออกถึงอารมณ์ฉุนเฉียว เธอจึงเหลียวมองกลับหลัง ก่อนนัยน์ตาจะเบิกกว้างเมื่อใบหน้าที่ควรจะเป็นของสามีที่รักดันกลายเป็นของคนรู้จักมักจี่

หญิงสาวกรีดร้องยามเพื่อนสามีเหวี่ยงเธอชนกับตู้เย็นหลังใหญ่แล้วบังคับให้ยืนหันหลัง ก่อนจะรั้งกระโปรงเธอขึ้นถึงอกท่ามกลางความชุลมุน ระหว่างฝืนแรงขืนก็รูดซิปกางเกงตัวเองลงแล้วควักเจ้าโลกออกมาภายนอก ขณะถูอวัยวะเพศกับร่องก้นตรงหน้าไปมาก็กดศีรษะหญิงสาวแนบกับเครื่องทำความเย็นไว้แน่น กว่าจะรู้ตัว ส่วนหัวของแก่นกายก็ผลุบหายเข้าไปตรงหว่างขาขาว ตามด้วยการกระแทกเพื่อหวังจะเข้าไปให้ลึกสุด หยุดอาการต่อต้านได้ชะงักงันและเรียกเสียงยานคราง ไม่ทันให้ได้ตั้งหลัก เธออ้าปากค้างกับความป่าเถื่อนเลือดร้อน วอนขอความเมตตาเสียงกระท่อนแกระแท่นขณะแนบร่างกับตู้เย็นที่สั่นสะเทือนราวกับมีแผ่นดินไหว วูบหนึ่งลืมต่อต้านตกอยู่ใต้อาณัติความลังเล จนกระทั่งหน้าสามีและลูกลอยมาในมโนสำนึกถึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ลำพังแรงสลัดคนร่างใหญ่แทบไม่มี ความกระสันก็ตีย้อนขึ้นมา
 
ร่างกายทำให้ขายขี้หน้า มันไม่ปฏิเสธทุกจังหวะจะโคน แต่พร้อมโอนอ่อน ต้อนรับท่อนเนื้อด้วยความปิติยินดี

หลักฐานแน่นหนาจนเพื่อนสนิทสามีกล้าพูดขึ้นมาด้วยวาจาสุดจะเข้าข้างตัวเอง

ฉันรู้ว่าเธอก็ต้องการ วันก่อนฉันเห็นนะที่เธอแอบมองฉัน ความร่านของเธอมันซ่อนไม่มิดหรอก

ปาร์คชานยอล ได้โปรด ฉันเป็นเมียเพื่อนคุณนะ!”  เธอละล้าละลัง หวังพูดเพื่อฟื้นความทรงจำ

แต่ชานยอลกลับไม่สน ชวนคุยไม่พ้นเรื่องใต้สะดือ 

อย่าปฏิเสธเลยน่า ตอดรัดซะขนาดนี้ เป็นไงลีลาของฉัน เอามันกว่าผัวเธอไหม

ปล่อยฉัน!”

อยากท้องอีกหรือเปล่า  เย้าแหย่หญิงสาวด้วยเรื่องคอขาดบาดตาย แน่นอนว่าการไม่สวมใส่ถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้หลายสิบเปอร์เซ็นต์ เช่นนั้นเธอจึงเริ่มขัดขืน  

ได้โปรด อ้า! ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย!”

เธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการผลักจนกระเด็นไปคนละทิศละทาง หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งหลังไม่มีคนคอยพยุง ล้มลุกคุกคลาน รีบคลานเข่าด้วยท่าสัตว์สี่เท้าความยาวจากห้องครัวมายังห้องนั่งเล่น กระเสือกกระสนเป็นระยะหลายเมตรก่อนจะลงเอยที่การถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างโหดร้าย เกิดการสอดใส่อีกครั้งแล้วเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงท่ามกลางความขัดแย้งมากมาย เธอร้องเรียกให้คนช่วยและถูกอุดปากด้วยมือใหญ่ เรื่องราวดำเนินไปอย่างละครหลังข่าวที่ฟันขาวเลือกกัดเนื้อเน้น ๆ เล่นกันถึงเลือดตกยางออกก่อนจะโดนตอกกลับด้วยการตบหน้าน้ำตาปริ่ม เลือดซิปที่มุมปาก  

ระหว่างนอนอ่อนแรงก็ถูกจัดแจงท่าทางเสียใหม่ จากนอนคว่ำก็ให้ยันฝ่ามือและเข่าไว้กับพื้น  ที่รักช่วยฉันด้วย  เธอขอร้องเสียงเครือเมื่อเงยหน้าเจอกรอบรูปสามีบนตู้ สามีที่รักกำลังส่งยิ้มอ่อนโยนให้เธออยู่คล้ายกำลังปลอบใจ สายตาอบอุ่นเหมือนบอกเธอว่าให้อดทนแล้วเดี๋ยวเรื่องราวเลวร้ายก็จะผ่านพ้นไป มือที่สวมแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายยึดพรมเช็ดเท้าไว้เป็นหลักระหว่างค่อย ๆ เคลิบเคลิ้มไปกับความเสียวซ่าน  ฉันขอโทษ  เธอพร่ำบอกขณะมีแก่นกายของชายอื่นเสือกเข้าออกในร่างไม่หยุด  ฉันรักคุณ…”  พูดเพื่อคลายความรู้สึกผิดที่เผลอมีอารมณ์ร่วมกับบทรักที่เริ่มจากขืนใจ

เธอสะอื้นไห้ตอนที่ถูกกระชากผมให้เงยหน้ามองรูปสามีอีกครั้ง เธอละอายเกินกว่าจะสบตากระทั่งร่างกายกระตุกอย่างแรง แต่แทนที่ชานยอลจะแตกในเมื่อถึงฝั่งฝันไล่เลี่ยกัน ชายหนุ่มกลับเดินอาด ๆ ไปหยิบกรอบรูปเพื่อนแล้วหลั่งอสุจิรดจนมันเปื้อนเป็นคราบน้ำขาว ๆ รีดท่อนเนื้อสุดความยาวแล้วค่อยวกกลับมาหาหญิงสาวที่นอนหมดสภาพ

หลังยัดแก่นกายกลับเข้าในชั้นใน ผู้ร้ายในคราบเพื่อนสามีก็ลดตัวนั่งยอง ๆ แล้วตบแก้มใสเบา ๆ เรียกสติคนที่กำลังสะลึมสะลือ  แล้วฉันจะกลับมาใหม่ จนกว่าฉันกับเธอจะได้มีลูกด้วยกัน  ชานยอลหยัดกายยืนขึ้นอย่างเชื่องช้า กระชับสูทให้เข้าที่เข้าทางแล้วค่อยเดินออกจากห้องไปโดยมีนัยน์ตาเหม่อลอยมองตามจนบานประตูปิดลงอย่างเงียบ ๆ  

เธอนอนกลืนน้ำลายบนพื้นเย็นเหยียบและหลับตาลงชั่ววินาที ราวกับสับสวิทช์ เปิดปิดอารมณ์ได้ดั่งใจ พอลืมตาอีกทีจากแววตาที่เคยอ่อนล้าก็กลายเป็นเย็นชา หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งอย่างง่ายดายแล้วรีบถอดเสื้อที่ใส่ ชุดผู้หญิง บ่อยครั้งก็ทำให้รู้สึกรุ่มร่าม เมื่อลอกคราบเรียบร้อยก็ค่อยลงมือแกะวิกผมอย่างชำนาญ ไม่จำเป็นต้องทำต่อหน้าบานกระจก ก่อนจะยืนขึ้นเพื่อปลดกระโปรงตกลงแทบเท้า จากที่เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงมาตลอด พอล่อนจ้อนที่แท้พยอนแบคฮยอนก็เป็นชาย

มีอวัยวะสืบพันธ์ที่ระบุเพศได้ชัดเจน

เขารับจ้างเป็นใครก็ได้ที่ลูกค้าต้องการอยากจะร่วมรักด้วยและเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาก็เพิ่งจะสวมบทบาทเป็นภรรยาของเพื่อนสนิท ผู้หญิงที่อุทิศทั้งชีวิตเพื่อครอบครัวแสนสุขก่อนจะถูกคนที่ไว้ใจข่มขืนอย่างเลือดเย็น

ปาร์คชานยอลเป็นหนึ่งในลูกค้าชั้นดีที่กำลังเผชิญกับอาการเก็บกด ต่อหน้าเป็นสุภาพชน แต่เบื้องหลังเป็นชายโฉดที่อยากได้เมียเพื่อนใจแทบขาด สันดานชอบแย่ง แต่ด้วยปัจจัยภายนอกไม่มีทางใดเลยให้แสดงออกถึงตัวตน ขณะที่โดนความอิจฉากัดกิน จึงต้องปิดบัง สวมหน้ากากคนดีอยู่เรื่อย

ร่างเพรียวบางเดินเปลือยกายไปปิดเตา เอาหม้อต้มที่มีน้ำเดือดเทลงซิงค์ล้างจานแล้วถึงเทผักที่หั่นค้างไว้ลงถังขยะ การทำครัวก็แค่ละคร ชีวิตจริงทำเป็นแค่รามยอนเท่านั้น ก่อนจะเดินกลับมาถอดแหวนแต่งงานเก็บใส่กล่องกำมะยี่อย่างดี ฉวยกรอบรูปที่เปื้อนขึ้นมาเช็ดอย่างลวก ๆ และก็เอากลับไปวางไว้ที่เก่าทั้งที่ยังมีคราบขาวเป็นดวงจากคราวก่อน แบคฮยอนเดินเฉยชาออกจากห้องนั่งเล่นที่ถูกเซตฉากขึ้นมาเสมือนจริง ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า ราวกับว่าที่ตรงนั้นไม่เคยมีอะไรบัดซบเกิดขึ้น พื้นพรมที่บิดเบี้ยวเป็นหลักฐานชิ้นเดียวที่ใช้ยืนยันว่าครั้งหนึ่งพวกเขาเคยสวมบทบาทสมมติ

เราคุ้นเคยกับการปลอมตัวเองต่อหน้าคนอื่นและสุดท้ายเราก็ปลอมตัวกับตัวเราเอง
จาก ฟรองซัว เดอลา โรซฟูโคลด์
  














ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
จุดประสงค์มีแค่อยากระบายความยุ่งเหยิงในหัวสมองออกมา แต่ก็หวังลึก ๆ ว่าทุกคนจะชอบ ฮา
ห่างหายจากอะไรสั้นๆกระทันรัดมานาน เหมือนได้ปลดล็อคตัวเองไปอีกขั้น  มีความสุขจัง
อย่าลืมว่าถ้ารู้สึกอึดอัด ระบายได้ที่ hashtag #fcuncenfic  เลย รออ่านอยู่น้า 
ปล. แนะนำว่าเปิดเพลง sweet lies ฟังไปด้วยจะดีมากๆ 

วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

4486 : 07 NC


 07 
เนื้อหาอาจมีการอ้างอิงจากวงแต่ไม่ใช่ทั้งหมด มีการเสริมเติมแต่งเพื่อเพิ่มอรรถรส โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน










(อ่านเนื้อหาก่อนหน้าได้ที่ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1585564&chapter=8 )











สวนสาธารณะรอบแม่น้ำฮันนับเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของหนุ่มสาวที่ต้องการหาที่พลอดรักชั่วคราวแทนการเช่าห้องพัก ตกกลางคืนมุมมืดจะถูกจับจองเป็นเขตสงวนและคู่รักจะสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมา ละทิ้งความละอายเพื่อทำเรื่องขายหน้าไปยังวงศ์ตระกูล แรงดึงดูดนำพาขั้วบวกกับขั้วลบมาบรรจบกันที่ริมฝีปาก บรรยากาศที่ช่างส่งเสริมทำให้เริ่มกล้ากอดหอมกันเป็นปกติ มีตัวอย่างจากคู่อื่น ๆ ให้ทำตามจนเกิดพฤติกรรมเลียนแบบโดยไม่รู้ตัว

การจูบลุกลามไปทั่วราวกับโรคติดต่อ

พอได้ลองปล่อยตัวปล่อยใจไปตามสายลม สบตาหวานเชื่อมกันไปสบตากันมา ตอนแรกก็นั่งคุยธรรมดา ต่อมาเริ่มมีปฏิสัมพันธ์ทางกาย จากคลอเคลียแก้กระษัยชนปลายจมูกทีเล่นทีจริง กลายเป็นจูบดูดดื่มลืมหายใจ ยาวนานจนคิดว่าจะตายและทั้งคู่ก็พร้อมจะสิ้นอายุขัยไปด้วยกัน ชานยอลนั่งเหยียดขายาวแล้วเท้ามือกับหญ้าด้านหลังระหว่างงับกลีบปากบาง แต่สักพักที่วางมือก็เปลี่ยนไป ข้างหนึ่งวางเหนือสะโพกผาย อีกข้างล้วงเข้าในกางเกงยีนสีซีดอย่างถือวิสาสะแล้วขย้ำแก้มก้นกลมกลึงเล่น บีบเค้นความนุ่มอย่างเพลิดเพลินจนเกิดกระแสไฟไหลเวียนทั่วร่าง 

        แบคฮยอนนั่งประคองใบหน้าสมส่วนไว้ขณะพักแลกเปลี่ยนอากาศหายใจชั่วคราว เกิดอารมณ์ร่วมเพราะก้านนิ้วยาวกำลังหาทางเข้าให้วุ่นวาย ก่อนมือจะถูกจับย้ายให้เลื่อนลงต่ำวางทับเป้ากางเกงที่ปูนโปน มือเรียวขยับนวดโคนขาด้านในปลุกระดมความเป็นชายอย่างช้า ๆ

แทนที่จะมัวเสียเวลากับแค่ปาก ต่างคนก็ต่างผลัดกันซุกไซ้ในสภาพที่เสื้อผ้ายังอยู่ครบ อย่าว่าแต่ข่มใจ ไม่มีใครคิดจะห้ามใครเลยด้วยซ้ำ มือเรียวแก้เชือกกางเกงวอร์มอย่างชำนาญและร่นกางเกงลงจนเจ้าโลกผงาดง้ำ ทำฉากเก้าสิบองศา ตั้งตระหง่านล่อตาล่อใจ รีบกอบกุมแก่นกายที่ชูชันแล้วใช้สองมือช่วยกันสาว เอาปากอมแล้วถ่มน้ำลายใส่ก่อนจะกลับไปรูดมือไม่หยุด แบคฮยอนดำผุดดำว่าย ก้มหน้าลงไปใช้ลิ้น กลืนกินส่วนปลายอย่างอิ่มหนำ จนน้ำสีขาวขุ่นกระเซ็นในโพลงปากในวินาทีถัดมา ชานยอลที่แหงนหน้ารับลมเสยผมไปข้างหลังอย่างงุ่นง่านเมื่อความกระสันยังคงอยู่ 

ทั้งคู่รู้ดีว่าควรทำอะไรต่อและเพราะว่าก่อนหน้านี้มัวแต่เลือกมากจึงยังไม่ตกล่องปล่องชิ้นกันสักที คราวนี้จึงตัดสินใจทำไม่เลือกที่ โชคดีว่าข้างลานสนามบาสมันทั้งมืดและมีพุ่มไม้ใหญ่เป็นกำบัง จึงพอใช้อำพรางความน่าเกลียดได้

ซองถุงยางอนามัยถูกฉีกด้วยฟัน มือใหญ่สวมอุปกรณ์ป้องกันกับแก่นกายตัวเองอย่างคล่องแคล่ว แล้วเขยิบตัวเข้าใกล้ร่างบางที่กำลังนอนหงายบนพื้นหญ้า ลืมตาตอนกางเกงนอกกางเกงในโดนดึงลงถึงข้อเท้าและหลับตาเมื่อสัมผัสได้ว่ามีของแข็งเข้ามาในร่างกาย มันให้ความรู้สึกจุก แรงกระทุ้งคราแรกทำเอาหุบขาแทบไม่ทัน แต่ถึงจะสั่นก็สั่นสู้ พยายามผลูลมหายใจเข้าออกแล้วอ้าสองขากว้างกว่าเก่า กัดริมฝีปากอย่างอดทนแม้จะรวดร้าวทั้งโคนขาด้านใน

คราสองชานยอลลองเคลื่อนสะโพกสอบอย่างค่อยเป็นค่อยไป เหมือนหลอกให้ตายใจกับความเนิบนาบ ผิดกับคราสามที่ขยับอย่างรวดเร็วไม่กลัวเอวเคล็ด จนเสียงครวญครางเล็ดลอดออกจากริมฝีปากที่เผยอ เจอความป่าเถื่อนเข้าไปแบคฮยอนถึงกับส่ายหน้า ใจปฏิเสธความรุนแรงแต่ช่วงล่างกลับแอ่นสู้แรงกระแทกแทบทุกครั้ง ร้องระงมจนถูกประกบปาก เพราะเสียงที่ดังออกไปกำลังจะเรียกแขกให้มายืนมุงดูหนังสด ท่อนเนื้อถดเข้าออกถลอกช่องทางสีหวานครั้งแล้วครั้งเล่า เข้าลึกสุดแล้วย้ำตามด้วยการซอยถี่ ๆ บนเวทีก็ว่าลีลาแพรวพราวแล้ว บนยอดหญ้าก็ไม่แพ้กัน ดุดันสมเป็นคนใจร้อน   

มือใหญ่ยึดเอวคอดไว้มั่นเพื่อให้รับแรงดันอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย กระสวยอวกาศเคลื่อนผ่านความคับแคบอย่างหนักหน่วง งวงช้างพ่นน้ำกะปริดกะปรอยแล้วตามด้วยการซอยเอวอย่างต่อเนื่องจนเครื่องเพศของร่างบางสั่น ชานยอลคว้าแก่นกายขนาดเล็กไว้ใช้มือถูวน ๆ จนแบคฮยอนนอนกระตุกและในเวลาเดียวกันก็สะดุ้งเพราะแรงอัดฉีด

ร่างบางนอนบิดร่างด้วยความเสียวซ่าน ลดความอึดอัดด้วยการแหกขาจนสุดขณะท่อนเอ็นผุดเข้าผุดออกในร่องก้นอีกครั้ง ใบหน้าสวยเหยเกเมื่อแก่นกายใหญ่ถูกชักออกเพื่อถอดสิ่งป้องกันแล้วค่อยยัดเยียดกลับเข้ามาร่างกายใหม่ทันที ชานยอลถอดถุงยางก็เพื่อที่จะได้ใกล้กับอีกคนอีกนิดและคิดว่าแบคฮยอนก็คงจะไม่รังเกียจอะไรถ้าจะหลั่งในสด ๆ อีกรอบ

สะโพกตอบเคลื่อนไหวราวเครื่องจักรและได้พักช่วงสั้น ๆ ตอนจัดท่าใหม่ รีบช้อนแขนใต้ขาพับขาแล้วเท้าฝ่ามือกับหญ้า โถมตัวเข้าหาร่างบางที่ยกมือจับบ่ากว้างทั้งสองข้างไว้ ระหว่างถอกแก่นกายกับปากทาง แบคฮยอนก็มองด้วยสายตาเว้าวอนอ้อนให้จัดหนัก แถมปากยื่นปากยาวแต่ไม่เท่าปลายลิ้นจนถูกปิดปากอีกหน ผลของการช่างยั่วคือตัวเขยื้อนรุนแรงจนเกือบแหกปากลั่น ดีว่ายังยกมือปิดทัน ไม่อย่างนั้นกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่เดินเข้ามาในสนามบาสข้าง ๆ คงจับได้

สปอร์ตไลท์ในสนามบาสถูกเปิดและมีคนทยอยเดินขึ้นอัศจรรย์ให้ขวักไขว่ ดูเหมือนจะมีการแข่งขันบาสเก็ตบอสในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า เมื่อมีนักกีฬาก็ต้องมีผู้ชม เสียงปรบมือเกรียวกราวกับเสียงเป่าปากดังลอดมาทางพุ่มไม้ใหญ่ แสงไฟส่องสว่างเผื่อแผ่มายังทั้งคู่ แต่ก็ยังดูมืดมนเพราะเรื่องสัปดนที่ทำ ด้านมืดกับด้านสว่างแบ่งกันแค่ต้นไม้กั้นเท่านั้น

เกมการแข่งขันเริ่มต้นหลังเสียงนกหวีดดัง ส่วนเกมรักก็ยังดำเนินไปในท่วงท่าที่ลึกซึ้งกว่าเก่า เปลี่ยนมาเข้าข้างหลังบ้าง หลังจากเดินเข่าเข้าใกล้บั้นท้ายใหญ่ก็สอดใส่แก่นกายในคราวเดียวท่ามกลางการเหลียวมองอย่างพะวงเป็นระยะ ร่างบางยันฝ่ามือกับหญ้า ฆ่าต้นอ่อนด้วยการขยำยามต้องหยัดกายต้านแรงปะทะ พยุงตัวไว้ในระหว่างโดนดัน ต้นขาหนาชนแก้มก้นจนเกือบล้มระเนระนาด เสียงกระทบกันของกายหยาบช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับเสียงลูกบาสที่เดาะลงกับพื้น

เสียงเฮดังขึ้นเมื่อมีคนชู้ตสามแต้มลงห่วง เสียงประท้วงดังขึ้นหลังพุ่มไม้เมื่อฝ่ายรองรับใกล้ถึงฝั่งฝัน ชิงไปสวรรค์ก่อน ส่วนชานยอลตามไปติด ๆ ชายหนุ่มที่นึกเกลียดการออกกำลังกายที่ทำให้เสียเหงื่อทุกชนิดกำลังติดใจกีฬากลางแจ้ง ฝ่ามือใหญ่ตบเข้าที่ก้นขวากระตุ้นอย่างรุนแรง จนแบคฮยอนขานรับเสียงกระเส่าผสานพร้อมเสียงเป่านกหวีดขอเวลานอก

นักกีฬาในสนามทั้งสองทีมได้หยุดพักหายใจหายคอ แต่นักกีฬานอกสนามยังเล่นตัวต่อตัวอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง เพียงเพื่อเฟ้นหาผู้แพ้ผู้ชนะ ร่างบางได้สิทธิ์ทำแต้มตีตื้นขึ้นมา นั่งคร่อมหน้าตักแล้วครอบท่อนเนื้อด้วยช่องทางสีหวานจนมิดด้าม ลองขยับเพื่อลดแรงเสียดทานจนกระทั่งการกระถดก้นขึ้นลงกลายเป็นงานถนัดและถึงขั้นทำให้อีกคนกัดฟันกรอด

ชานยอลคำรามลากยาว ราวกับร้องคอรัสผสานเสียงต่ำ พวกเขาเล่นคอนเสิร์ตตามหัวเมืองต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศ นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ร่างกายอึดและทนกว่าคนทั่วไป ทั้งเต้นทั้งร้องติดต่อกันได้ตั้งหลายชั่วโมง สิ่งที่ทำอยู่ก็คงไม่แตกต่างกันมาก แบคฮยอนนั่งเอนตัวไปด้านหลังระหว่างขึ้นควบอย่างคล่องแคล่ว เห็นแววนักกีฬาขี่ม้ามาแต่ไกลถ้าไม่เป็นนักร้องก็น่าจะเอาดีทางนั้น ขึ้นขย่มแก่นกายใหญ่ด้วยความเมามัน ปราศจากความปรานีปราสัย

ก่อนจะถูกฝ่ายที่ยอมให้ข่มเหงมานานตอกกลับทันควัน ยึดต้นขาขาวไว้กับที่ป้องกันการล่าถอย แล้วค่อยเด้งสะโพกสวนไม่บั้นยะบั้นยังจนร่างบางร้องกระท่อนกระแท่น เสียงหวานถูกแทนที่ด้วยเสียงแหลมเล็กต่างจากตอนร้องเพลงบนเวที พอโดนจี้จุดเดิมเข้าบ่อย ๆ แบคฮยอนก็ปลดปล่อยก่อน เผลอร่อนเอวเป็นวงกลมขณะโอบหัวชานยอลไว้

เสร็จสมอารมณ์หมายอีกครั้งในขณะที่อีกคนเกือบจะถึงปลายทาง ร่างบางล้มลงนอนบนหญ้าอ้าขาอีกรอบ ยอมให้แก่นกายเข้ามาในตัวอีกหน รับแรงกระแทกกระทั้นจนตัวโยนโดยไม่ปริปากบ่นสักคำระหว่างโหนลำคอแกร่งไว้ ส่วนมือใหญ่ก็จับที่หัวเข่ามนถ่างจนสุดกว้างก่อนจะกระเด้าอย่างรุนแรงแข่งกับเวลาจนหน้าดำหน้าแดง กระแทกอีกทีถึงกระตุก    

ท่ามกลางเสียงเชียร์ให้ลั่นลูกบาสกระดอนโดนห่วงแล้วล่วงลงสู่พุ่มไม้ใหญ่ มันกลิ้งหลุน ๆ ไปตามทางแล้วหยุดเมื่อชนบางอย่าง เดือดร้อนให้นักกีฬาต้องวิ่งมาเก็บ วิ่งออกจากเกมการแข่งขันเพื่อมาตามหาลูกบาสในความมืด เด็กหนุ่มยืนสอดส่ายสายตาพยายามมองหาเงาที่เป็นวงกลมจนกระทั่งพบว่ามันแน่นิ่งอยู่ไม่ไกล อยู่ใกล้กับหญ้าที่ปรากฏรอยยุบ ความนุ่มถูกทับแบนเรียบจนน่าผิดสังเกต แต่เด็กหนุ่มก็หาได้สนใจ พอได้ลูกบาสคืนก็วิ่งกลับไปรวมกับคนอื่นในสนาม

เหลือเพียงความว่างเปล่า ณ ที่ตรงนั้นกับหลักฐานว่ามันเคยถูกใช้เป็นสังเวียนรัก

ผิดกับเบาะหลังของรถยนต์ สองนักร้องดังกำลังนอนก่ายกันอย่างหมดสภาพ หลับคาอ้อมกอด ล่อนจ้อนตลอดคืน  








--------------------------------------------------------
อย่าลืมกลับไปเม้นที่หน้าบทความน้า หวังว่าจะชอบกันค่า 
    แท็กทวิต #4486CB  

วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

[OS/CHANBAEK] Lonely Together



    Lonely Together

          สถานพยาบาลกลายเป็นบ้านหลังที่สองของนายแพทย์ปาร์คชานยอลผู้ซึ่งกำลังนอนพักเอาแรงในห้องทำงานส่วนตัวระหว่างรอบุรุษพยาบาลนำร่างไร้วิญญาณร่างสุดท้ายของวันมาให้ชันสูตรหาสาเหตุการตาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก  
รหัสลับเคาะประตูสามครั้งแปลว่าได้มีการนำศพมาถึงเรียบร้อย
ชานยอลจึงค่อยลุกจากโซฟา แม้นัยน์ตาจะปรากฏความอ่อนล้าและเหนื่อยสะสมจากหน้าที่การงานอย่างเห็นได้ชัด แต่ด้วยจรรยาบรรณของแพทย์นิติเวชบวกกับเสร็จรายนี้แล้วก็จะได้กลับบ้านไปนอนอย่างเต็มอิ่ม จึงรีบเคลื่อนย้ายร่างกายรวบรวมพลังที่มีเหลือเดินมาหยิบเสื้อกาวน์ผ่าตัดที่พาดกับผนังเก้าอี้มาใส่ พอเดินออกมาจากห้องพักก็คว้าถุงมือยางมาสวม
            ชื่อผู้ตาย”  กลายเป็นธรรมเนียมที่นายแพทย์จะต้องถามชื่อผู้ตายกับบุรุษพยาบาล เพื่อที่ระหว่างชันสูตรจะได้เรียกชื่อเสียงเรียงนามกันถูก ชานยอลคิดว่าแม้แต่คนตายก็ยังต้องการการให้เกียรติเหมือนคนเป็น   
            “พยอนแบคฮยอนครับ
            แต่แล้วชื่อบุคคลที่สามก็ทำให้นายแพทย์ที่กำลังจัดแจงอุปกรณ์หยุดชะงักและหว่างคิ้วยับย่น วางมือจากงานแล้วกลับหลังหันมาทวนคำถามอีกที  เมื่อกี้นายบอกว่าชื่ออะไรนะ
            “พยอนแบคฮยอนครับ สันนิษฐานว่าผู้ตายหัวใจวายเฉียบพลันครับ
บนโลกนี้มีคนชื่อซ้ำกันถมเถไป ดังนั้นเลยยากจะปักใจเชื่อว่าเป็นคน ๆ เดียวกับที่รู้จัก อีกอย่างก็หวังว่าจะไม่ใช่ เพราะถ้าใช่งานที่รักคงกลายเป็นงานที่เกลียดทันทีแล้วก็คงไม่กะจิตกะใจจะค้นหาว่าคน ๆ หนึ่งตายเพราะอะไร
ส่วนบุรุษพยาบาลเห็นนายแพทย์เงียบไปก็ไม่ได้ติดใจสงสัย เตรียมจะเปิดผ้าใบที่ใช้คลุมใบหน้าและร่างอันซีดเซียว แต่ชานยอลก็พูดขัดขึ้นมาก่อน  เดี๋ยวฉันจัดการเอง
เป็นอันเข้าใจตรงกันว่าต้องการความเป็นส่วนตัวในการปฏิบัติงาน ที่เลือกเป็นแพทย์เฉพาะทางส่วนหนึ่งก็เพราะไม่ชอบความวุ่นวาย ให้เป็นหมอทั่วไปก็เบื่อคนพลุกพล่าน
ชานยอลพิสมัยความเงียบสงบ จนกระทั่งได้พบกับ รักแรก อีกครั้ง
หลังเปิดผ้าใบจนเห็นดวงหน้าขาวซีดด้วยตาตัวเองก็ค่อย ๆ คลำหาชีพจรด้วยใจที่หนักอึ้ง นึกอยากให้พยอนแบคฮยอนที่ยังเหมือนเดิมทุกอย่างแค่หลับไป เมื่อนอนพอแล้วก็ตื่นขึ้นมาสนทนาอย่างเจื้อยแจ้วดั่งเช่นตอนที่เคยคบกัน    
ไม่คิดว่าเราจะกลับมาเจอกันอีกในสถานการณ์แบบนี้
ความสัมพันธ์ที่ลงเอยไม่ได้ด้วยดีเท่าไหร่ทำให้นายแพทย์ไม่กล้าสู้หน้าอีกคนตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เหตุผลในการเลิกราเพราะชานยอลเลือกอนาคตมากกว่าหัวใจ
ความรักในวัยเรียนที่หนักหนาสากรรจ์หยุดพัฒนาเมื่อวันที่ความหวังของครอบครัวทนแบกรับหลาย ๆ อย่างไว้ไม่ไหวจึงทะเลาะกันยกใหญ่ ร่างบางที่เคยเป็นกำลังใจจนทำให้สอบติดหมอกลายเป็นเพียงตัวปัญหาที่ไม่รู้จักคำว่าเหตุผลของการเป็นผู้ใหญ่ ความผูกพันห้าปีไม่มีความหมายจนนำไปสู่การแตกหักและต่างคนต่างเดินไปตามทางของตัวเองอย่างเดียวดาย
ชานยอลถอดถุงมือยางออกแล้วสัมผัสพวงแก้มเย็นชืดแผ่วเบา อุณหภูมิที่แตกต่างกันย้ำชัดว่าเราอยู่กันคนละโลก เบื้องบนช่างตลกร้าย ไม่ให้โอกาสแก้ตัวซ้ำยังพามาเจอกันในวันที่สายไป เช่นนี้แล้วคำขอโทษจะมีความหมายอะไรในเมื่อคนที่อยากให้ได้ยินไม่อยู่ฟัง
สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย แยกได้เป็นใจหาย เศร้าสลด รวมถึงหดหู่ หลังจากทำร้ายจิตใจร่างบางก็มีชีวิตอยู่อย่างรู้สึกผิดเรื่อยมาและไม่สามารถรักใครได้อีก
ครองตัวเป็นโสด ปฏิเสธคนใหม่ ๆ ที่พยายามเข้าหาอย่างไร้เยื้อใยและดูเหมือนว่าจะต้องชดใช้ให้กับการกระทำอันใจร้ายของตัวเองไปอีกยี่สิบสามสิบปี บางทีคงถึงวันตาย

ถ้าฉันป่วย นายจะรักษาฉันไหม
แน่นอนสิ
คุณหมอ ผมรู้สึกไม่สบายเหมือนจะเป็นไข้ใจ
เลอะเทอะ
ไหนว่าจะรักษาไง
จะให้รักษายังไงในตำราไม่มีบอก
ก็รักฉันกลับสิคนโง่ เท่านี้ฉันก็หายเป็นไข้ใจแล้ว

นัยน์ตาหม่นหมองจ้องร่างกายเปลือยเปล่าที่ไร้รอยขีดข่วนอย่างพินิจพิจารณา แล้วตัดสาเหตุการตายจากอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมไป เหลือทางเดียวคือตรวจหาสาเหตุจากภายใน
ชานยอลทำใจสวมถุงมืออย่างอีกครั้งแล้วหยิบมีดผ่าตัดที่วางในถาดฆ่าเชื้อขึ้นมา เกือบจะจรดปลายมีดคมกริบลงบนผิวหมดจดอยู่แล้ว แต่จู่ ๆ ก็เกิดความลังเลและไม่มั่นใจ ชันสูตรพลิกศพใครต่อใครก็ไม่เคยลำบากใจเท่านี้จนต้องหันมองหน้าอีกทีเพื่อความแน่ใจ 
เห็นร่างบางนอนแน่นิ่งยิ่งทำไม่ลง มันคงไม่ยุติธรรมกับฝ่ายที่ถูกกระทำอยู่ตลอด  
ฉันจะไม่ทำร้ายนายเป็นหนที่สองแน่ ฉันสัญญา”  เปล่งวาจาอย่างมุ่งมั่นพร้อม ๆ กับที่ตัดสินใจบางอย่างได้ นายแพทย์ก้มลงจุมพิตหน้าผากมนของคนรักอย่างไม่รังเกียจ
ท่ามกลางความเงียบสงัดได้มีการโยกย้ายและเปลี่ยนตำแหน่งวัตถุปราศจากคนรู้เห็น ไม่มีอะไรยากเย็นเมื่อชานยอลเป็นคนตัวสูงใหญ่ อ่อนล้าแต่ว่าไม่ไร้กำลัง ก่อนทั้งห้องจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ พอดีกับที่มีคนเคาะประตูเป็นการขออนุญาต
เข้ามา
หลังเวลาผ่านไปสองชั่วโมงกว่า บุรุษพยาบาลก็กลับมารับช่วงต่อ เพราะรู้สถิติเวลาของนายแพทย์ดีถึงมาโดยไม่บอกกล่าวและยังประทับใจในความเป็นระเบียบ ชาร์ตที่ระบุสาเหตุการตายเสียบไว้ช่องข้างเตียงเหล็กอย่างเรียบร้อย คนมีหน้าที่เข็นพลิกป้ายที่ห้อยตรงหัวแม่เท้าดูอีกทีเพื่อความแน่ใจ พอเห็นว่าชื่อผู้ตายเป็นพยอนแบคฮยอนก็เข็นเตียงออกไปและไม่ลืมล่ำลาคนทำสีหน้าเรียบเฉยขณะยืนกอดอกพิงขอบอ่างล้างมือ  เหนื่อยหน่อยนะครับวันนี้” 
            ชานยอลพยักหน้าแล้วยิ้มให้บาง ๆ แล้วค่อยถอนหายใจไล่หลัง ปิดไฟดวงใหญ่เป็นอย่างสุดท้ายและเดินออกจากห้องปฏิบัติงานอย่างเงียบเชียบ แวะเก็บสัมภาระในห้องพัก ยกของหนักพาดบ่าและเลือกจะใช้บันไดหนีไฟด้านหลังตึก
ถึงเวลากลับบ้านไปพักผ่อน รถที่จอดในบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เคลื่อนออกจากที่เดิม ชานยอลบังคับพวงมาลัยทำให้สี่ล้อขยับไปในทิศทางที่ต้องการและขับรถผ่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่วันทยาหัตถ์เป็นการทักทายนายแพทย์ที่เจอกันทุกวันและทันเห็นคนหน้าไม่คุ้นแต่ว่าสวมเสื้อกาวน์แล้วเข้าใจว่าเป็นคุณหมอคนใหม่ สงสัยจะทำงานหนักเลยเพลียหลับคอพับคออ่อน ยืนมองตามก็เห็นว่านอนเอาหัวพิงหน้าต่างไปตลอดทางที่ทอดยาว แต่หากเฝ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าร่างนั้นไม่มีลมหายใจ 








ตุ๊กติ๊กทอร์ค 
สุขสัตน์วันฮาโลวีน !!!!
เป็นเรื่องสั้นที่แต่งได้สั้นที่สุดแล้วก็ใช้เวลาน้อยสุด เกร้ดดดด 
ถือเป็นประวัติศาสตร์ได้เลยเพราะไม่เคยแต่งอะไรสั้นขนาดนี้ได้ 
หวังว่าจะชอบกันนะคะ ชอบสักนิดนึงก็ยังดี 5555555 55 
รู้สึกยังไงระบายได้ที่ hashtag #fcuncenfic  เลย รออ่านอยู่จ้า
 

วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

ทงจี (๒)





ปาร์คชานยอลถูกคำบอกเล่าของเพื่อนหลอกหลอนตลอดเจ็ดสิบสองชั่วโมงที่ผ่านมา ขนาดอาบน้ำสระผม พรมหัวจนเปียกโชกแต่ประโยคเหล่านั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะไหลไปตามน้ำ พอ ๆ กับที่ภาพของเด็ก แบคฮยอนยังติดตาและได้กลิ่นกายหอมหวนติดอยู่ที่ปลายจมูก ฟุ้งซ่านทั้งยามหลับยามตื่น เด็กตัวเล็ก ๆ มีอำนาจมากพอที่จะยึดพื้นที่ความคิดจนไม่เป็นอันทำอะไร
            ตัวนั่งประจำที่โต๊ะทำงาน แต่ใจนั้นลอยไปไกลแสนไกล
กาแฟที่เลขาสาวชงมาให้กลายเป็นหมั่น มันเย็นชืดเกินกว่าใครจะกล้ากลืนลงคอ นิ้วกร้านเอาแต่เคาะกับโต๊ะกระจกระหว่างคิดไม่ตกว่าจะจัดการกับความข้องใจที่กลายเป็นส่วนเดียวกับเลือดในร่างกายนี้อย่างไร
สาบานได้ว่าไม่มีเจตนาจะปรักปำสหายว่าพูดปดมดเท็จ แต่เพราะตัวเองก็ไม่ได้แค่เห็นแต่มือยังต้อง ได้สัมผัสเนื้อหนังมังสาของเด็กชายที่ถูกระบุว่าตายไปแล้วเองกับมือ
แล้วเท่าที่รู้มาวิญญาณก็เป็นแค่มวลสาร เบาบางเหมือนอากาศ ถ้าอย่างนั้นจะอธิบายความหนักบนหน้าตักตอนร่างเล็กนั่งทับอย่างไร จะมีอาจารย์คณะไสยศาสตร์คนไหนอธิบายให้เข้าใจได้บ้าง แถมคืนนั้นก็ไม่ได้แตะเหล้าสักหยด จะโทษว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ไม่ได้
พี้ยาจนหลอนยิ่งไม่ใช่ใหญ่และมั่นใจว่าไม่ได้เผลอกินมั่วซั้วก่อนนอนแน่นอน    
สุดท้ายกำปั้นหนาก็ทุบกับโต๊ะกระจกอย่างแรงเมื่อทนแบกรับความสงสัยอีกต่อไปไม่ไหว พอกันทีกับความกระวนกระวายที่เป็นฝ่ายเผชิญเพียงลำพัง ในเมื่อการนั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ช่วยอะไร มือใหญ่จึงคว้าข้าวของแค่ที่จำเป็นเสร็จก็ระเห็จออกจากห้องทำงาน ตอนแรกเดินผ่านหน้าโต๊ะเลขาไป ก่อนจะเดินถอยหลังกลับมาใหม่เพื่อเอ่ยถามในเรื่องที่ตัวเองใคร่รู้
ท่านประธานเข้ามาหรือยัง
ประชุมกับฝ่ายจัดซื้ออยู่ค่ะ 
นัยน์ตาดำด้านหันไปทางตำแหน่งของห้องประชุมหลักซึ่งบุรอบข้างด้วยกระจกใสจนสามารถเห็นใบหน้าของคิมจงอินที่นั่งวางหมาดท่านประธานได้ถนัด หลังจากที่ไปหาวันนั้น เช้าวันมาต่อมาสหายก็ยอมตกลงรับงานผู้บริหารอย่างไม่อิดออด จนชานยอลยังอดแปลกใจไม่ได้
แต่แทนที่จะมามัวสงสัยให้เสียเวลา ถ้าผลลัพธ์เป็นไปตามเป้าหมายก็คือจบกัน
หลายพันชีวิตรอดตายถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของที่ปรึกษาเลยก็ว่าได้เชียวล่ะ     
ช่วงบ่ายฉันจะไม่เข้ามาแล้ว ถ้าใครถามว่าไปไหนให้บอกว่าไปทำธุระส่วนตัว
กลัวมีคนมาถามหาจึงวางเส้นเรื่องให้เลขาพูดตามเสร็จสรรพ
คนโดดงานขับยานพาหนะคู่ใจออกจากลานจอดรถของตึกสูงระฟ้า บังคับพวงมาลัยไปตามเส้นทางที่เริ่มร้างตึกรามบ้านช่องทุกขณะ เป็นระยะหลายสิบกี่โลกว่าจะถึงที่หมาย
จากถนนเส้นใหญ่กลายเป็นแคบแทบพอดีกับคันรถ ต้นไม้บริเวณสองข้างทางให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบีบเข้ามา ป่าเขียวชอุ่มทำให้รู้สึกอึดอัด กลุ่มเมฆไล่ตามหลังมาดูท่าอีกไม่นานไอน้ำคงกลั่นเป็นห่าฝน  
ชานยอลขับรถมาตามทางราบที่เลียบไปกับแม่น้ำสายเล็ก ๆ ก่อนจะสังเกตเห็นบางอย่างผ่านกระจกข้าง เหลือบเห็นแผ่นหลังที่ทำเอาใจเต้นแรง ใครบางคนนั่งแกว่งเท้าอยู่ตรงท่าน้ำและแค่มองปราดเดียวก็จำได้แม่นยำ จนตัดสินใจจอดรถมันกลางทางทั้งที่อีกร้อยเมตรกว่า ๆ ก็จะถึงตัวบ้าน หนุ่มใหญ่ทำอะไรรวดเร็วทันใจเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นใจร้อนอีกครั้ง
พร้อมเข้าสู่ชั่วโมงล่าท้าความจริงอย่างไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น ค่อย ๆ เดินเข้าใกล้เด็กชายที่กำลังปาหินลงน้ำ แต่ยิ่งระวังฝีเท้ามากเท่าไหร่ยิ่งกลายเป็นทำเสียงอึกทึกครึกโครม ดันเหยียบกิ่งไม้แห้งจนมันหักและร่างเล็กก็หันขวับกลับมามองด้วยสีหน้าตกใจ
ฉันเอง ฉันไง จำได้ไหม”  รีบออกตัวก่อนยืนหน้าสลอนให้มองชัด ๆ 
พูดกระตุ้นความทรงจำหลังจากที่กลับไปไม่ทันล่ำลา หวังว่าจะยังไม่ลืมหน้าชายโฉดที่เคยปล้นสะดมน้ำหวานไปและกลับมาให้ดอกไม้เห็นหน้าอีกทีในสามวันให้หลัง
ร่างเล็กเอียงหน้ามอง ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะพยักหน้าแทนการตอบว่าจำได้ ก่อนใบหน้าจะปรากฏสัญลักษณ์ของความเขินอาย เหมือนมีจิตกรสะบัดสีแดงใส่โหนกแก้มอย่างไรอย่างนั้น แบคฮยอนรีบหยัดกายลุกขึ้นยืน ตั้งท่าจะเดินไปทางอื่นทั้งที่ยังอมยิ้ม  
เดี๋ยวสิ จะไปไหนน่ะ”  ปากถามขาก็ขยับตามอัตโนมัติ
ชานยอลถอดสูทตัวนอกออกเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว แล้วรีบเคลื่อนเท้าตามเด็กชายให้ทันและดันพลาดจับมือเล็กที่แกว่งอยู่ข้างลำตัวไปอย่างน่าเสียดาย
แต่หนุ่มใหญ่ก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ แค่อยากสัมผัสให้แน่ใจว่าเด็กชายยังตัวอุ่นเฉกเช่นมนุษย์ หาใช่วิญญาณอาฆาตที่ยังไม่ยอมไปผุดไปเกิดเสียที จด ๆ จ้อง ๆ มองมือที่ลูบไล้ใบไม้ละสองข้างทางตาไม่กะพริบในขณะร่างเล็กยังเดินหน้าต่อไปอย่างไม่รีบร้อน กินลมชมวิวและสูดอากาศบริสุทธิ์จนชุ่มปอด เด็กน้อยกำลังสอนให้ผู้ใหญ่รู้จักใจเย็นเมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
ซึ่งชานยอลก็เดินช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
จากปกติที่เดินเร็วเป็นกิจวัตร ต้องเร่งรีบเพราะเดี๋ยวไม่ทันตารางงานที่แน่นขนัดพอ ๆ กับปมเนกไท คนมีภาระที่ต้องรับผิดชอบแทบจะลืมไปแล้วว่าเดินเล่นจริง ๆ จัง ๆ ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อาจเป็นช่วงมัธยมปลายไม่ก็มหาลัย แต่รวม ๆ แล้วมันก็หลายปีที่ขายวิญญาณให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ทำตามสูตรและไม่เคยหลุดกรอบจารีตประเพณี คลุกคลีกับสารเคมีจนผิวหนังชินไปเองและไม่เคยเล็งเห็นความงดงามที่ปราศจากสิ่งปรุงแต่ง
แบคฮยอนพาอีกคนเดินตัดผ่านใจกลางป่า ก่อนจะแวะเด็ดบางอย่างออกจากต้น
ผลของมันขนาดเท่าลูกปัด นอกจากจะกินเองยังหันกลับมายื่นให้ผู้ใหญ่
ให้ฉัน…? มันกินได้เหรอ”  กลัวสิ่งแปลกปลอมแต่ก็ยอมกินเมื่อร่างเล็กเป็นฝ่ายป้อนให้ ฟันคมลองเคี้ยวจนรสชาติแปลกใหม่เคลือบไปบนเกลียวลิ้น  หวานดีแฮะ
ร่างเล็กที่ยืนรอดูปฏิกิริยายกยิ้มกว้างพลางพยักเพยิดหน้าเห็นด้วย แล้วค่อยชวนชานยอลออกวิ่ง เรียกว่ากึ่งลากกึ่งจูงดีกว่า ฝ่ายที่ถูกกุมข้อแขนรีบประกบมือกับหลังมือเล็กไว้ขณะก้าวเดินผ่านต้นไม้ที่บดบังทัศนียภาพจนมาพบกับลำธารที่น้ำใสสะอาดขนาดเห็นตัวปลา
แบคฮยอนกระโดดลงน้ำที่มีความสูงเท่าเข่าและเดินฝ่ากระแสน้ำอย่างชำนาญในระหว่างที่คนมาด้วยกันรีบถอดรองเท้าหนังออกแล้ววางมันกองไว้กับเสื้อสูทสีดำ ทั้งคู่ข้ามไปยังอีกฝั่งโดยสวัสดิ์ภาพแล้วเดินย้อนไปทางต้นน้ำที่เห็นอยู่ไม่ไกล  
ไม่ยักรู้ว่าที่แบบนี้ ด้วย 
พึมพำไม่ทันขาดตอน เผลอกลืนน้ำลายลงคอเพราะเห็นคนที่วิ่งล่วงหน้าไปก่อนถอดชุดจนเนื้อตัวล่อนจ้อน แสงแดดสะท้อนกับผิวกระเบื้องเคลือบจนเกือบทำคนจ้องตาบอด 
ชานยอลตัดสินใจถอดเข็มขัดในไม่กี่วินาทีต่อมา ปลดตะขอกางเกงอย่างรีบร้อนระหว่างมองร่างเล็กไม่คลาดสายตา แก้ผ้าแก้ผ่อนตอนบ่ายกว่าอย่างไม่อายเจ้าป่าเจ้าเขาแล้วเดินเท้าเปล่าลงน้ำที่เพิ่มระดับความสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเสมออก
อุณหภูมิที่เย็นของน้ำทำให้สมองโล่งจนคิดอะไรดี ๆ ออก  
นัยน์ตาดำด้านมองอีกคนที่ดำผุดดำว่ายแล้วค่อยมุดตัวลงใต้น้ำอย่างเงียบเชียบ  
ตอนนั้นเองที่แบคฮยอนหันกลับมากวาดสายตาแล้วเจอเพียงความว่างเปล่า หันหัวไปทางไหนก็ไร้เงาสูงใหญ่จนใบหน้าเริ่มถอดสี ถึงจะมีพัฒนาการหลาย ๆ ด้านช้ากว่าเด็กรุ่นเดียวกันหลายเท่า แต่ก็เข้าใจคำว่าหวาดกลัวอย่างถ่องแท้
นอกจากในท้องแม่ก็ไม่มีที่ไหนแล้วที่ปลอดภัย
แต่ในระหว่างที่กำลังรู้สึกเคว้งคว้าง จู่ ๆ ก็มีพรายหนุ่มรูปงามโผล่พรวดขึ้นมาจากน้ำและพยายามล่อหลอกด้วยความเจ้าเล่ห์ โปรยเสน่ห์อันร้ายกาจผ่านแววตาเป็นประกาย เสยผมไปด้านหลังขณะอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี แต่ดูเหมือนว่าจะมีแค่คนเล่นพิเรนทร์ที่สนุก
ผิดกับคนถูกแกล้งที่ขวัญหนีดีฟ่อจนน้ำตาคลอเบ้า แบคฮยอนตกอยู่ในอาการซึมเศร้าและน้ำตาไหลราวกับสั่งได้ ร่างเล็กอยากหลบไปอยู่คนเดียวไม่ขอข้องเกี่ยวกับคนขี้แกล้งสักพัก แต่ก็ยังช้ากว่าช่วงแขนยาวที่ตวัดรัดเอวคอดในน้ำและรั้งกลับเข้าหาตัวจนหน้าท้องแบนราบเบียดเสียดกับลอนกล้ามจำนวนมาตรฐาน   
ฉันขอโทษ”  เอ่ยอย่างลนลานพานรู้สึกผิดมหันต์  
ชานยอลพยายามโน้มใบหน้าที่เบือนหนีให้หันกลับมา ปลอบประโลมด้วยสัมผัสท่ามกลางการขัดขืนเล็กน้อย ฝ่ามือใหญ่กุมพวงแก้มร้อนฉ่าไว้ คอยรองรับน้ำตาแห่งความเสียใจ ให้ร่างเล็กยืมมือเป็นที่พักพิงอิงแอบ เอาแก้มซบแล้วหลับตาร้องไห้เงียบ ๆ   

หลานชาย เสียไปเมื่อสองปีก่อน

คำพูดของเพื่อนเตือนความจำได้ถูกเวลา
พอดีกับที่ชานยอลประจักษ์แล้วว่าร่างเล็กนั้นมีตัวตนจริง ๆ
หยดน้ำที่กลิ้งบนความขาวเนียนถูกเช็ดออกไปด้วยปลายนิ้วโป้ง กร้านนิ้วยาวเกลี่ยผิวหมดจด ขจัดสิ่งที่บดบังสายตาออกไปไม่มีเหลือก็เพื่อจะยลโฉม  ผีทุกตนจะสวยเหมือนเธอไหม”  ถามด้วยความสงสัยระหว่างแบคฮยอนช้อนนัยน์ตาแดงก่ำมองอย่างเว้าวอน  ถ้าบอกว่าเป็นนางฟ้าฉันยังจะเชื่อมากกว่า”  ละเมอพูดคนเดียวตอนที่นิ้วเกี่ยวกับมุมปากบาง
ร่างเล็กงับปลายหัวแม่โป้งอย่างแผ่วเบา
เอาฟันขูด ใช้ปากรูดตามความยาวราวกับหิว ดูดนิ้วหนุ่มใหญ่เล่นเหมือนเด็กแรกเกิด 
เธอเป็นใครกันแน่นะ  เกือบจะหลงไปกับสิ่งยั่วยุ แต่ก่อนสงครามอารมณ์จะอุบัติ ร่างเล็กกลับหยุดมันด้วยการสวมกอดแล้วออดอ้อนเสียงเครือว่า  หนาว…”    
แบคฮยอนถูกอุ้มขึ้นฝั่งก่อน ส่วนชานยอลยังลอยคอในน้ำ กำลังจะปีนขึ้นตามแต่กลับมีเหตุให้ต้องชะงัก หลังจากสบสายตาเข้ากับรอยช้ำบริเวณข้อเท้าขาว เรื่องน่าสงสัยก็เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่ง ก่อนจะเป็นร่างเล็กที่ชักขากลับ ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งหนีทั้งสภาพชีเปลือย
เดือดร้อนให้ผู้ใหญ่ช่างสังเกตต้องรีบขึ้นจากน้ำและตามเก็บชุดให้ทั้งที่ตัวเองก็ยังใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย เสื้อค่อยระหว่างทาง ใส่แต่กางเกงไปก่อน ชานยอลเดินอาด ๆ จนตามทันและกอดรัดฟัดเหวี่ยงเพียงเพื่อให้แบคฮยอนใส่เสื้อผ้าก่อนจะเป็นปอดบวมตายหรือมีไข้ถามหา
ผู้ใหญ่เดินนำบ้างและส่งมือให้ร่างเล็กจับยามต้องข้ามลำธารเพื่อกลับไปทางเก่า สละรองเท้าให้สวม ถึงจะหลวมแต่คนได้ใส่ก็ยังชอบใจ ส่วนตัวเองยอมเดินเท้าเปล่าไปตลอดทาง   
ร่างเล็กขอเสื้อสูทตัวโคล่งไปใส่ สยายเสื้อเป็นปีกแล้วออกวิ่งเป็นวงกลมวนรอบตัวคนอายุมากกว่า เดี๋ยวก็ล้มหรอกบอกไม่ทันขาดคำ เกือบหน้าคะมำดีที่จับตัวไว้ได้และเพื่อตอบแทนแก่ความมีน้ำใจให้เลือกทำได้หนึ่งอย่าง แน่นอนว่าหนุ่มใหญ่ไม่ลังเลที่จูบอย่างมูมมามจัดให้ตามประสงค์ ส่วนการถลกชายกระโปรงขึ้นนั้น เป็นคำบัญชาจากสัญชาตญาณดิบล้วน ๆ







ว่ากันว่าช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ พอเจอกับตัวถึงเข้าใจ 
แต่มันก็ไม่ได้เร็วจนถึงขนาดไล่เก็บความความทรงจำไม่ทัน ชานยอลเก็บได้กระบุงใหญ่และมีกำลังวังชาแบกข้ามภูเขาได้เป็นลูก ๆ จิตใจกระโดดโลดเต้นเหมือนถูกล็อตตารี่รางวัลที่หนึ่ง รู้สึกเหมือนได้ย้อนวันวานกลับไปในช่วงแตกเนื้อหนุ่ม กระชุ่มกระชวยขึ้นมากหลังจากที่สองสามเดือนก่อนเอาแต่ใช้ชีวิตผ่อนส่งไปวัน ๆ  
ชายผู้ให้คำสัตย์สาบานว่าจะมีเมียเดียวจวบจวนสิ้นอายุขัยยอมรับว่าแอบเข็ดขยาดกับความรักและตั้งใจจะครองโสดไปจนวันตาย เคยเหน็บแหนมอดีตภรรยาว่าหาสามีใหม่ได้เร็วดีนะ แต่กลายเป็นว่าตัวเองก็ไม่ต่างกันและอาจจะหลงเด็กมากกว่า เรียกได้ว่าเข้าขั้นหัวปักหัวปำ
ตามติดยิ่งกว่าเงาตามตัวเพราะกลัวจะซนจนเลือดตกยางออก  
พนักงานบริษัทผันตัวเป็นพี่เลี้ยงเด็ก พาร่างเล็กมาล้างหน้าล้างตาที่ท่าน้ำแถวบ้านและอนุญาตให้เอาขาจุ่มน้ำได้ แบคฮยอนนั่งแกว่งขาสบายใจเฉิบตอนอีกคนกวักน้ำขึ้นมาลูบตามแขนตามขา ที่มีคราบดินติดตามร่างกายก็เพราะว่าหกคะล้ม ตอนจับกบเพราะรีบวิ่งหนีมันก็น่าสงสารอยู่หรอก แต่ผู้ใหญ่ก็อาศัยช่วงนั้นแอบมองข้างใต้ร่มผ้าจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน  
           ดวงตาสุกสกาวเห็นดอกไม้ลอยมากับกระแสน้ำกำลังจะผ่านเลยไปจึงชี้จะเอา ชานยอลที่แขนยาวแต่ไม่มากพอให้คว้าจึงหย่อนตัวลงน้ำไวเท่าความคิด เดินลุยทั้งกางเกงเพื่อหยิบสิ่งที่ร่างเล็กปรารถนามาให้ มือน้อยรับดอกไม้ไว้ด้วยความยินดีก่อนจะยกขึ้นดมฟุดฟิด
            ได้กลิ่นทีก็ยิ้มกว้าง อ้าปากงับทำท่าจะแทะกลีบสีอ่อนจนชานยอลต้องรีบห้ามว่าไม่ได้ มันไม่ใช่อาหาร โดยหารู้ไม่ว่าเมื่อวานร่างเล็กแอบกินไปแล้วตอนอยู่ตามลำพังและมีวีรกรรมอีกมากมายที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เช่นการทำให้ผู้ชายอีกคนตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ชอบเหรอ”  ชานยอลที่เห็นว่าไหน ๆ ก็เปียกแล้วเลยยืนในน้ำมันซะเลยเอ่ยปากถามเด็กชายตรงหน้าที่ไม่ได้ยึดแค่ท่าน้ำไว้คนเดียวแต่ยังยึดหัวใจที่เคยแห้งเหี่ยวไว้ได้ซะอยู่หมัด
หางตาเหลือบเห็นอีกดอกลอยอยู่ไม่ไกลจึงเก็บขึ้นมาทัดข้างใบหูขาว แต่ที่ทำไม่ใช่เพื่อพยายามเอาใจ แค่รู้สึกว่าดอกไม้เป็นสัญลักษณ์ของความงดงามที่จับต้องได้และไม่มีอะไรเหมาะกับร่างเล็กกว่านี้อีกแล้วก็เท่านั้น
สวย  แบคฮยอนยกมือคลำดอกไม้ที่กกหูแล้วชมตัวเองหน้าตาเฉย ตามด้วยการเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวานหันนิ้วชี้เข้าหาคนยืนต้านกระแสน้ำเอื่อย ๆ  หล่อ
ฮ่า ๆ”  เดินทางมาไกลได้หัวเราะแค่สักครั้งสองครั้งก็ยังถือว่าคุ้มกับค่าน้ำมันและถือโอกาสแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ  “ฉันชื่อชานยอล”  ช้าไปหน่อยแต่อย่างน้อยก็บอก ไม่อยากให้ร่างเล็กมองว่าไม่จริงใจและแน่นอนว่าในอนาคตจะบอกมากกว่านี้
หวังว่าอีกคนก็จะทำเหมือนกัน อาจต้องใช้เวลาแต่ก็จะรอ 
ไหนลองเรียกฉันว่าชานยอลซิ
หล่อ
ไม่ ฉันชื่อชานยอล
หล่อ”  จีบปากจีบคอตะเบ็งเสียงสู้  
หล่อก็หล่อ  ผู้ใหญ่ยอมแพ้ ดีกว่าต้องวิ่งหายาแก้อักเสบให้เด็กกิน  เห็นแบบนี้ฉันก็อายเป็นนะ”  หน้าบางเพราะคำชม แต่อมยิ้มเขินไม่ทันไรก็หลุดขำอีกหนเมื่อร่างเล็กเอาดอกไม้ที่เหลือทัดหูคืนและออกปากชมเปราะว่า  สวย
พูดกลับไปกลับมาจนหนุ่มใหญ่อยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วในสายตาร่างเล็กตัวเองดูเป็นยังไง
ตกลงฉันสวยหรือหล่อ เลือกมาสักอย่างสิ แบคฮยอน
เจ้าของชื่อชะงักไปเผยนัยน์ตาเลิ่กลั่ก หนึ่งในสิ่งที่รู้ก็คือชื่อของตัวเองแต่ร่างเล็กส่ายหน้าปฏิเสธ เหมือนไม่ชอบมันและไม่ต้องการให้อีกคนเอ่ยถึงชื่อนั้นอีกเด็ดขาด มีอาการลนลานและตื่นตระหนกจนชานยอลรีบกอดปลอบและกล่าวประโยคเดิมซ้ำ ๆ พูดว่าไม่เป็นไรนับครั้งไม่ถ้วน  ไม่อยากเลือก”  เสียงหวานพึมพำกับอก ท่าทางซึมลงถนัดตา
ไม่เป็นไร”  ไม่อยากเลือกก็ไม่ต้องเลือก กะอีแค่สวยหรือหล่อมันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่จะต้องมาบังคับให้ตอบกันอยู่แล้ว ความรู้สึกผิดสะท้านอยู่ในอกซ้ายของชายวัยกลางคน คนทำให้บรรยากาศกร่อยก็หน้าเดิม ๆ แต่ข้อดีของมันก็คือการเริ่มจับทางได้ว่าควรระวังคำพูด   
สุดท้ายแล้วแบคฮยอนอาจปฏิเสธการเลือกในครั้งนี้ได้ แต่ยังไงซะวันหนึ่งที่ต้องเลือกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จะมาถึงอยู่ดี  
เอาดอกไม้อีกไหม ให้ฉันทำอะไรไถ่โทษดี” 
มือใหญ่ดันไหล่แคบออกห่างตัว ใช้หัวโขกเบา ๆ เอาหน้าผากดันหน้าผาก เล่นด้วยเพราะอยากให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีกลับมามีชีวิตชีวา อุตส่าห์จุมพิตหน้าผากเสียงดังหวังว่าร่างเล็กจะให้ความสนใจแต่ก็ไม่ จูบตามไรผมก็แล้ว หอมตามแนวขมับลามลงแก้มอย่างไว ๆ กลีบปากหนาแนบกับปลายจมูกมน กดจูบริมฝีปากแดงก่ำแค่ภายนอก รวมถึงคาง ซอกคอ ไห้ปลาร้า หอมหัวไหล่ผ่านผ้าอย่างอ้อยอิ่ง ดูสิว่าจะนั่งนิ่งได้อีกนานแค่ไหน  
            ไม่รู้ว่าการบุกรุกร่างกายถูกบัญญัติว่าเป็นการละเล่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจเป็นเพียงความคิดของชายชอบฉวยโอกาสที่สรรหาเหตุผลมาอ้างเพื่อหักลบกลบความจริงที่ว่าตัวเองฝักใฝ่ในราคะและปรารถนาจะกระทำชำเราเด็กน้อยตั้งแต่อยู่ในป่าแล้ว
            แววตาร้ายกาจหลุบมองกำปั้นเล็กที่แสดงออกถึงความเกร็งจัด ชานยอลนวดจนสองมือนั้นยอมคลายออก แบคฮยอนนั่งมองการแสดงมายากลชิดติดขอบเวที เหมือนมีไฟเผากายทั้งที่ไม่เห็นแม้แต่เขม่าควัน ชายเบื้องหน้าบันดาลให้มวนท้องทั้งที่ไม่มีไม้กายสิทธิ์
มีเพียงริมฝีปากที่ตามติดผิวกายไปทุกหนทุกแห่ง ประกบปากกับท้องแขนทุกระยะ เคลื่อนมาจูบหน้าท้องแบนราบที่มีชุดเป็นกำบัง ก้มหน้างับตามผ้าที่ปกคลุมขาเล็กทั้งสองข้างอย่างเชื่องช้าและหยุดการกระทำหวาดเสียวไว้ที่หัวเข่าซึ่งปรากฏปื้นแดง ก่อนจะจูบร่องรอยจากการหกล้มแผ่วเบาแต่เข่านั้นแอบกระตุกนิดหน่อยเพราะความเจ็บที่ยังไม่หายไป
ใช้ปลายฟันกัดชายกระโปรงแล้วเลิกขึ้นเหนือหัวเข่าเข้าไปถึงโคนขา ลิ้นร้อนไล่เลียผิวละเอียดย้อนไปย้อนมาจนเด็กน้อยใจคอไม่ดี หายใจถี่ขึ้นทุกขณะ เผยอปากแต่ไม่กว้างมากเท่าขาที่ถูกจับแยกออก ผู้ใหญ่มุดหัวเข้าใต้กระโปรงเพื่อครอบครองพวงสวรรค์ขนาดกะทัดรัดด้วยปาก ทำอะไรประเจิดประเจ้ออย่างไม่กลัวใครจะเดินมาเจอฉากอัศจรรย์เข้า
ระหว่างเล้าโลมก็แอบงัดจรวดตัวเองออกมาขัดให้มันวาบ สาวด้วยมือจนแก่นกายแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ที่ถ้าฟาดกับก้นคงทำให้สะดุ้งไม่น้อย หนุ่มใหญ่ยอมวางมือจากของกระจุ๋มกระจิ๋ม โผล่หน้าออกจากกระโปรงแล้วยกมือเช็ดริมฝีปากที่เลอะคราบใส ๆ
เจ้าของนัยน์ตาดำด้านไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่ายืดตัวตรงแล้วตามด้วยการปลดกางเกงลง เป็นร่างเล็กที่กางขาออกอย่างรู้งาน เปิดสัญญาณไฟเขียวด้วยการโกยชายผ้าขึ้นและยอมให้คนยืนในน้ำลำเลียงท่อนไม้ผ่านเส้นทางลับแลได้สะดวก   
            การล่วงเกินครั้งแรกอาจอ้างได้ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ครั้งที่สองศาลก็อาจจะยังพอรับฟังเหตุผล แต่ถ้ามีหนที่สามเมื่อไหร่นั่นหมายถึงโทษประหารโดยไม่รอลงอาญา  
เพราะการเสพสังวาสกับเด็กอายุต่ำกว่าสิบห้าถือเป็นการกระทำนอกรีดและเป็นเรื่องที่คนในสังคมส่วนใหญ่พยายามปกปิดในขณะคนที่ส่วนน้อยมองว่าผิดมหันต์และหากดึงดันจะแสดงพฤติกรรมลบลู่กฎหมายก็ต้องเตรียมใจถูกตรวนในสักวัน
ชานยอลยอมรับโดยดุษฎีหากจะมีการลงโทษ คิดว่าความรู้สึกคงไม่ต่างกันเท่าไหร่เพราะยังไงทุกวันนี้ก็โดนล่ามด้วยโซ่ที่เรียกว่าจริยธรรมจนชิน มีความผิดอีกสักกระทงคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาหนักอกหนักใจในตอนนี้คือจะควบคุมผีร้ายในกายอย่างไร
กลายเป็นตัวเองที่ถูกตามใจ แม้จะรุนแรงด้วยแค่ไหนแบคฮยอนก็ไม่ปริปากบ่นสักคำ ทำแค่คล้องแขนกับคอแกร่ง ตัวโยนเพราะแรงกระแทกที่แบ่งช่วงเป็นช้าสลับเร็ว สองขาที่ห้อยต่องแต่งยกขึ้นเกี่ยวเอวสอบเป็นลูกลิง เอนตัวพิงตอนนั่งหมิ่นเหม่บนท่าน้ำ ไม่ค่อยถนัดแต่ก็พอทำเนา ก่อนจะตัดสินใจอุ้มเข้าเอวแล้วขยับช่วงล่าง ได้ทดสอบทั้งพลังกำลังขาและแขนไปด้วย ท่านี้ช่วยให้ความสัมพันธ์ยิ่งแน่นแฟ้น แน่นขนัดจนเด็กน้อยหวีดร้องไม่ขาดปาก
            ฝังหน้ากับบ่ากว้างด้วยความกระดากอาย หายใจกระท่อนกระแท่นระหว่างอีกคนแหงนหน้าซูดปาก กำลังเข้าสู่ช่วงกลางถ้ารักษาจังหวะสม่ำเสมอไว้ได้อีกไม่นานคงพิชิตเส้นชัย
รางวัลสำหรับผู้ชนะคือน้ำดื่มแก้กระหาย หลังจากได้เสียเป็นผัวเมียกันทั้งยืน ชานยอลก็ปล่อยร่างเล็กลงสู่พื้นราบ ให้นอนแผ่กับท่าน้ำแล้วจับสองขาขาวตั้งฉาก เหมือนสุตินารีแพทย์กำลังทำคลอดสอดนิ้วเพื่อวัดระยะห่างของหัวเด็กโดยมีร่างเล็กคอยส่งเสียงครางบอกทางให้กับหมอที่เริ่มคลำมั่วซั่ว แล้วมุดหัวเข้าใต้กระโปรงอีกครั้งและเลียตามโคนขาด้านในเสียงดัง
สร้างความขัดเขินให้กับแบคฮยอนที่นอนไม่เป็นสุข แถมยังถูกพลิกร่างเหมือนปลาหมึกย่างบนเตาถ่าน ร่างเล็กนอนคว่ำบนไม้กระดานแล้วค่อย ๆ คลานถอยหลัง หย่อนขาลงน้ำแต่ไม่ถึงกับยืนเหยียบพื้น ทั้งที่เท่าหัวเข่าแต่จู่ ๆ ก็มีคลื่นยักษ์ซัดเข้าอย่างจังจนกระเทือนทั้งร่าง
เพราะเอวสอบที่เคลื่อนไหวไม่บั้นยะบั้น ร่างเล็กถึงได้ตกอยู่ในสภาพสั่นเป็นเจ้าเข้าและต้องรีบเอามือเท้ากับขอบไม้ จิตใจร้อนรนเหมือนคนที่กำลังตกนรกมกไหม้ อเวจีสีชมพูเปิดประตูต้อนรับทั้งคู่ทุกเวลาและให้ความรู้สึกคล้ายกับว่ากำลังเดินอยู่บนสรวงสวรรค์  
ชานยอลยัดแก่นกายที่หลุดกลับเข้าไปใหม่แล้วดันเข้าข้างในสุดแรง แกล้งเว้นจังหวะ ทำช้าลงระหว่างที่ก้นงอนกระดกรับอัตโนมัติ หน้าขากับแก้มก้นบดเบียดกันไปมา ขยับเขยื้อนด้วยจังหวะจะโคนที่เริ่มพร้อมเพรียงและส่อสำเนียงถูกอกถูกใจเป็นพัก ๆ
เจ้าโลกถูกชักออกจากช่องทางคับแคบอย่างไว ก่อนจะพลิกร่างกายเล็กนอนหงายและให้กระเทิบขึ้นไปนอนดี ๆ มือใหญ่ประคองแก่นกายป้วนเปี้ยนส่วนปลายอยู่แถวทางเข้าสีแดงก่ำและเสียงทุ้มต่ำคำรามเสียงดังเมื่อสอดใส่แล้วผนังร้อนต้อนรับด้วยการตอดอย่างแรง
แบคฮยอนนอนมองสีหน้าทรมานนั้นด้วยความสนอกสนใจ เด็กน้อยรู้จักที่จะชายตามอง แต่ก็ต้องรีบหลับตาเพราะแดดแยง เพียงเอนตัวรับแรงกระแทกกระทั้นที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเสมือนเป็นโอกาสสุดท้ายในชีวิตแสนสั้น ชานยอลกดฝ่ามือกับโคนขาขาวในช่วงโค้งสุดท้ายระหว่างเคลื่อนสะโพกไม่ยั้งจนกระทั่งเกิดขีดสุด รับรู้ได้ถึงสิ่งที่พุ่งกระฉูดออกไป แค่อึดใจเดียวความเสียวก็ช็อตไปทั้งร่างจนได้กลิ่นไหม้จากผิว
ต่างฝ่ายต่างหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อจรวดติดล็อกไม่มีสารคัดหลั่งได้กระเด็นออกมาข้างนอกสักหยดและต้องรอจนกว่าอาการดูดจะทุเลา ผู้ใหญ่ใช้เวลานั้นทิ้งตัวราวกับอยู่บนเตียงนอน ล้มทับคนที่อ่อนเพลียพอกัน ทั้งยังรู้สึกอึดอัดด้วย แต่ท่าทางออดอ้อนนอนเกลือกแก้มกับอกแคบไปมาก็พอจะช่วยบรรเทาอาการครั้นเนื้อครั้นตัวไปได้มาก ร่างเล็กหันมาหัวเราะเพราะรู้จักจั๊กจี้แทน   
คุณหนูแบคฮยอนคะคุณหนู’ 
เสียงตามสายลมทำให้ฉากที่ควรจะจบด้วยความโรแมนติกกลายเป็นยิ่งกว่าละครแอคชั่น ตอนที่ป้าแม่บ้านค่อย ๆ เดินผ่านท่าน้ำไปทั้งคู่ก็อาศัยใต้ไม้กระดานเป็นที่ซ่อน
แบคฮยอนหัวเราะคิกคักที่หญิงอายุห้าสิบตอนปลายจับไม่ได้ไล่ไม่ทันแล้วค่อยหันตัวที่นั่งแช่ในน้ำไปมากกว่าครึ่งกลับมาหาชานยอลที่กอดซ้อนหลังไว้
แล้วรถใครมาจอดตรงนี้ล่ะเนี่ย        
ผู้ใหญ่ยักคิ้วหลิ่วตาให้เด็กน้อยที่ลอยคอในน้ำและกำลังเล่นเป่าฟอง
คุณหนูคะได้เวลาทานข้าวเย็นแล้วนะ
แสงตะวันลอดมาตามร่องไม้ตอนที่ฝ่ายอายุเยอะกว่าร่วมเล่นเป่าปาก สร้างฟองได้มหาศาลจนร่างเล็กตื่นตาตื่นใจ เอามือไล่ตะครุบฟองอากาศเป็นพัลวัน แต่ก่อนที่เสียงหัวเราะจะกลายเป็นปัญหา ราชสีห์ที่วันนี้ยอมลดตัวลงน้ำก็ได้คาบริมฝีปากบางมากินได้ทันท่วงที
            ปล่อยให้ผู้หญิงที่หันกลับมามองแล้วพบเพียงความว่างเปล่าเข้าใจว่าตัวเองหูฝาด
ป้าแม่บ้านส่งเสียงเรียกคุณหนูต่อไป ภาวนาให้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัยด้วยเถอะ   










แท็ก #ทงจีชานแบค กลับไปที่บทความ  https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1657465&chapter=3